ฤทัยยักษ์ บทที่ 8.1 : ยักษ์แสงอาทิตย์

ฤทัยยักษ์ บทที่ 8.1 : ยักษ์แสงอาทิตย์

โดย : เวฬุวลี

Loading

ฤทัยยักษ์ โดย เวฬุวลี นวนิยายที่อ่านเอานำมาให้อ่านออนไลน์ที่ anowl.co กับเรื่องราวของ ‘ฤทัยมาศ’ ตำรวจสาวที่้องเข้าไปสืบคดีที่เชื่อมโยงกับอดีตของเธอที่มีร่วมกับยักษ์หนุ่มจากวัดโพธิ์นามว่า ‘แสงอาทิตย์’ และยังไปเกี่ยวพันกับเบื้องลึกเบื้องหลังของศึกยักษ์วัดโพธิ์กับยักษ์วัดแจ้งที่เล่าขานกันมาเนิ่นนาน

 

คืนนี้ก็เหมือนเช่นเคยที่แสงอาทิตย์เดินไปส่งเฟืองมายที่บ้าน

การแสดงโขนวันนี้เลิกค่อนข้างช้า เมื่อทั้งสองเดินไปตามทาง จึงเห็นว่ารอบข้างนั้นมืดแล้ว จันทร์ในคืนเดือนแรมส่องสว่างเพียงน้อยนิด จนทำให้เฟืองมายรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

แสงอาทิตย์รีบเร่งฝีเท้าตาม อันที่จริงถ้าใช้อำนาจวิเศษที่เขามี ระยะทางเพียงแค่นี้ไม่ใช่ปัญหา แต่เขายังอยากคบหากับเฟืองมายในฐานะมนุษย์ธรรมดาผู้หนึ่ง

เฟืองมายเดินนำหน้าเขาไปเล็กน้อย แต่แล้วก็หยุดชะงัก เมื่อเห็นผู้ชายวัยหนุ่มฉกรรจ์คนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหน้า

“เอ็งไปไหนมาเหรอเฟืองมาย”

“ไม่ใช่เรื่องของพี่ พี่เวือง…”

หญิงสาวโต้ตอบอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง เวืองเป็นคนในชุมชนเดียวกับหล่อนที่เทียวไล้เทียวขื่อมาหาหล่อนด้วยเจตนาที่ปิดไม่มิดว่าต้องการได้หล่อนไปเป็นเมีย แต่ด้วยนิสัยเกกมะเหรกเกเรของเขา เฟืองมายจึงตั้งใจแน่วแน่ว่าหล่อนจะไม่ยอมร่วมหอลงโรงกับชายผู้นี้ ท่าทีปฏิเสธของหญิงสาวก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่มต้องการจะเอาชนะหล่อนมากขึ้น

“ไปดูโขนที่วังอีกงั้นหรือ” ชายผู้นั้นหันมามองแสงอาทิตย์อย่างริษยา “แถมมีผู้ชายมาส่งถึงบ้าน เพราะแบบนี้ใช่ไหม เอ็งถึงปฏิเสธข้า”

“ไม่เกี่ยว ฉันเคยบอกพี่ไปแล้วยังไงเล่า ว่าฉันไม่ได้รักไม่ได้ชอบพี่”

“แล้วเอ็งชอบใคร!” เวืองย่างสามขุมเข้ามาหาเฟืองมาย “ชอบไอ้ห่านี่ดอกหรือ มันไม่ใช่คนญวนเหมือนกันกับเรา พ่อเอ็งไม่มีวันยอมให้เอ็งแต่งกับมันแน่”

“หลีกไป ฉันจะกลับบ้าน”

ชายที่ชื่อเวืองนั้นยังพยายามดึงแขนของเฟืองมายไว้ ทั้งสองยื้อยุดฉุดกระชากกัน แสงอาทิตย์เดินเข้าไปกันเฟืองมายไว้ และผลักด้วยกำลังเพียงเสี้ยวเดียวของยักษ์ ชายที่ชื่อเวืองนั้นก็กระเด็นไปอีกทาง

