พลิกรักทำนายใจ บทที่ 23.2 : หนึ่งวันสุดท้ายของเรา…ก่อนจากลา

พลิกรักทำนายใจ บทที่ 23.2 : หนึ่งวันสุดท้ายของเรา…ก่อนจากลา

โดย : แสนแก้ว

Loading

พลิกรักทำนายใจ โดย แสนแก้ว เรื่องราวของสายมูตัวแม่ที่ช่วยเหลือคนอื่นมากมาย แต่ความรักของตัวเองกลับไม่รอดราวกับดวงความรักอาภัพซะเหลือเกิน คงจะมีแค่ ‘พี่ภู’ เท่านั้นที่ดีต่อเธอเอ…เธอผู้รู้ใจลูกค้าดั่งมีตาทิพย์กลับไม่เคยมองเห็นหัวใจเขาเลยสักทีได้อย่างไร นวนิยายอ่านฟรีสนุกๆ ที่อ่านเอามีให้คุณได้อ่านที่ anowl.co

วินาทีที่ได้ยินคำขอร้องของคนรัก ภูริสคิดว่าเหลวไหล ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่โดยใช่เหตุ แต่ด้วยความเป็นคนสุขุมรอบคอบจึงไม่ตอบโต้ในทันที เขากลับมาครุ่นคิดทบทวนแล้วพบว่าสิ่งที่มนชิดาเสนอมานั้นใช่ว่าจะเป็นเรื่องไร้สาระที่เป็นไปไม่ได้

ศิระยังเทียวมาชวนเขาไปทำงานที่ออสเตรเลียด้วยกัน บางครั้งมาเป็นข้อความ บางครั้งโทรศัพท์มาคุยด้วย ล่าสุดไอ้เพื่อนยากถูกพวกพ่อครัวเล่นงานอีกแล้ว เริ่มจากแอบเปลี่ยนวัตถุดิบเป็นของเลหลังราคาถูก ทำให้คุณภาพอาหารต่ำกว่ามาตรฐาน ลูกค้าหลายรายอาหารเป็นพิษ มาแจ้งกับเจ้าของร้าน ศิระก็มาสืบสาวราวเรื่องเอากับทีมพ่อครัวว่ามีสาเหตุจากอะไร จะแก้ไขร่วมกันอย่างไร

แต่ทีมพ่อครัวกลับโกรธและยกขบวนกันหยุดงาน ก่อนจะไปโผล่ที่ร้านอาหารของคู่แข่งที่เพิ่งเปิดสาขาใหม่กันชนิดครบชุด ศิระเครียดหนักจนระเบิดหัวเราะออกมา ก่อนจะก้มหน้าทำอาหารด้วยตัวเองมือเป็นระวิงกับผู้ช่วยผู้ซื่อสัตย์อีกสามคนที่ยังเหลืออยู่

ภูริสรู้เรื่องเข้าก็อยากช่วยเหลือ อยากไปดูต้นสายปลายเหตุว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมนายศิระถึงเลี้ยงลูกน้องได้ไม่นาน เขาไม่เชื่อว่าเป็นเวรกรรมหรือดวงบริวารบกพร่อง มันต้องมีเหตุผลบางอย่าง

พอมนชิดามาขอร้องในครั้งนี้ ใจเขาจึงโน้มเอียงว่าควรย้ายไป

เพราะอันที่จริงเหตุผลเดียวที่เขายังอยู่ที่นี่ก็คือรุ่นน้องสาวผู้ที่ใจเขาแพ้เสมอคนนั้น

แต่จากนี้ไม่มีอีกแล้ว ถึงใจยังห่วง แต่เขาไม่มีสิทธิ์ดูแลปกป้องประคมประหงมหญิงอื่นอีก และที่มนชิดาเคยพูดไว้ก็ถูก เขาควรวางใจว่าดวงศิริจะค่อยๆ เติบโต เรียนรู้และรับผลดีผลร้ายจากการเลือกทุกทางด้วยตัวเอง ไม่แน่ว่ากลับมาจากออสเตรเลียอีกที อาจได้เห็นน้องสาวจอมป่วนของเขาในเวอร์ชันใหม่ ยังคงความน่ารักสดใสเหมือนเดิม แต่เข้มแข็ง รอบคอบ ดูแลตัวเองได้ และมีชีวิตที่ดีที่สร้างขึ้นเองก็เป็นได้

เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ภูริสกับมนชิดาก็เตรียมตัวไปเริ่มต้นใหม่ในต่างแดนด้วยกัน

เขาแจ้งศิระ ทางนั้นดีใจใหญ่ พร่ำขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำอีก พ่อพระ พ่อคุณ พ่อทูนหัว มาโปรดลูกช้างทันเวลาพอดี เขาทั้งขำทั้งหมั่นไส้ ย้ำเตือนกับเพื่อนอีกทีว่าแม้จะเรียนทำอาหารมาหลายคอร์ส แต่เขาไม่ใช่เชฟมืออาชีพ ยังไงก็ต้องฝึกงานอย่างหนักอีกพักหนึ่งอยู่ดี

ส่วนมนชิดาแจ้งลาออกกับทางบริษัท คุณวุฒิไกรกับศักดาเรียกคุยเพื่อเกลี้ยกล่อมหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล ไม่ว่าจะขึ้นเงินเดือนให้ ให้เงินพิเศษ หรือปรับตำแหน่งให้ตามใจต้องการอย่างไร ข้อเสนอไหนก็ไม่อาจเหนี่ยวรั้งเธอไว้ได้

เมื่อมนชิดาจะลาออกไป คนที่ได้ขึ้นตำแหน่งโปรเจกต์เมเนเจอร์แทนคือดวงศิริ หญิงสาวไม่ดีใจเลยสักนิด ปีก่อนเคยผิดหวังที่ถูกมนชิดาซิวตำแหน่งตัดหน้า คราวนี้ยิ่งเซ็งระเบิดจนอยากจะครวญโทษฟ้าโทษดิน เหตุเพราะเธอยังสมัครงานใหม่ไม่สำเร็จ แต่ต้องมารับผิดชอบงานตำแหน่งใหญ่ขึ้น แผนที่วางไว้ว่าจะลาออกไปทำงานบริษัทอื่นก็ไม่เป็นจริงสักที

การปฏิเสธให้ความช่วยเหลือของคุณวุฒิไกรในวันนั้น จริงอยู่ว่าเขาไม่ผิด ไม่ผิดกฎหมายสักนิด แต่ก็ได้สร้างบาดแผลลงในใจของหญิงสาวผู้เสียหายจนเกินเยียวยา

เมื่อเสื่อมศรัทธาในตัวผู้นำสูงสุดก็พานเสียความร่วมแรงร่วมใจที่มีต่อองค์กรไปด้วย แม้ได้เลื่อนตำแหน่ง ขยับฐานเงินเดือนขึ้น แต่แรงใจที่อยากทุ่มเทสร้างสรรค์งานที่ดีที่สุดให้บริษัทก็ไม่กลับมาอีกแล้ว

วันก่อนวันเดินทาง ก่อนที่ภูริสจะหันหลังให้ความทรงจำหวานขม เขาเอ่ยปากขอมนชิดาเรื่องหนึ่ง

เมื่อได้ฟังคำขอ หญิงสาวทั้งหงุดหงิด ทั้งขัดใจ จนต้องหันไปสงบอารมณ์อยู่พักหนึ่ง กระทั่งทำใจว่าเห็นแก่ที่ชายหนุ่มยอมตามใจพาเธอไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน จึงยอมพยักหน้าอนุญาตอย่างฝืนใจ

เรื่องสุดท้ายที่เขาขอคือ ขอใช้เวลากับดวงศิริที่บ้านหนึ่งวัน ในฐานะพี่ชายกับน้องสาวเหมือนที่เป็นมา

 

ยามสายของวันอาทิตย์ ดวงศิริลงบันไดเลื่อนลอดข้ามมายังบ้านของภูริสตามคำชวน สงสัยและสับสนว่าเขามีธุระอะไรหรือเปล่า แฟนยอมให้เจอแล้วเหรอ หรือจริงๆ แล้วเธอถูกเรียกมาทำข้อตกลงไร้สาระอะไรสักอย่างกันแน่

ระยะหลังมานี้ดวงศิริกับภูริสไม่ได้ติดต่อกันเลย ไม่ได้พบเจอแม้บ้านจะอยู่แค่ฝั่งตรงข้าม เหตุเพราะมนชิดาสั่งห้ามไม่ให้ภูริสข้องแวะกับเธอ

