พลิกรักทำนายใจ บทที่ 13.1 : ราชินีถือเหรียญผู้จะมาเป็นความรัก

พลิกรักทำนายใจ บทที่ 13.1 : ราชินีถือเหรียญผู้จะมาเป็นความรัก

โดย : แสนแก้ว

Loading

พลิกรักทำนายใจ โดย แสนแก้ว เรื่องราวของสายมูตัวแม่ที่ช่วยเหลือคนอื่นมากมาย แต่ความรักของตัวเองกลับไม่รอดราวกับดวงความรักอาภัพซะเหลือเกิน คงจะมีแค่ ‘พี่ภู’ เท่านั้นที่ดีต่อเธอเอ…เธอผู้รู้ใจลูกค้าดั่งมีตาทิพย์กลับไม่เคยมองเห็นหัวใจเขาเลยสักทีได้อย่างไร นวนิยายอ่านฟรีสนุกๆ ที่อ่านเอามีให้คุณได้อ่านที่ anowl.co

https://www.groovebooks.com/blog/นิยายใหม่จาก-groove-next-anowl-ลูกองุ่น-เปิดให้สั่งจอง-25-มี-ค-67/62

กลับออกมาจากตำหนักองค์เทพ แม่ของดวงศิริดูจะมีความสุขกว่าใคร ถึงกับฮัมเพลงลูกทุ่งที่ติดหูอยู่ในช่วงนี้แล้วปลีกตัวไปดูฟักแฟงแตงไทยที่ตั้งแผงขายอยู่หน้าตำหนัก ภูริสยิ้มละมุนละไม ต่างกับดวงศิริที่หน้านิ่วคิ้วขมวด คิดสะระตะวนไปวนมาเพราะเดือดร้อนแทนเขา

“พี่ภู ทำไมท่านพ่อพูดเหมือนพี่ภูกำลังตามจีบใครอยู่เลยล่ะ แอบมีสาวไม่บอกน้องเหรอ”

เขาหันมายิ้มให้ เหมือนไปอารมณ์ดีมาจากไหน

“ไม่รู้สิ เจอพี่เกือบทุกวันเคยเห็นพี่คุยกับใครไหมล่ะ”

“ก็ไม่อะ” หญิงสาวใช้นิ้วถูริมฝีปากไปมา “หรือจะเป็นคนที่ยังไม่ได้เจอกัน ท่านพ่ออาจพูดถึงเหตุการณ์วันข้างหน้า ไม่รู้ละ ถ้าพี่ภูชอบใครต้องรีบบอกน้องนะ”

“บอกแล้วหวานจะช่วยให้พี่สมหวังเหรอ”

“ไม่รู้อ้ะ เหมือนผู้หญิงคนนั้นจะมาทำให้พี่ภูเสียใจยังไงไม่รู้”

เขาหยุดเดินเมื่อมาถึงหน้าร้านขนมถังแตก ตั้งใจจะซื้อให้คนที่ชอบกินสักชิ้น

“พี่ไม่เสียใจหรอก ตัดสินใจแล้วพี่ไม่เคยเสียใจ”

ได้ยินคำยืนยันหนักแน่นอย่างนี้ ดวงศิริยิ่งเป็นห่วง ถอนใจดังเฮ้อยาวเหยียด

“เนื้อคู่พี่ภูมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ฮึ” มือน้อยเอื้อมไปตบบ่ากว้างแข็งแรง ดังปั้กๆ “ไม่เป็นไรนะ น้องจะปกป้องพี่ภูเอง”

ท่าทางกลัดกลุ้มของหญิงสาวทำให้ภูริสอดไม่ได้ที่จะยีศีรษะเธอเสียทีหนึ่ง กึ่งขันกึ่งเอ็นดู

 

ความคาใจในคำทำนายของคนทรงที่นับถือเป็นส่วนหนึ่ง ความเป็นห่วงในสวัสดิภาพหัวใจของภูริสก็ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนไหนๆ ก็ไม่มากเท่าความอยากรู้อยากเห็นส่วนตัวของแม่หมอเอง ดวงศิริรบเร้า คะยั้นคะยอจนในที่สุดพี่ภูของเธอก็ยอมจำนน ดูดวงไพ่ยิปซีด้วยจนได้