หญิงสาวตกใจจนหน้าซีดเผือด แสงอาทิตย์ถามด้วยความเป็นห่วง “เป็นอะไรหรือเปล่า”

ในระหว่างที่เขาไม่ได้ระมัดระวังตนเองนั้น เวืองก็คว้ามีดพกที่แอบไว้ขึ้นมา และฟันฉับไปที่กลางหลังของแสงอาทิตย์

เฟืองมายกรีดร้อง ขณะที่แสงอาทิตย์โกรธจัด บาดแผลแค่นี้ไม่ทำให้พญายักษ์อย่างเขาต้องเจ็บหนัก แต่เขาโกรธมนุษย์ผู้ลอบกัดคนนี้ จนไม่อาจจะควบคุมตนเองได้อีกต่อไป

ดวงตาสีนิลของเขา เริ่มค่อยๆ กลายเป็นสีแดง ก่อนที่เขี้ยวของยักษ์จะโผล่พ้นจากปากออกมาพร้อมกับเสียงคำรามดังลั่น

เวืองตกตะลึง มือถึงกับอ่อนจนจับมีดไม่อยู่ เขาเตรียมตัวที่จะวิ่งหนี แต่แสงอาทิตย์ไม่ปล่อยให้ผู้ที่ทำร้ายเขาและเฟืองมายหลุดรอดไปได้ เขาใช้แขนตะปบไปที่ใบหน้าของเวืองเต็มแรงจนคอบิด เวืองลอยคว้างอยู่กลางอากาศ ก่อนที่จะตกลงมาและขาดใจตายอยู่ตรงนั้น

ความตาย…และจากนั้น ก็กลายเป็นความเงียบ…

แสงอาทิตย์เพิ่งมีสติกลับมา หันไปมองเฟืองมาย

เฟืองมายตัวสั่นเทา…แสงอาทิตย์รู้ว่าหล่อนเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขาแล้ว

ใบหน้าของยักษ์…

และตอนนี้คนที่หล่อนกำลังกลัว ไม่ใช่อันธพาลอย่างเวือง แต่เป็นเขา…

แสงอาทิตย์ก้มหน้านิ่งอยู่แบบนั้น ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำพูดใดออกมา จนกระทั่งเฟืองมายเอ่ยขึ้นมาก่อน

“พี่…พี่แสง…พี่เป็นใคร พี่เป็นอะไรกันแน่”

ยักษ์หนุ่มทนไม่ได้ที่จะตอบคำถามนั้น เขาเร้นกายหายตัวไปจากที่นั่นโดยพลัน และไม่หันกลับไปมองเฟืองมายอีกเลย

 

“อะไรกัน อยู่ๆ คุณก็หนีหน้าไปเลยงั้นเหรอ แบบนี้ใช้ได้ที่ไหน” ฤทัยมาศพูดอย่างหงุดหงิด “คุณก็แค่ไปช่วยเธอจากคนที่มาหาเรื่องไม่ใช่เหรอคะ”

“ใช่” แสงอาทิตย์เล่าให้ฤทัยมาศฟังเพียงแค่นั้น “แต่ตอนที่ผมสู้กับอันธพาลนั่น…ผมทำให้เธอเห็นตัวจริงของผม…ตัวจริงที่ดุร้าย น่ากลัว…และไม่มีทางที่ใครจะชอบได้”

“ไม่จริงหรอก” ฤทัยมาศยังคงแย้งชายหนุ่ม “ถ้าเธอรักตัวตนของคุณจริงๆ ต่อให้คุณจะเป็นยังไง เธอก็ไม่เลิกรักคุณแน่ๆ”

