พลิกรักทำนายใจ บทที่ 24.1 : เมื่อความรักบินจากไป

พลิกรักทำนายใจ บทที่ 24.1 : เมื่อความรักบินจากไป

โดย : แสนแก้ว

Loading

พลิกรักทำนายใจ โดย แสนแก้ว เรื่องราวของสายมูตัวแม่ที่ช่วยเหลือคนอื่นมากมาย แต่ความรักของตัวเองกลับไม่รอดราวกับดวงความรักอาภัพซะเหลือเกิน คงจะมีแค่ ‘พี่ภู’ เท่านั้นที่ดีต่อเธอเอ…เธอผู้รู้ใจลูกค้าดั่งมีตาทิพย์กลับไม่เคยมองเห็นหัวใจเขาเลยสักทีได้อย่างไร นวนิยายอ่านฟรีสนุกๆ ที่อ่านเอามีให้คุณได้อ่านที่ anowl.co

 

“จะเป็นลม” ดวงศิริเข่าอ่อน ร้องถามเสียงหลง “พี่ภูหมดไปเท่าไรเนี่ย”

โต๊ะไม้ตัวใหญ่ที่เคยมีเครื่องมือช่างวางกองระเกะระกะ เป็นความรกที่นายช่างภูบอกว่านี่แหละเรียบร้อยแล้วเพราะของต้องใช้ทั้งนั้น เวลานี้ปรับรูปโฉมใหม่เป็นชุดคอมพิวเตอร์จอใหญ่

คีย์บอร์ดกับเมาส์เป็นแบบรับสัญญาณไวพิเศษ แต่อะไรก็ไม่น่าตื่นตาตื่นใจเท่ากับซีพียูที่จ้างประกอบพิเศษเพื่อการเล่นเกมออนไลน์โดยเฉพาะ

การเล่นเกมของดวงศิริจะไม่ใช่การเล่นเพลินๆ อีกต่อไป เพราะนี่คือชุดคอมพิวเตอร์ของนักกีฬาอีสปอร์ตมืออาชีพ

“เชื่อในตัวเองนะ ทำตามความฝันให้สำเร็จ แต่ก็อย่านั่งนานจนลืมไปอาบน้ำล่ะ”

ดวงศิริสำรวจ ลูบๆ คลำๆ ชุดอุปกรณ์ใหม่ของเธอ ภูริสก็ร่ายยาวต่อ

“อย่านอนดึกเกิน ลุกเดินบ้าง กินข้าวให้ตรงเวลา ออกกำลังกายด้วย”

“แหม สั่งไว้ละเอียดยิบเชียว นี่น้องนะ ไม่ใช่ลูกสาว”

“ก็จากนี้พี่ไม่ได้อยู่คอยดูแล้วนี่นา”

ประโยคธรรมดาแต่ชวนอ้างว้างเหลือเกิน ดวงศิริกล้ำกลืนความเหงาไว้ลึกสุดใจ ใช่…จากนี้ไม่มีพี่ภูแล้ว เธอจะต้องเข้มแข็งด้วยตัวเองให้ได้

ทันใดนั้น หญิงสาวก็นึกอะไรบางอย่างได้

“เดี๋ยวนะ พี่ภูเอาเงินมาจากไหนตั้งมากมายเนี่ย”

ชายหนุ่มทำหน้างอนแบบที่เธอคิดว่าดูกวนมากกว่า

“พี่ดูยากจนขนาดนั้นเลยเหรอ”

“อ้าว งั้นต้องถามกลับว่าพี่ภูขายเอฟเฟกต์กีตาร์ได้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ”

“พี่ไม่ได้ทำงานอย่างเดียวสักหน่อย จากที่ไปเล่นคอนเสิร์ตออร์เคสตราพี่ก็เริ่มมีแฟนคลับใช่ไหม พอเปิดช่องของตัวเอง โคฟเวอร์เพลง แต่งเพลง ไลฟ์ดนตรีเปิดหมวกบ้าง มันก็มีรายได้เข้ามาเรื่อยๆ”

“อย่ามาอำน้อง มันไม่น่าจะถึงแสนๆ แบบนี้หรอก บอกมาซะดีๆ”

ดวงศิริลองนับนิ้วดู ชุดคอมพิวเตอร์สายอีสปอร์ต ปรับปรุงบ้าน ซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ แล้วยังเช็กเงินสดหนึ่งแสนบาทที่ให้ไว้อีก ยังไม่รวมที่ชายหนุ่มซื้อตั๋วเครื่องบินไปออสเตรเลีย เงินก้นถุงสำหรับกินอยู่ที่นั่น แสดงว่าพี่ชายผู้เรียบง่ายสมถะคนนี้มีรายได้ไม่ธรรมดา