“พี่ว่าให้ไปดูคนอื่นให้หมดก่อน แล้วค่อยวนมาที่พี่ไง”

“หวานดูจนหมดแล้วเนี่ย เหลือพี่ภูคนสุดท้ายแล้ว”

เพื่อนน้อยนิดที่มีเธอดูให้หมดแล้ว ส่วนพวกพนักงานในออฟฟิศนั้น เดี๋ยวนี้ต้องลงคิวดูดวงกันข้ามเดือน ภูริสเกาข้างขมับ ทำหน้ายุ่ง ดวงศิริแลบลิ้นใส่ หมั่นไส้ที่เขาทำเป็นกลุ้ม ก็จะกลุ้มทำไมในเมื่อที่มานั่งกันอยู่ในคาเฟ่กึ่งสวนอาหาร บรรยากาศส่วนตัวนี่ก็เป็นเขาที่พามา

และที่สำคัญคือบนโต๊ะญี่ปุ่นไม้ตัวเตี้ยได้ปูผ้า กางไพ่เรียบร้อยแล้ว

ภูริสจับไพ่ภาพรวมทั่วไปตามธรรมเนียม พลิกเปิดจนครบแล้ว คนเป็นหมอดูก็ถูมือเข้าด้วยกัน

“เริ่มละนะ”

กวาดตามองทุกใบถ้วนทั่ว ครางอืออา โอ้ว้าว อะไรของตัวเองไป แล้วสรุปว่า

“พี่ภูเหมาะกับงานฝีมือ งานที่เป็นนายตัวเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นพนักงานประจำไม่ได้นะ ทำได้แหละแค่ไม่รุ่งเท่างานอิสระ ส่วนที่ทำอยู่ก็มั่นคงดี แต่ว่านะ…”

นิ้วเรียวจิ้มลงที่ไพ่เดอะเวิลด์ เดอะซัน และเดอะชาร์ริออท

“พี่ภูมีดวงทำงานต่างประเทศเด่นด้วยนะ”

แม่หมอเปิดไพ่ขยายสามใบ ได้สี่ถ้วย อัศวินถือถ้วย และหนึ่งเหรียญ

“เนี่ย พี่ภูจะมีชื่อเสียงโด่งดังกับงานต่างประเทศ เคยมีโอกาสเข้ามาแล้วจากผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกัน และเดี๋ยวจะมีโอกาสเข้ามาอีก แต่ดูพี่ภูไม่สนแฮะ ทำไมล่ะ ไปแล้วรุ่ง ดังเปรี้ยงเลยนะ”

ภูริสไม่มีทีท่าประหลาดใจแม้แต่น้อย เขามองหมอดูสาวที่ตื่นเต้นจนจะนั่งไม่ติดอย่างสงบ

“ทำไม อยากให้พี่ไปเหรอ”

“แหม ก็ถ้าไปแล้วพี่ภูได้ดีหวานก็เชียร์ไง ว่าแต่ไปทำงานอะไรเหรอ เหมือนพี่ภูจะรู้อยู่แล้ว”

เขาขยับตัวนั่งยืดขาท่าสบาย แล้วยักคิ้ว

“ให้ทาย”

“อืม นักกีตาร์”

“ไม่ใช่”

“นักดนตรี ช่างทำเอฟเฟกต์กีตาร์จริงจัง”

“ไม่ต้องไปทำที่โน่นหรอก ทุกวันนี้พี่ก็มีออร์เดอร์ส่งต่างประเทศอยู่แล้ว”

“จ้ะ พี่ภูเก่งที่สุด” ดวงศิริทำประชดล้อเลียนแล้วค่อยออดอ้อน “ใบ้ให้หน่อย”

ลูกดวงหนุ่มหันไปดื่มน้ำ กินขนม ทำลีลาอยู่ครู่ก็ยอมพูด

“เป็นสิ่งที่พี่ชอบและถนัด พอๆ กับงานดนตรี”

ดวงศิริเงยหน้าคิด เขาจบวิศวะมานี่นา งั้นก็ต้อง…

“วิศวกรพลังงาน”

ภูริสส่ายหน้า

“ไม่ใช่”

งั้นทายใหม่ เขามีความรู้เรื่องอิเล็กทรอนิกส์ ต้องไปเป็นช่างอะไรสักช่างแน่

“ช่างไฟ ช่างกล ช่างยนต์ สารพัดช่าง”

