พลิกรักทำนายใจ บทที่ 21.2 : ไม่อยากให้เขารักกันเลย

พลิกรักทำนายใจ บทที่ 21.2 : ไม่อยากให้เขารักกันเลย

โดย : แสนแก้ว

Loading

พลิกรักทำนายใจ โดย แสนแก้ว เรื่องราวของสายมูตัวแม่ที่ช่วยเหลือคนอื่นมากมาย แต่ความรักของตัวเองกลับไม่รอดราวกับดวงความรักอาภัพซะเหลือเกิน คงจะมีแค่ ‘พี่ภู’ เท่านั้นที่ดีต่อเธอเอ…เธอผู้รู้ใจลูกค้าดั่งมีตาทิพย์กลับไม่เคยมองเห็นหัวใจเขาเลยสักทีได้อย่างไร นวนิยายอ่านฟรีสนุกๆ ที่อ่านเอามีให้คุณได้อ่านที่ anowl.co

ไม่เคยมีคืนไหนเลยที่ดวงศิริจะรู้สึกอ้างว้างมากเท่าคืนนี้ ยิ่งกว่าตอนเลิกรากับพุฒิพงศ์อย่างไม่อาจเทียบได้ เหมือนถูกทิ้งให้นั่งจมจ่อมเดียวดายบนดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง

บ้านพี่ภูไม่อบอุ่นเหมือนเดิมแล้ว ร้านฟาสต์ฟูดที่มักไปคุยงานต่อกับสิงโตและลูกแก้ว เธอก็ไม่อยากไป ไม่อยากฝืนปั้นหน้ายิ้ม เสแสร้งว่าแข็งแกร่งต่อหน้าน้องๆ ร่วมทีม

ห้องคอนโดฯ เงียบเหงาจนอยู่ไม่ได้ หญิงสาวจึงใช้เวลาในคืนนี้อยู่ที่ไนต์คลับแห่งหนึ่ง นั่งหน้าบาร์ท่ามกลางความครึกครื้นมึนเมาของผู้คนรอบกาย สั่งค็อกเทลราคาถูกที่สุดในเมนูมานั่งเป็นเพื่อน

มีชายหนุ่มแปลกหน้ามาทักทาย ขอชนแก้ว หญิงสาวก็ไม่สนใจ หนุ่มเจ้าสำราญอีกคนสั่งเครื่องดื่มมาให้ เธอก็ไม่รับ กระทั่งเขามาคะยั้นคะยอ ถึงเนื้อถึงตัว หญิงสาวก็ชักหงุดหงิดรำคาญใจจนจะลุกหนี

พอชายหนุ่มคนนั้นคว้าจับข้อมือไว้อย่างถือวิสาสะ ดวงศิริก็ขนลุกเกรียวไปทั้งตัว สัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่าง

ทันใดนั้น ใครคนหนึ่งมาปรากฏตัวคั่นกลาง เป็นคนที่เธอไม่นึกมาก่อนว่าจะได้เจอในเวลานี้

“จะทำอะไรคะ”

เจ้าของเสียงห้าวเข้มคืออริสานั่นเอง ดวงศิริอึ้งไป เวลานี้หม่าม้าน่าจะอยู่กับสามีที่ร้านสตาร์โรสเทอรีไม่ใช่เหรอ

หนุ่มเจ้าสำราญเจอท่าทีขึงขัง โกรธเกรี้ยวของผู้มาใหม่ก็หมดสนุก ยักไหล่ทีหนึ่งเหมือนเบื่อหน่ายแล้วแยกไปเอง

อริสาจะพาดวงศิริกลับบ้าน แต่เจ้าตัวยืนยันอยากนั่งมึนๆ ต่ออีกสักพัก เธอก็ตามใจอย่างอ่อนใจ

“แก ฉันไม่เหลือใครแล้ว พี่ภูไม่สนใจฉันแล้ว พอมีแฟนแล้วก็ทิ้งฉันเลย”

ดวงศิริครวญแผ่ว น้ำตาจะหยด อริสาส่ายหน้าระอาใจ

“แกนี่มันไม่เคยเห็นหัวใครจริงๆ กลุ้มใจขนาดนี้ก็ยังไม่ยอมนึกถึงเพื่อนอย่างฉันอีก”

อริสาหันไปสั่งเครื่องดื่มที่ไม่ได้ผสมแอลกอฮอล์กับบาร์เทนเดอร์ หญิงสาวรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วเพราะภูริสเล่าให้ฟังคร่าวๆ ทั้งยังฝากฝังให้ช่วยดูแลดวงศิริด้วย ส่วนที่ตามมาถูกนั่นเพราะเห็นชื่อร้านจากโลโก้ข้างแก้วในรูปภาพที่ดวงศิริโพสต์ลงอินสตาแกรมเมื่อไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก่อน

“ทำไมมาคนเดียว แฟนแกล่ะ” อริสาถามเนิบนาบอย่างใจเย็น

“ช่วงนี้ทะเลาะกันน่ะ เขาหาว่าฉันไม่สนใจเขา”

