พลิกรักทำนายใจ บทที่ 8 : ไพ่เจ็ดดาบในตำแหน่งความรัก

พลิกรักทำนายใจ บทที่ 8 : ไพ่เจ็ดดาบในตำแหน่งความรัก

โดย : แสนแก้ว

Loading

พลิกรักทำนายใจ โดย แสนแก้ว เรื่องราวของสายมูตัวแม่ที่ช่วยเหลือคนอื่นมากมาย แต่ความรักของตัวเองกลับไม่รอดราวกับดวงความรักอาภัพซะเหลือเกิน คงจะมีแค่ ‘พี่ภู’ เท่านั้นที่ดีต่อเธอเอ…เธอผู้รู้ใจลูกค้าดั่งมีตาทิพย์กลับไม่เคยมองเห็นหัวใจเขาเลยสักทีได้อย่างไร นวนิยายอ่านฟรีสนุกๆ ที่อ่านเอามีให้คุณได้อ่านที่ anowl.co

กลิ่นหอมอะโรมาอย่างดอกไม้ไทยโชยมาต้อนรับทันทีที่มาถึงพูลวิลลาอันเงียบสงบ สถาปัตยกรรมไทยวิจิตรตัดกับพื้นหินขัดและเสาหินให้ความรู้สึกเย็นและมั่นคงแต่งดงาม เมื่อเข้ามาในบ้านหลังที่สกายพักผ่อนอยู่ เธอพบว่าเขาไม่ได้โกรธขึ้ง ปั้นปึ่งอย่างที่กังวล แค่ดูเงียบไปเท่านั้น

“เป็นไงบ้าง เราทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือเปล่า เธอไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนี่นา เราเป็นห่วงนะ”

เขาเดินนำไปทางหลังห้องซึ่งมีสระว่ายน้ำ ผิวน้ำกระเพื่อมไหว เขานั่งลงแล้วหย่อนขาลงไป

“ไง ไม่ไปกินไฟน์ไดนิงแล้วเหรอ” มือใหญ่คว้าเบาะนั่งมาวางให้ข้างตัว “อ้อ ไปมาแล้วละมั้ง”

“ไม่ได้ไปหรอก” อริสานั่งลงบนเบาะนั้น “ไม่ได้คิดอยากไปกินข้าวกับคนอื่นเลย สองวันมานี้ที่เธอไม่อยู่ เราก็กินข้าวคนเดียว”

ชายหนุ่มไม่พูดอะไร อริสาไม่อาจรู้ได้เลยว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร พอใจหรือไม่พอใจ อยากให้เธอทำอะไรหรือเปล่า หญิงสาวจับต้นแขนเขาเบาๆ หวังจะให้คนเย็นชาพูดอะไรออกมาบ้าง ทว่า…นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะปัดมือเธอออก

“อย่าทำแบบนี้จะได้ไหม”

“เราขอโทษ”

ชายหนุ่มขยับจะพูดบางอย่าง แต่กลับเงียบ ก้มมองขาของตนที่ตีน้ำเล่นเบาๆ แล้วเงียบอีกครู่ใหญ่

ระหว่างที่ต่างคนต่างจมอยู่กับความคิดตัวเอง…อยู่ข้างๆ กันนั้น ในที่สุดสกายก็เอ่ยขึ้นว่า

“เราขี้เกียจตอบคำถามพ่อ”

หญิงสาวหันมองอย่างสงสัย

“พ่อว่าอะไรเหรอ”

“พ่อถามเราว่า เมื่อไรจะให้ไปสู่ขออิ๋มสักที ไปบ้านเขาตั้งหลายรอบ พ่อคันปากอยากพูดแล้ว”

ขอบตาหญิงสาวร้อนผ่าว เธอเม้มริมฝีปากไม่ให้สั่น ตอบราบเรียบพอกันว่า

“แม่เราก็ถามเหมือนกันว่าเมื่อไรสกายจะมาขอ ส่งกระเช้าของขวัญมาให้ตั้งเยอะแยะ แม่เริ่มสับสนแล้วว่านี่ของฝากหรือขันหมาก”