“ไม่ใช่”

นึกย้อนไปอีกนิด บ้านเกิดชุมพรของภูริสก็มีสวนทุเรียนเหมือนเธอ

“หรือว่า งานเกษตรกรรม”

“ไม่ใช่อีกนั่นแหละ”

พอกันที ดวงศิริยกมือสองข้าง

“อ้ะ ยอมแล้ว”

“พี่ชอบทำอาหารไง ไอ้ซีเพื่อนพี่น่ะ จำได้ไหม มันเปิดร้านอาหารอยู่ที่ออส ชวนพี่ไปเป็นเชฟตั้งหลายครั้งแล้ว”

ดวงตากลมๆ ก็เบิกกว้าง

“เออ จริงด้วยแฮะ นึกไม่ถึงเลย”

“นึกไม่ถึงอะไร พี่ทำให้กินเกือบทุกวัน”

ไม่พูดเปล่า ยังทำหน้างอนใส่คนเป็นน้องอีกด้วย เดือดร้อนดวงศิริต้องแกว่งมือโอ๋เอ๋ เชิญน้ำเชิญขนมให้ท่านพี่รับประทานยกใหญ่

และแล้วช่วงเวลาสำคัญที่คนเป็นหมอดูตั้งตาคอยก็มาถึง

“ต่อไปเป็นเรื่องความรักละนะ จากไพ่ภาพรวมเรื่องความรักมีการรอคอยจริงอย่างที่ท่านพ่อบอกเลย แต่เรามาเปิดแบบเฉพาะเจาะจงกันดีกว่า พี่ภูถามสิว่า ดวงความรักช่วงสามเดือนนี้เป็นยังไง”

“หือ ตั้งคำถามให้พี่เลยเหรอ”

“ใช่”

ดวงศิริทำเป็นเคร่ง จะหลุดขำก็ทำกระแอมกลบเกลื่อน

ภูริสเลือกหยิบมาสามใบ พอพลิกเปิดครบเท่านั้น…

“โอ้…โฮ้…” แม่หมอสาวร้องดังยังกับถูกรางวัลเลขท้าย “เดี๋ยวจะมีผู้หญิงดีๆ เข้ามานะพี่ภู”

เขาก้มมองไพ่อย่างสนใจแม้จะไม่เข้าใจสักใบ ดวงศิริจิ้มลงที่ไพ่รูปราชินีสวมชุดสีแดง นั่งบนบัลลังก์ ในมือถือเหรียญกลมสีทองมีลวดลายรูปดาวอยู่กึ่งกลาง

“ควีนเหรียญนี่ไม่เลวเลย เป็นผู้หญิงสวยดูดีมีคุณค่า อาจเป็นสาวไฮโซก็ได้ มีเงิน สง่างาม”

“โห โพรไฟล์ดีขนาดนี้เขาจะชอบพี่เหรอ”

คนถูกถามถลึงตาใส่ แล้วจิ้ม จิ้ม ลงไพ่หนึ่งถ้วย และเดอะเลิฟเวอร์

“ขึ้นชัดขนาดนี้แล้วยังจะถามอะไรอีก”

“อ้ะ งั้นพอได้คบกันแล้วจะเป็นยังไง”

แม่หมอขอสามใบ เขาจับไพ่มาวางเรียงกัน

พอพลิกอ่านเท่านั้น แม่หมอก็ร้องโอ้โฮ อืออาแบบที่เข้าใจอยู่คนเดียวอีกตามเคย

สองถ้วย สี่ไม้เท้า และหกไม้เท้า

“ดีนะพี่ภู เหมือนทั้งสองคนจะช่วยเหลือสนับสนุนเรื่องงานของกันและกันด้วย ไม้เท้าขึ้นเพียบเลย” หญิงสาวยิ้มกว้างยินดี “เขาจะมาทำให้พี่ภูมีความสุข ทำให้ชีวิตพี่ภูดีขึ้นนะ”

แต่แล้วกลับเอียงคอสงสัย

“เออ แปลกแฮะ ไม่เห็นแย่เหมือนที่ท่านพ่อบอกเลยนี่นา”