แสงอาทิตย์สบตากับฤทัยมาศ แววตาที่เชื่อมั่นและมั่นคงต่อความรัก ไม่ได้แปรเปลี่ยนไปจากแววตาที่เขาเคยเห็นจากดวงตาของเฟืองมายเลย

ยักษ์หนุ่มอดยิ้มไม่ได้ เวลานับร้อยปีที่ผ่านมา…ได้พิสูจน์แล้วว่าถึงความรักของเขาจะไม่สมหวัง แต่เขาก็เลือกรักคนไม่ผิด

ฤทัยมาศไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มกำลังคิดสิ่งใดอยู่ แต่เธอก็ขอให้เขาเล่าบทสรุปของความรักระหว่างเขาและหญิงสาวผู้นั้น

“แล้วยังไงต่อคะ จากนั้นคุณได้เจอเธออีกไหม…”

 

เฟืองมายยังคงแวะเวียนมาดูโขนที่วังแถวท่าเตียนอีกหลายต่อหลายครั้ง

หญิงสาวหวังว่าเธอจะได้เจอใครบางคนที่นั่น แต่ไม่ว่าเธอจะดูโขนกี่ครั้งกี่หน เธอก็ไม่เคยพบกับชายหนุ่มลึกลับนามว่าแสงคนนั้นอีกเลย

หล่อนไม่สามารถตอบตนเองได้ ทั้งที่หล่อนก็รู้ว่าเขาอันตรายและน่ากลัวมากเพียงใด เหตุใดเธอถึงไม่สามารถลืมเขาได้เสียที

ยิ่งวันนี้เป็นวันที่คณะโขนจะแสดงเรื่องศึกแสงอาทิตย์ เหมือนวันแรกที่เธอเจอกับแสง เฟืองมายก็ยิ่งคิดถึงเขามากขึ้น

การแสดงโขนวันนี้เริ่มช้ากว่าทุกวัน จนเริ่มมีเสียงบ่นจากชาวบ้านที่มารอดู เฟืองมายเกือบจะถอดใจกลับบ้านไปก่อนแล้ว แต่เมื่อการแสดงเริ่มต้นขึ้น เฟืองมายก็ชะงัก เมื่อมองไปที่เห็นใครบางคนที่ขึ้นเวทีมาในชุดโขนของยักษ์แสงอาทิตย์

แม้ไม่ได้เห็นใบหน้าที่อยู่ภายใต้หัวโขนนั้น แต่ท่ายืนและท่าเดินที่องอาจนั้นทำให้เฟืองมายอดคิดถึงชายหนุ่มที่หล่อนรอคอยจะเจอหน้าตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาไม่ได้

ร่างของยักษ์แสงอาทิตย์ร่ายรำไปตามบทบาท จนกระทั่งจุดจบสุดท้ายที่เขาต้องศรพรหมาสตร์ของพระรามจนตายพร้อมกับจิตรไพรี

๏ เมื่อนั้น                            สองกษัตริย์สุริย์วงศ์ทรงศิลป์

เห็นศรแสงอาทิตย์อสุรินทร์                  มาต้องหมู่กระบินทร์โยธี

พระนารายณ์ทรงจับพรหมาสตร์            พระลักษมณ์ชักพลายวาตศรศรี

พาดสายหมายสองอสุรี                      ภูมีผาดแผลงไปด้วยฤทธิ์ ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เชิด

 

๏ วานรกลับเป็นขึ้นมา              อสุราล้มตายอกนิษฐ์

พรหมาสตร์ต้องอกแสงอาทิตย์              พลายวาตต้องจิตรไพรี

ก็ล้มลงกับพื้นพระสุธา                       ด้วยกำลังศักดาศรศรี

พิษกลุ้มรุ่มร้อนดั่งอัคคี                       ก็สุดสิ้นชีวีด้วยกัน ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ โอด