เจอสายตาคาดคั้นหนักเข้า ภูริสก็เฉลยว่า

“พี่เทรดคริปโต”

ชัดเจน…ดวงศิริสิ้นสงสัย และไม่รู้กลัวเธอไม่เชื่อหรืออย่างไร คุณพี่ท่านจึงเสริมอีกว่า

“พอร์ตหุ้นพี่ก็มี”

คนฟังก็หน้าหงาย อยากจะร้องอ๊ากดังๆ

“ซุ่มรวยเงียบเลยนะ ไม่เคยบอกน้องเลย”

“ความเสี่ยงมันสูง พี่เป็นห่วง”

“ระวังดอยนะพี่ภู” เธอสะดุ้ง ตาวาวเมื่อนึกได้ “ให้น้องเปิดไพ่เช็กให้ไหม ดวงการเงินเป็นยังไง โชคลาภ ลงทุนรุ่งหรือเปล่า เอาจริงๆ มันเปิดได้ถึงขั้นว่าเหรียญนี้ซื้อดีไหม หุ้นตัวนี้จะทำเงินไหมเลยนะ เอามะ”

“ไม่เป็นไร พี่มีนี่แล้ว”

เขาเปิดโทรศัพท์มือถือให้ดู มีคอร์สเรียนออนไลน์ด้านการเงินเพียบ ตั้งแต่เทคนิคการเทรดเบื้องต้น การอ่านกราฟ ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ ไปจนถึงการอ่านงบและลงทุนหุ้นระยะยาว ภูริสใช้นิ้วชี้แตะขมับเบาๆ

“ไม่ต้องใช้ไพ่หรอก ใช้ปัญญาตัวเองก็ได้ผลอยู่”

ดวงศิริหน้างอ กระแทกตัวลงนั่งที่โซฟา

“ใช่สิ คนไม่เชื่อดวงอย่างพี่ภูรวยไปแล้ว ส่วนคนเชื่อดวงอย่างหวานน่ะถังแตก”

เขาส่ายหน้าระอาเด็กดื้อจอมพาล แต่ยังใจเย็นพอจะพูดไป

“พี่ไม่ได้ว่าใครงมงายหรอกนะ ไม่ได้ลบหลู่ด้วย แต่อยากให้หวานรู้ว่าการกระทำของเรามีส่วนมากๆ ที่จะกำหนดโชคชะตา หวานเองก็น่าจะรู้ดีที่สุด เพราะเวลาคนมาดูดวงแล้วมีเกณฑ์ไม่ดีเรื่องนู้นเรื่องนี้ หวานก็ยังให้คำแนะนำเพื่อให้เขาปรับตัว จะได้ไม่เกิดเรื่องร้ายๆ อย่างที่จะเกิดตามดวงไม่ใช่เหรอ”

ชายหนุ่มนั่งลงเคียงข้าง ลูบบ่าเบาๆ อย่างเอาใจ

“ดูดวงเป็นแนวทาง แต่สิ่งสำคัญคือสติและความรอบคอบ เชื่อมั่นในทางเดินของตัวเอง อย่าไปหวั่นไหว ต่อให้เป็นช่วงดวงตกก็ขอให้มั่นใจที่จะเผชิญหน้าและผ่านมันไปให้ได้นะ”

ดวงศิริหายงอนแล้ว เพียงแค่คิดว่าต่อไปนี้จะไม่มีคำพูดอบอุ่นกับสัมผัสนุ่มนวลนี้อีก เธอก็ไม่อยากให้เวลาที่เหลือไม่เป็นความสุขสักนาที

ทันใดนั้น หญิงสาวนึกอะไรได้ ตอนนั้นที่เปิดไพ่ตัดสินเพื่อเลือกระหว่างภูริสกับเทพทัต เธอได้ไพ่พระราชาถือเหรียญ

ตอนนั้นเธอแปลว่า ให้เลือกคนที่ร่ำรวย ดูดีมีชาติตระกูล แต่จริงๆ แล้วคิงเหรียญแปลได้ทั้งคนที่มีเงินจริงๆ หรือคนที่ดูรวยดูไฮโซ

หญิงสาวหันขวับมองคนข้างกาย “พี่ภูมีเงินเก็บเท่าไรเหรอ”

คนถูกถามก็เหวอไป

“ฮะ ถามกันแบบนี้เลยเหรอ”

“อื้อ ถามแบบนี้แหละ”

เขาชูนิ้วขึ้นมาแปดนิ้ว ดวงศิริเดาว่าแปดแสน แต่ชายหนุ่มส่ายหน้า

“แปดล้านเหรอ”