ภูริสไม่มีคำตอบให้ เขาไม่ได้มีความสามารถพิเศษทายอนาคตล่วงหน้าได้เหมือนใครแถวนี้ ฝ่ายแม่หมอสาวล้างไพ่ใหม่เสียรอบหนึ่ง จ้องเขาตาเป๋ง

“พี่ภู น้องอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครอะ ถามไพ่แล้วจับให้หน่อย ห้าใบ”

“ไพ่บอกได้เลยเหรอว่าใคร”

ชายหนุ่มถามอย่างทึ่งจัด

“ไพ่จะบอกเป็นคาแรกเตอร์น่ะพี่ภู ขยายควีนเหรียญข้างบนนั่นแหละว่าเป็นคนยังไง รายละเอียดในชีวิตอื่นๆ มีอะไรบ้าง”

ภูริสมองหน้าแม่หมอนิ่งอยู่อึดใจ คราวนี้เขาเลือกไพ่อย่างค่อนข้างลังเล

ราชินีถือเหรียญ ราชินีพระจันทร์ และเก้าเหรียญ

“ไอยะ ควีนเหรียญตามมาอีกแล้ว คาแรกเตอร์เขาชัดจริงๆ”

“คาแรกเตอร์เป็นยังไง”

“สวย เก่ง หน้าที่การงานดี ทำงานเกี่ยวข้องกับศิลปะ ของสวยๆ งามๆ แล้วก็โสดด้วย”

ชายหนุ่มเงยหน้ามองแม่หมอสาว ครุ่นคิดพิจารณาแล้วอมยิ้ม

“ยิ้มอะไรน่ะพี่ภู”

เขาไม่ตอบ ก้มลงมองไพ่แล้วถามต่อ

“เจอกันหรือยังเนี่ย”

แม่หมอชูนิ้วชี้

“ใบเดียวพอ”

เลือกปุ๊บ เปิดปั๊บ ออกมาเป็นไพ่หกดาบ แม่หมอตอบโป้งเดียวว่า

“ยัง”

“อ้าว”

“หือ อ้าวอะไรพี่ภู มีเดาไว้ในใจแล้วเหรอ”

สีหน้าของลูกดวงหนุ่มมีแววผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด

“มั่วหรือเปล่าเนี่ย พี่นึกว่าเจอกันนานแล้วซะอีก”

ดวงศิริได้ที ชี้นิ้วใส่

“อันแน่ ซุกหญิงไว้ไม่บอกน้องจริงด้วย”

“ไม่ได้ซุก พี่แค่เดาไว้เฉยๆ”

“อ้ะ งั้นน้องขอไพ่คอนเฟิร์มอีกที สามใบเลยก็ได้เอ้า”

ภูริสเลือกไพ่ขยายได้เดอะทาวเวอร์ อัศวินถือดาบ และหนึ่งถ้วย ดวงศิริตาโต ร้องอู้หูใหญ่

“ยังไม่เจอ แต่ใกล้มากแล้ว และนางจะเป็นคนพุ่งเข้ามาหาพี่ภูเอง”

ชายหนุ่มผงะไป

“พุ่งเลยเหรอ”

แม่หมอยืนยันด้วยการชี้ไพ่เดอะทาวเวอร์ หอคอยซึ่งมีสายฟ้าฟาดจนยอดหักโค่น โดยทั่วไปหมายถึงเรื่องร้าย มีความหมายค่อนข้างน่ากลัว แต่ในกรณีนี้แปลว่าจะเกิดเหตุรวดเร็วกะทันหันราวสายฟ้าฟาด

ภูริสกวาดตามองหน้าไพ่ทั้งหมดแล้วถอนใจ เอื้อมไปหยิบเล่มเมนูขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“เลิกดีกว่า สั่งอาหารกินกันเถอะ”

“อ้าว กำลังสนุกเลย ยังไม่ได้ดูการเงินกับสุขภาพเลยนะ พี่ภูไม่ตื่นเต้นหน่อยเหรอ”

“ไม่อะ พี่หิวแล้ว”

ช่างคำทำนายเถอะ เขาสบถกับตัวเองเช่นนั้น แต่ไหนแต่ไรมาเขาเชื่อตัวเองที่สุด มากกว่าอะไรอย่างอื่นอยู่แล้ว

 



Don`t copy text!