“อือ เราไม่ควรทำให้ผู้ใหญ่เข้าใจผิดเนอะ”

เขาพูดน้ำเสียงฉะฉานเหมือนตอนคุยเรื่องงาน

“ใช่ เราก็ไม่อยากทำให้คุณพ่อเธอต้องลำบากใจ”

อริสาก็ตอบชัดเจนเหมือนสั่งงานน้องๆ เช่นกัน

“งั้นวันศุกร์นี้เลยไหม ตอนไปส่งเธอที่บ้านชลก็ไปพร้อมพ่อเลย”

“วันเสาร์ได้ไหมล่ะ วันศุกร์เราจะได้ทำความสะอาดบ้านรอ”

“โอเค วันศุกร์เธอกลับบ้านไปเตรียมสถานที่ ไม่ต้องหรูมากหรอกนะ เราคนกันเอง แล้ววันเสาร์เราพาพ่อไปขอ ตามนี้ ดีล”

“ดีล”

ทั้งสองกำมือหลวมๆ แล้วชนมือกันเบาๆ เหมือนตอนตกลงออกกาแฟสูตรใหม่ เหมือนตอนตัดสินใจไปออกบูธงานมหกรรมกาแฟใหญ่ระดับประเทศ เหมือนเมื่อครั้งลงทุนซื้อเครื่องคั่วกาแฟมาคั่วเองแทนการจ้างผลิต และเหมือนตอนปฏิเสธนักธุรกิจคนหนึ่งที่มาขอซื้อแฟรนไชส์ เพราะตกลงกันว่าสตาร์โรสเทอรีจะเป็นธุรกิจร่วมกันแค่เฉพาะเขากับเธอ

 

พิธีสู่ขอและหมั้นหมายอันเรียบง่ายแต่อบอุ่นเป็นไปอย่างราบรื่น แทบไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง เรื่องฉุกละหุกเล็กน้อยที่มีก็ได้รับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างรวดเร็ว ตามแบบฉบับของสองหนุ่มสาวนักธุรกิจผู้มีทักษะการจัดการยอดเยี่ยม

ในคืนวันสู่ขอนั้น อริสาโทรศัพท์มาเล่ารายละเอียดให้ดวงศิริฟังอย่างตื่นเต้นสดใส เวลาสี่ทุ่มเศษไม่ทำให้ว่าที่เจ้าสาวหมาดๆ ง่วงเหงาหาวนอนแม้แต่น้อย พอฟังจบ กองเชียร์สาวก็อดไม่ได้ เดินจ้ำอ้าวลงทางลอดไปฝั่งตรงข้ามทั้งชุดนอน อยากโม้ให้ภูริสฟังเต็มแก่

แสงไฟสว่างลอดมาจากหน้าต่างห้องทำงาน ดวงศิริเดาได้ทันทีว่าภูริสคงกำลังบัดกรีแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ของอุปกรณ์ดนตรีอยู่ เป็นภาพคุ้นตาที่เคยเห็นมานานปี เวลาสี่ทุ่มเศษไม่ใช่เวลานอนของเขา แต่เป็นเวลาที่กำลังเข้าสมาธิทำงานได้ดีทีเดียว

แล้วเธอก็ลากเก้าอี้ล้อหมุนอีกตัวเข้าไปนั่งคุยแจ๋วๆ ทำลายสมาธิเขาเล่น

“ลงเอยไปแล้วเรียบร้อยนะพี่ภู คิดไปคิดมาก็ตลกดี ยังไม่ทันได้เป็นแฟนกันเท่าไรเลย เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน ตัดภาพมาอีกทีเป็นคู่หมั้นแล้ว”

“อื้ม ดีใจด้วย พี่ว่าเขารักกันแหละ เหลือแค่ใครจะยอมพูดก่อนเท่านั้นเอง”