คำตอบที่เจือกระแสกระเง้ากระงอด ทำเอาอริสาโคลงศีรษะ

“ก็สมควรไหมล่ะ จะมีใครโอเคบ้างที่แฟนตัวเองมากินเหล้าร้องไห้เพ้อถึงผู้ชายคนอื่น”

ดวงศิริไม่ใส่ใจคำแดกดันนั้น เล่าเรื่องที่เจอมาเมื่อกลางวัน มนชิดาซ้ำเติมว่าอย่างไรบ้างเธอเล่าหมดถอดมาทุกคำพูด แถมใส่สีตีไข่อีกเล็กน้อย ปิดท้ายด้วยการคร่ำครวญสะอื้นขัดใจ

“แก ฉันไม่อยากให้พี่ภูคบยัยมายด์เลย ทำไมล่ะ โสดมาตั้งหลายปี มีแฟนทั้งทีทำไมถึงเลือกยัยแม่มดนั่น”

ฝ่ายผู้ฟังแม้จะเป็นเพื่อนสนิทอันดับหนึ่ง แต่ไม่ได้เอนเอียงเข้าข้าง ลูบหลังคนเมาเบาๆ แล้วว่า

“แกอย่าโกรธฉันนะหวาน ฉันว่ามายด์เขาพูดถูกว่ะ”

“อิ๋ม!” ดวงศิริสะบัดหน้าแรง “แกต้องเข้าข้างฉันสิ ทำไมใครๆ ถึงเข้าข้างยัยนั่นเรื่อยเลย นี่ฉันกำลังดวงตกอยู่ใช่ไหมใครๆ ถึงได้ทิ้งฉันไป แม้แต่แกที่อยู่ข้างฉันมาตลอดก็เปลี่ยนไป อิ๋ม”

“ฉันไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้น ฉันอยู่ข้างความถูกต้อง”

อริสารู้ดีว่าพูดอะไรไปตอนนี้ก็ไม่เข้าหู จึงปล่อยให้เพื่อนสาวออกฤทธิ์ออกเดชให้พอจนหมดแรงไปเอง เธอจูงไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้า สั่งน้ำเปล่ากับน้ำมะนาวมาให้ดื่มจนดวงศิริเริ่มสงบลง

“ตั้งสติ แล้วค่อยๆ คิดตามฉันนะหวาน”

หม่าม้าของเพื่อนๆ จับไหล่ทั้งสองข้างของดวงศิริ ตาจ้องตา

“หนึ่ง จะพูดว่ามายด์มาแย่งพี่ภูไปจากแกน่ะ ไม่ได้ เพราะแกกับพี่ภูไม่ได้เป็นอะไรกัน สมมติแกเป็นแฟนกับพี่ภู แล้ววันหนึ่งมายด์พยายามมาแทรกกลางจนพี่ภูเลิกกับแกไปคบเขา แบบนี้สิถึงเรียกว่าถูกแย่ง”

ดวงศิริเด้งตัวเล็กน้อย ตอบสวนเหมือนเด็กหญิงจอมงอแง

“แย่งสิ แย่งเวลา แย่งความสนใจ พี่ภูเคยแคร์ฉันกว่าใครแต่วันนี้เขาแคร์คนอื่นแล้ว”

“งั้นที่ผ่านมา แกพูดอยู่ตลอดไม่ใช่เหรอว่าอยากให้พี่ภูมีแฟน ควีนเหรียญอะไรนั่นน่ะ อยากให้เจอเร็วๆ ไม่ใช่หรือไง”

“มันก็ใช่ แต่ไม่ใช่ยัยมายด์ได้ไหมล่ะ”

“งั้นก็ติดที่เป็นมายด์ใช่ไหม ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น แกจะงี่เง่าแบบนี้หรือเปล่า”

เจอหม่าม้าดุเข้าหนึ่งคำ ดวงศิริก็กัดปากหน้างอง้ำ

“ถ้าแฟนพี่ภูเป็นนางสาวกอไก่ แล้วพี่ภูมีเวลาให้แกน้อยลงเพราะเขามีแฟน แกจะเป็นผีบ้าแบบนี้หรือเปล่า ลองคิดดูสิ”

“ฉันไม่ได้อยากเป็นแบบนี้หรอก ฉันอยากให้พี่ภูมีความรัก แต่ฉันก็อยากให้เขาดีกับฉันเหมือนเดิม”

“แล้วตอนแกมีแฟน แกให้เวลาพี่ภูได้เหมือนเดิมไหม”

ดวงศิริไม่ตอบ หลบตาไปมองแก้วน้ำมะนาวที่พร่องไปกว่าครึ่ง

“แกลองคิดดูดีๆ มายด์ผิดนักเหรอที่รักพี่ภู แล้วพี่ภูก็ผิดเหรอที่รักมายด์ ฉันว่าเขาสองคนเหมาะสมกันออก ศีลเสมอกันน่ะเคยได้ยินไหม ศีล ศรัทธา ปัญญา จาคะ แกต่างหากล่ะไม่เท่าพี่ภู”