เขาส่ายหน้าอีกทีก่อนเฉลย “แปดหลัก”

“บ้าบอ”

เธอเอามือกุมหัวแล้วเลื่อนลงมาลูบหน้า อันที่จริงเธอไม่รู้แน่ชัดว่าเทพทัตมีเงินเท่าไร รู้แค่ว่าเขามาจากครอบครัวคนรวย เป็นเจ้าของธุรกิจ แต่เป็นธุรกิจเงินหมุนที่เขาเองต้องสำรองจ่ายอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อเรื่องแดงขึ้นมาจึงพบว่า ออฟฟิศ รถตู้ โกดัง ไปจนถึงโรงงานประกอบเฟอร์นิเจอร์ ล้วนซื้อด้วยเงินผ่อนและยังผ่อนไม่หมด เวลานี้เจ้าหนี้ตามตัวเทพทัตกันให้ควั่กทีเดียว

ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายท่าทางเรียบง่ายสมถะ ชอบใส่เสื้อยืดกับกางเกงฟุตบอลอยู่ในบ้านศิลปินอันเงียบสงบจะร่ำรวยกว่าหนุ่มจบโทเมืองนอก นักธุรกิจใหม่ไฟแรง หลานชายท่านประธานบริษัทไปได้ หรือบางทีอาจเป็นเพราะเขาใช้ชีวิตสมถะ มีสติและรอบคอบ จึงมีเงินก้อนเก็บไว้

“ช่างมันเถอะหวาน เงินน่ะ ไม่ตายก็หาใหม่ได้ มีฝีมือซะอย่าง” เขาตบบ่าแล้วยักคิ้วให้ คงเข้าใจว่าที่ถามนั้น เพราะยังเศร้าสลดใจไม่หายที่โดนโกง

“ขยันหาเงิน ใช้จ่ายแค่จำเป็น เห็นคุณค่าของสิ่งที่มีอยู่ เก็บออม ลงทุนต่อยอด เรื่องเงินมันก็วนอยู่เท่านี้แหละ นานไปเดี๋ยวก็รวย”

คำปลอบใจของเขามีแต่จะบีบคั้นให้ดวงศิริยิ่งเศร้าหนัก ไม่ใช่เพราะเสียดายเงิน แต่เสียใจที่เธอเลือกผิดไปแล้ว

ภูริส อริสา หรือแม้แต่ท่านพ่อร่างทรงองค์เทพยังย้ำเตือนเสมอว่า ให้ใช้สติและความรอบคอบในการดำรงชีวิต เธอเพิ่งกระจ่างแจ้งใจเอาเดี๋ยวนี้เองว่าหมายถึงอะไร

หากวันนั้นเธอถามใจให้แน่ชัดว่ารักใคร หากเลือกสิ่งที่ใจต้องการ ไม่ใช่เลือกแบบฉาบฉวยจากหน้าไพ่ใบเดียว เรื่องทั้งหมดคงไม่เป็นแบบนี้

หญิงสาวหันมองคนข้างกายอย่างอ่อนล้า

“พี่ภู ไม่ไปไม่ได้เหรอ”

เขามีสีหน้าอึดอัดทีเดียวยามที่ต้องตอบว่า

“หวานก็รู้ว่าพี่ต้องไป”

ศีรษะน้อยๆ เอนซบบ่า แขนเรียวๆ ก็โอบรอบตัวเขาไว้อย่างหวงแหน

“ถึงเวลาที่หวานต้องยอมรับความจริงแล้วใช่ไหม ว่าจากนี้ไปจะไม่มีพี่ภูของหวานอีกแล้ว หวานขอโทษนะ ที่ผ่านมาหวานไม่เคยจะซาบซึ้ง ไม่เคยตอบแทนสิ่งดีๆ ที่พี่ภูทำให้เลย เอาแต่เป็นฝ่ายรับตลอด ไม่ได้ดูแลพี่ภูบ้างเลย”

“พี่ไม่เคยถือเป็นเรื่องสำคัญเลยหวาน”

“พี่ภูไปกับคนที่ดีกว่า หวานควรจะยินดีใช่ไหม”

ไร้คำตอบ ชายหนุ่มนิ่งเงียบอย่างไม่อาจเดาได้ว่ากำลังคิดอะไร ดวงศิริค่อยๆ หลับตาลง กอดเขาแน่นขึ้น หวังให้วันนี้ที่มีกันแค่สองคนเหมือนเมื่อก่อน ยืนยาวไปอีกนานเท่านาน



Don`t copy text!