น่าโมโหที่เขาเชื่อยัยแม่มดนั่น ไม่ชวนเธอไปที่บ้าน ไม่ข้ามมาหาเธอที่คอนโดฯ ไม่โทรศัพท์มาถามไถ่ แม้แต่ไลน์ก็ไม่ทักทาย สิ่งเดียวที่กระซิบบอกว่าเขายังเป็นพี่ภูคนเดิมคือการกดไลก์กับกดห่วงใยในเฟซบุ๊ก เขายังติดตามความเป็นไปของเธอเสมอ เพียงแต่แสดงออกได้จำกัดมากๆ เท่านั้นเอง

ดวงศิริเคยร้อนรนจนหวิดจะไปอาละวาด มนชิดากล้าดียังไงถึงมากั้นขวางระหว่างเธอกับเขา โกรธภูริสด้วยที่เลือกมนชิดา ทิ้งมิตรภาพแน่นแฟ้นเจ็ดแปดปีระหว่างกันได้ลงคอ แต่เธอก็ได้สติด้วยประโยคเดียวของอริสาว่า

“ก็เขาเป็นแฟนกัน”

เธอจึงได้แต่เจียมเนื้อเจียมตัวว่าตนกลายเป็นชนชั้นสองไปแล้ว และสาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากการกระทำของตัวเอง โทษใครไม่ได้

แต่สีหน้าแช่มชื่นของภูริสยามเปิดประตูบ้านต้อนรับเธอนั้น ชวนให้ดีใจมากกว่าทำแง่งอนใส่

“มาแล้วเหรอหวาน” เขากวักมือและยิ้มกว้าง “มาดูนี่เร็ว พี่ทำอะไรให้กิน”

แล้วร่างสูงก็ก้าวยาวเข้าครัวไป ดวงศิริลงนั่งที่โต๊ะกินข้าวตัวเล็กที่ไม่ใช่ตัวเดิม เก้าอี้ก็ไม่ใช่ตัวเดิม แผ่นรองจานก็ไม่ใช่ลายหินอ่อนแล้ว เป็นลายกราฟิกสีครีมเมทัลลิกใหม่เอี่ยม

พอจานอาหารหอมกรุ่นวางลงตรงหน้าเท่านั้น ความหงอยเหงาก็กระเจิงไป

“ว้าว ราวิโอลีกุ้งแม่น้ำเหรอคะ ตัวใหญ่มาก”

พ่อครัวหนุ่มเสริมยิ้มๆ

“ซอสครีมเห็ด พิเศษทรัฟเฟิล ดับเบิ้ลชีสตู้มๆ”

“ฮ้า ในที่สุดพี่ภูก็ยอมใส่ชีสให้หวานแล้ว”

“พูดซะพี่ใจดำเชียว ถ้ามากลางวันก็จะได้กิน แต่หวานชอบมาตอนกลางคืนพี่เลยไม่ได้ใส่ให้”

เป็นเช่นนี้เสมอ เขาห่วงเธอมากกว่าที่เธอห่วงตัวเองอีก ดวงศิริรับประทานอย่างเอร็ดอร่อยทั้งน้ำตาปริ่มขอบตา

“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่ภูจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว แค่คิดก็เหงาแล้วอ้ะ”

“พี่ก็ใจหายเหมือนกัน”

ราวิโอลีจานของชายหนุ่มพร่องไปแค่ครึ่งเดียว ชีสในจานเขาน้อยกว่าของดวงศิริครึ่งหนึ่ง หญิงสาวสูดลมหายใจลึก พูดเสียงใส

“แต่หวานจำได้นะที่เคยเปิดไพ่ดูดวงพี่ภู ไพ่บอกว่าไปทำงานที่ต่างประเทศจะรุ่งมาก พี่ภูไปเถอะ ทำให้สุดฝีมือเลย น้องจะรอดูความสำเร็จของพี่นะ”

“แล้วเรื่องงานของหวานล่ะ เป็นไงบ้าง โอเคไหม”

“หวานเตรียมๆ จะลาออกแล้วละ แอบร่อนเรซูเม่ไปสมัครที่บริษัทอื่นบ้างแล้ว ไปสัมภาษณ์มาแล้วด้วย แต่พี่ภูอุบไว้ก่อน อย่าเพิ่งบอกมายด์นะ”

“ตำแหน่งใหม่ไม่โอเคเหรอ”

หญิงสาวส่ายหน้าแล้วรับประทานต่อ เขาก็ไม่ถามเซ้าซี้

 



Don`t copy text!