“ไม่จริงอ้ะ”

“เอาตรงๆ นะ ฉันเคยเชียร์แกกับพี่ภูมาตลอด แต่แกก็ไม่เปิดใจให้เขาสักที มาวันนี้พี่ภูคบกับมายด์ฉันว่ามันก็ดีเหมือนกัน”

เห็นดวงศิริอ้าปากจะโวยวาย อริสาก็รีบขัดด้วยเสียงเข้มชัดว่า

“เพราะคู่นั้นคบกันแล้วช่วยเหลือสนับสนุนกันไง มายด์ดูแลพี่ภู และพี่ภูก็ดูแลมายด์ แกน่ะติดสบาย เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง พี่ภูคนดีก็คอยสปอยล์ตลอด ฉันรู้เว้ยว่าเขาเต็มใจ เขาไม่เคยเรียกร้องอะไรจากแกเลยด้วยซ้ำ แต่วันนี้มีผู้หญิงดีๆ มาดูแลพี่ภูบ้าง ฉันว่าฉันดีใจมากกว่าอีก”

น้ำตาเม็ดโตปริ่มริมขอบตาจวนเจียนจะร่วงลง ดวงศิริไม่อยากร้องไห้แต่กลั้นความอ่อนแอไว้ไม่ไหว เธอโดนแบบนี้อีกแล้ว โดนเปรียบเทียบกับมนชิดาตั้งแต่เด็กจนโตและใครๆ ก็บอกว่ามนชิดาดีกว่า เลิศเลอเพอร์เฟกต์ในขณะที่เธอทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่าง

เจ็บที่สุดคราวนี้เมื่อคนพูดคืออริสา เพื่อนสนิทที่สุดเพียงคนเดียว ดวงศิริเกือบจะลุกขึ้นขอตัวกลับบ้านแล้วหากว่าอีกฝ่ายไม่คว้ามือไปกุมไว้ก่อน ราวกับอ่านความคิดออก

“ฉันรักแกนะเว้ยหวาน เพราะเป็นเพื่อนรักถึงกล้าเตือนกันตรงๆ แกยังมีฉันนะ ใครจะดีขนาดไหนก็ช่างเขา ยังไงแกก็คือเพื่อนฉันและฉันจะอยู่เป็นเพื่อนแกเสมอ แต่ว่า…ฉันก็อยากให้แกได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น ถึงได้พูดตรงๆ แบบนี้ แกเข้าใจฉันใช่ไหม”

ดวงศิริก้มหน้าหลบตา สะอื้นเบาๆ

“ฉันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ”

อริสาส่ายหน้า ลูบหลังมือเบาๆ อยู่หลายที

“แกไม่ได้แย่ แค่ยังขาดสตินิดหน่อย บางครั้งฉันก็รู้สึกว่าแกติดอยู่ในโลกความฝัน โลกของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไพ่ยิปซี กับอะไรก็ตามที่แกนับถือ ฉันไม่ได้ว่าว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่มีจริง ฉันเองสมหวัง ได้แต่งงานกับคนที่ฉันรักมาตลอดก็เพราะพี่ไพ่ช่วยชี้แนะแกก็รู้ แต่ว่านะหวาน…”

อริสาเว้นไปครู่ ดวงศิริช้อนตาขึ้นมองอย่างสนใจใคร่รู้

“การกระทำไม่ใช่เหรอที่เป็นตัวกำหนดโชคชะตา ดูดวงได้พอเป็นแนวทาง แต่สิ่งสำคัญคือใช้ชีวิตอย่างมีสติและรอบคอบ และที่สำคัญนะ เห็นค่าคนใกล้ตัวบ้างเถอะ สิ่งดีๆ ที่แกได้รับแล้วเชื่อว่าช่วงนี้ดวงดีจังน่ะ ความจริงแล้วเป็นเพราะมีพี่ภูคอยดูแลช่วยเหลืออยู่ตลอดไม่ใช่เหรอ ทำไมแกถึงมองไม่เห็นน้ำใจเขา”

อริสาหลับตาลงข่มอารมณ์ ตั้งใจจะไม่โมโห แต่คลื่นความร้อนในอกก็ม้วนเกลียวขึ้นมาอีกจนได้

“แกคิดว่าแกรักพี่ภู แต่จริงๆ แล้วแกแค่รักตัวเอง” เธอหยุดเม้มปากนิดหนึ่ง “แกแค่ชอบที่พี่ภูมารัก มาดูแล และยกให้แกเป็นที่หนึ่งเว้ย เพราะถ้าแกรักพี่ภูจริง เวลาทำอะไรแกจะคิดถึงใจพี่เขามากกว่านี้ แล้ววันนี้พี่ภูมีความสุขกับแฟนเขา แกก็ควรจะยินดี”



Don`t copy text!