เขาเอื้อมไปชักปลั๊กหัวแร้ง ขืนทำงานต่อทั้งอย่างนี้คงได้ต่อวงจรผิดๆ ถูกๆ

“จะว่าไป เกมเริ่มพลิกตั้งแต่ตอนที่อิ๋มมาดูดวงกับหวานเลยนะเนี่ย” หญิงสาวทำเท่ ชูนิ้วชี้กับนิ้วโป้ง ประกบปลายคาง “ต้องให้เครดิตพี่มิ่งเต็มๆ อ้อ แล้วก็โชคดีที่ได้ไปมูด้วยตั้งเจ็ดที่แน่ะ พี่ภูว่าเทพองค์ไหนช่วยยัยอิ๋ม”

“เทพเจ้าอริสาสิครับ ช่วงหลังมานี้น้องอิ๋มน่ารักขึ้นมากเลย”

ดวงศิริย่นจมูกนิดหนึ่ง รู้สึกฉุนขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

“พี่ภูนะพี่ภู ไม่เคยจะยอมเชื่อเลยว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง”

“ใครบอกว่าพี่ไม่เชื่อ” เขายิ้มกึ่งเอ็นดูกึ่งขำขัน “พี่เชื่อว่ามีจริง แต่พี่เชื่อตัวเองก่อน อยากให้ชีวิตเป็นยังไงก็ลุยเลย และพี่ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านน่าจะอยากช่วยคนที่ลงมือทำมากกว่าคนที่เอาแต่ขอนะ”

เบาะนั่งเกิดร้อนๆ ยังไงชอบกล ดวงศิริชักนั่งไม่ติด พี่ภูกำลังว่ากระทบใครหรือเปล่า แต่ไม่ใช่เธอแน่ๆ ก็เธอไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย…หรือเปล่านะ

“ว่าแต่พี่ภูเถอะ พร้อมดูดวงกับหวานหรือยัง มาให้น้องซ้อมมือหน่อยเร็ว”

รุ่นพี่หนุ่มหัวเราะเบาๆ ลุกไปในครัวเพื่อรินน้ำดื่มมาให้ ตอนที่เดินผ่านเขาวางมือบนศีรษะเธอเบาๆ ด้วยทีหนึ่ง

“ไปดูคนอื่นก่อน ของพี่ไว้ทีหลังสุดแหละดีแล้ว”

เขายังยืนยันคำเดิม เธอก็ไม่ซักไซ้ แต่หมั่นไส้ว่าจะหวงดวงอะไรกันนักกันหนา

สงสัยจะมีความลับซ่อนอยู่แน่ๆ หญิงสาวดื่มน้ำใสในแก้ว ผิดหวังเล็กน้อยที่มันไม่ใช่น้ำอัดลม แอบหมายมาดว่า เดี๋ยวถึงเวลาได้ดูดวงให้ภูริสเมื่อไรละก็ เธอจะใช้เครื่องมือที่มีรีดล้วงความลับของเขาออกมาจนหมดไส้หมดพุงเลย คอยดู

 

ปิดจ็อบเรื่องคู่รักเพื่อนสนิทในตำนาน อิ๋ม-สกาย ไปได้ แม่หมอขนมหวานก็ชักมั่นใจในฝีมือตัวเองมากขึ้น หญิงสาวพกไพ่ไปทำงานด้วยเพื่อดูดวงให้พวกเพื่อนพนักงานตอนหลังเลิกงาน ได้รับฟีดแบ็กว่าแม่นมาก แม่นขนลุก รู้ได้ไง แอบสืบมาก่อนใช่ไหม ต่างๆ นานา คนเป็นหมอดูก็ยิ้มปลื้มหุบไม่ลง

เรื่องในปัจจุบัน ทักได้ถูกต้องว่าเท่แล้ว เรื่องอนาคตที่ทำนายไว้ ตอนลูกดวงวิ่งหน้าตาตื่นมาเล่าให้ฟังว่าเกิดขึ้นแล้วจริงๆ นั้น ยิ่งชุ่มชื่นใจราวได้บัตรวีไอพีเป็นลูกรักของจักรวาล