ร่างในชุดโขนของยักษ์แสงอาทิตย์ล้มลงกับเวที พร้อมกับเสียงปรบมือจากคนดู เฟืองมายลุกขึ้นทันใด เธอรู้สึกว่าผู้ที่สวมบทบาทเป็นแสงอาทิตย์ในวันนี้ แสดงได้สมบทบาทและน่าเศร้ายิ่งกว่าวันไหนๆ

เมื่อการแสดงโขนสิ้นสุดลง หญิงสาววิ่งไปที่หลังเวที สังหรณ์ใจว่าเธอจะได้พบกับ ‘เขา’ อีกครั้ง

“คนที่แสดงเป็นแสงอาทิตย์อยู่ไหนจ๊ะ ฉันอยากเจอเขา…”

หญิงสาวเข้าไปบอกความต้องการของตนกับชายวัยกลางคนที่หล่อนจำได้ว่าเขาเป็นหัวหน้าของคณะโขน

“เอ็งมาช้าไปแล้วนังหนู เขากลับไปแล้วเมื่อกี้”

“ไปไหนจ๊ะ ลุงรู้ไหม”

ชายชราคนนั้นส่ายหน้า “ข้าไม่รู้ คนที่เล่นเป็นแสงอาทิตย์เกิดป่วยขึ้นมา แล้วพ่อคนนี้ก็เข้ามาขอมาเล่นแทน แต่ฝีมือมันดีอยู่นะ นี่ข้ายังไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามของมันเลย…”

เฟืองมายไม่รอจนจบประโยคนั้น หญิงสาวก็รีบวิ่งออกไปในทิศทางที่หล่อนคิดว่าจะพบกับชายหนุ่มที่หล่อนตามหา วิ่งมาจนเหนื่อยหอบ หล่อนก็เริ่มมีความหวังเมื่อเห็นร่างสูงที่หล่อนคุ้นเคยดีเดินอยู่ไม่ไกล หญิงสาวก็รีบวิ่งไปคว้าแขนดึงรั้งเขาไว้

“พี่แสง…”

ร่างสูงนั้นหยุดชะงัก แต่ยังไม่ยอมหันมาหาหล่อน หญิงสาวรวบรวมความกล้าทั้งมวลเดินไปอยู่ต่อหน้าเขา

“พี่แสง…ทำไมพี่ไม่บอกฉัน ที่จริงแล้ว…พี่ก็คือแสงอาทิตย์ใช่มั้ย”

แสงอาทิตย์สบตาของเฟืองมายอยู่นิ่งนาน ก่อนสารภาพกับหล่อน “ใช่ ฉันเป็นยักษ์แสงอาทิตย์…เป็นพวกเดียวกับทศกัณฐ์ เป็นมารร้าย ที่สมควรโดนฆ่าตาย”

“พี่จะเป็นอะไร ฉันไม่สนทั้งนั้น…” เฟืองมายน้ำตาคลอ แต่เสียงที่บอกกับแสงอาทิตย์กลับมั่นคงกว่าครั้งใด “ต่อให้พี่จะเป็นยักษ์…ต่อให้พี่จะไม่ใช่คน…ฉันก็ไม่อยากให้พี่ไปจากฉันอีก อย่าไปจากฉันอีกเลยนะพี่แสง…”

ประโยคนั้นสั่นสะเทือนเข้าไปในความรู้สึกของแสงอาทิตย์

ยักษ์หนุ่มลืมสิ้นถึงความแตกต่างทั้งมวลระหว่างเขาและหล่อน ลืมว่าเขาคือยักษ์ ลืมว่าหล่อนคือมนุษย์ ลืมว่าเขาไม่อาจจะอยู่เคียงคู่กับหล่อนได้ ชั่วขณะนั้นเหมือนโลกหยุดหมุน ความแตกต่างใดๆ ในโลกนี้เป็นเพียงสิ่งสมมติ แสงอาทิตย์ดึงเฟืองมายเข้ามากอดแนบแน่น ร่างทั้งสองร่างต่างสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน

 

 

 



Don`t copy text!