ดวงศิริเริ่มโปรเจกต์ถัดไปที่อยากทำมานาน นั่นคือโพสต์เฟซบุ๊กประกาศรับดูดวงฟรี ขอค่าครูเป็นการทำบุญที่ไหนก็ได้ เท่าไรก็ได้ กับฟีดแบ็กว่าแม่นหรือเปล่าเท่านั้นพอ

สิงโตกับลูกแก้วช่วยกดไลก์ กดแชร์ พวกลูกดวงในออฟฟิศช่วยโฆษณาปากต่อปาก แต่คนแรกที่ทักเข้ามาเพื่อขอดูดวงนั้น ทำเอาแม่หมอมือใหม่ถึงกับต้องขยี้ตามองแล้วมองอีกให้แน่ใจ

“นี่มัน…”

รูปโพรไฟล์เฟซบุ๊กของคนคนนั้นเป็นหญิงสาวผมยาวสีทองเกือบขาว ร่างขาวผ่องอยู่ในชุดเสื้อสายเดี่ยวสีเนื้อที่แทบกลืนแนบไปกับผิวกาย ริมฝีปากสีชมพูอมส้มดูโฉบเฉี่ยวโดดเด่น แต่ยังไม่เด่นเด้งเท่าความอิ่มเต็มตึง โค้งเว้าอวบนูนสมบูรณ์แบบในทุกสัดส่วน

กดเข้าไปดูให้แน่ใจ ผู้หญิงคนนี้คือ ‘ดีเจพีชชี่’ จริงด้วย

ดวงศิริอ้าปากค้าง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ดีเจสาวสุดแซ่บคนนี้คือคนเดียวกับพิชชาภา เด็กสาวผิวคล้ำ คิ้วบาง ร่างผอมโปร่งที่เคยโดดเรียนไปเล่นเกมด้วยกันเมื่อสมัยมัธยมปลาย!

 

ในวันนี้พีช หรือพีชชี่ที่สังคมรู้จักเติบโตแบ่งบานเป็นสาวสวยแซ่บสะบัด ขณะที่เธอ…หญิงสาวก้มมองตัวเอง หุ่นอวบๆ กับส่วนเกินหน่อยๆ ตามต้นแขนต้นขาและบั้นท้าย ซ่อนรูปอยู่ในชุดเสื้อยืดแขนพองกับกางเกงขาม้าสีเหลืองมัสตาร์ด เธอชอบสวมเสื้อผ้าสไตล์เก๋ไก๋ แต่งตัวสีฉูดฉาด แต่วันนี้นัดเจอเจ้าแม่แฟชั่นตัวจริงก็รู้สึกตัวเองเสร่ออย่างไรชอบกล

หมอดูสาวเลือกร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ซึ่งตกแต่งร่มรื่นแนวสวนป่าฝนเป็นที่นัดหมาย ดังนั้นต่อให้เป็นช่วงบ่ายวันเสาร์ที่มีลูกค้าเข้าร้านคึกคัก ก็ยังมีมุมส่วนตัวซ่อนอยู่ในแมกไม้จำพวกเฟิร์นพันธุ์ต่างๆ จะได้เปิดไพ่ยิปซีดูดวงกันโดยสงบ

ดีเจสาวดาวโซเชียลปรากฏตัวพร้อมรอยยิ้มสดใสเหมือนสมัยเป็นเด็กนักเรียน และผิดคาด เพื่อนสาวไม่ได้มาด้วยลุคเสื้อสายเดี่ยวสปาเกตตีหรือไหมพรมแนบเนื้อ โค้งเว้าน่าลูบไล้อันเป็นภาพที่ทุกคนจดจำ แต่กลับมาด้วยเสื้อมีฮูดตัวสั้นกับกางเกงวอร์มสีเขียวขี้ม้าและรองเท้าผ้าใบ มีหมวกแก๊ปสวมทับสไตล์สปอร์ตเกิร์ล ทำนองว่าสวมชุดเซ็กซี่มากพอแล้ว เวลานี้ได้พบปะเพื่อนสนิทขอแต่งตัวสบายๆ ดีกว่า

หลังถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ กินอาหารจนอิ่มและพร้อมดูดวงแล้ว แม่หมอดวงศิริก็เริ่มทำสมาธิ ถามดีเจสาวคนดังว่า

“วันนี้ตั้งใจอยากดูเรื่องไหนเป็นพิเศษรึเปล่า”

พิชชาภาตอบพลางใช้มือสลัดผมสลวยไปด้านหลัง

“เปล่าหรอก ดูทั่วๆ ไปแหละ จริงๆ ตั้งใจอยากมาเจอแกมากกว่า คิดถึง”

สองสาวยิ้มให้กัน หัวเราะคิกคัก จับมือกันแน่นๆ อีกยกหนึ่ง

ช่วงเวลาแห่งการเปิดดวงชะตาเริ่มต้นขึ้น ขั้นแรกเป็นการดูดวงพื้นฐานทั่วไปในช่วงนี้ ดวงศิริอ่านและทำความเข้าใจ ทุกอย่างดีหมด ยกเว้นก็แต่…ตำแหน่งความรัก

ขึ้นไพ่เจ็ดดาบ ยังไม่ถึงกับแย่ แต่สัญญาณเตือนภัยได้หวีดเสียงดังขึ้นแล้ว

ดวงศิริยังไม่กล้าพูดอะไร ถือวิสาสะเปิดไพ่ขยายสามใบ ได้เดอะเดวิล เดอะเลิฟเวอร์ และราชินีพระจันทร์

แม่หมอลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เวรกรรมอะไรถึงจับได้คอมโบเซตชุดนี้

เห็นดวงตาสวยโฉบเฉี่ยวจ้องมาอย่างลุ้นๆ ดวงศิริก็พูดไม่ออก จึงกระแอมเบาๆ แล้วพยายามทำตัวปกติ

“ดวงโดยรวมในช่วงนี้โอเคอยู่นะ งานดี มีชื่อเสียง เงินก็ดี มีรายจ่ายเยอะหน่อย ส่วนสุขภาพ พี่มิ่งเตือนว่าระวังเป็นหวัด แต่อาชีพแกน่าจะนอนดึกใช่ไหม ยังไงก็พักผ่อนให้พอด้วยล่ะ”

หญิงสาวจงใจข้ามหัวข้อความรักไปก่อน ขณะชั่งใจว่าควรพูดหรือไม่ ลูกดวงสาวก็ถามเสียงใส

“แล้วความรักล่ะเป็นไงบ้าง”

“อื้ม ก็ไม่แย่หรอก” ดวงศิริแบ่งรับแบ่งสู้ “ว่าแต่สถานะตอนนี้คือยังไงล่ะ โสด มีคนคุย หรือว่ามีแฟน”

“กำลังจะแต่งงานแล้วจ้ะ”

ฉิบหายละ…แม่หมอร้องในใจ แล้วรีบกระตุกยิ้มฝืดเฝื่อน

“อ้อเหรอ เอ้อ ยินดีด้วยนะ”

“ขอบคุณจ้ะ แล้วเป็นไง ไพ่ว่ายังไงบ้าง”

คนอ่านไพ่เกาแก้มเก้อๆ แล้วเริ่มอธิบาย

“ไพ่ตำแหน่งความรักขึ้นเจ็ดดาบ แปลว่ามีความลับ เรื่องที่ซ่อนเร้น หรือทำอะไรลับหลัง ฉันเปิดไพ่ขยายแล้วมัน เอ่อ…แกแน่ใจใช่ไหมว่าเขามีแกแค่คนเดียว”

ดวงศิริเพิ่งเคยเห็นกับตาว่าใบหน้าคนสามารถเปลี่ยนสีได้จากขาวอมชมพูเป็นซีดเซียว

“ตอนแรกก็แน่ใจอยู่หรอก แต่เริ่มจะคิดก็เพราะแกทักนี่แหละ”

แม่หมอสาวชี้ไปที่ไพ่ขยาย ราชินีพระจันทร์ จำต้องพูดไปตามตรงว่า

“ในความรักของแกมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งน่ะ”

“เขาคบซ้อนเหรอ”

สุดจะลำบากใจที่ต้องตอบ อันที่จริงดวงศิริไม่อยากดูเลยพวกรักสามเส้าเราสามคน ยิ่งรู้ตัวว่าเป็นมือใหม่ยิ่งไม่อยากอ่าน เพราะหากผิดพลาดขึ้นมาจะกลายเป็นยุแยงให้คู่ที่รักกันอยู่ดีๆ แตกแยกได้ แต่พี่มิ่งมงคลชี้เบาะแสมาชัดเจนขนาดนี้ บางทีอาจเป็นลิขิตสวรรค์ที่กำหนดให้พิชชาภาได้ตาสว่างก็เป็นได้

“งั้นเรามาเปิดถามเรื่องนี้จริงๆ จังๆ เลยไหม”

“จะเริ่มยังไงดีล่ะ”

“คำถามแรก เขาคิดยังไงกับแก โอเคไหม”

พิชชาภาพยักหน้าตกลง เลือกหยิบมาสามใบ ดวงศิริพลิกไปก็ลุ้นไปทีละใบๆ กระทั่งเปิดครบจึงถอนหายใจโล่งอกพรวด

ไพ่ที่ได้คือ สองถ้วย ไพ่ฤๅษี แล้วปิดท้ายด้วยสิบถ้วย

“เนี่ย เขารักแกจริงนะ รักมาก หลงมาก ต้องการสร้างครอบครัวด้วย แต่เขาก็มีโลกส่วนตัวที่อยากใช้เวลากับตัวเอง ใช้ความคิดสักหน่อย”

“แล้ว…กับผู้หญิงคนนั้นล่ะ เขาคิดยังไง”

ดวงศิริขอสามใบให้เท่าเทียมกัน พิชชาภาเลือกหยิบไพ่อย่างค่อนข้างลังเล เปิดออกมาได้ไพ่เดอะเลิฟเวอร์ เจ็ดถ้วย และเดอะฟูล

“เนี่ย ชัด เขาชอบแหละ ประทับใจ แต่ไม่ได้กะจะสานสัมพันธ์ไปมากกว่านี้”

ดวงศิริเคาะปลายนิ้วลงที่ไพ่เดอะฟูล

“ใบนี้เป็นไพ่ชิล รักสนุกไม่ผูกพัน ยังไงก็สู้ไพ่รักจริงหวังแต่งอย่างสองถ้วยในฝั่งแกไม่ได้หรอก”

แต่พิชชาภาไม่อาจยินดีได้อย่างเต็มหัวใจ เธอไม่ได้อยากยิ่งใหญ่เหนือหญิงอื่น แค่อยากเป็นหญิงเดียวในใจเขา เอ่ยถามต่อเสียงเครือ

“แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเหรอ”

ดวงศิริขอสามใบ ได้เดอะเทมเพอแรนซ์ ราชินีถือถ้วย และหกถ้วย

“เป็นคนไกล ต่างถิ่น ต่างแดน ต่างจังหวัดอะไรแบบนี้ มีความผูกพันกับเขาพอสมควร แสดงว่าคงรู้จักกันมานาน แต่อย่าลืมว่าฝั่งแกได้สองถ้วย ฝั่งเขาได้เดอะฟูล พาวเวอร์ของผู้หญิงคนนั้นอ่อนกว่าแกมาก ไม่ต้องกังวล”

จะไม่ให้กังวลได้ยังไง สีหน้าเศร้าและแววตาปวดร้าวของพิชชาภาบอกแบบนั้น ดวงศิริจึงรีบเสนอ

“งั้นเอางี้ ถามชัดๆ ไปเลยไหมว่า ระหว่างแกกับผู้หญิงคนนั้น เขาจะเลือกใคร”

เธอขอไพ่ฝั่งลูกดวงหนึ่งใบ ฝั่งคนในความลับหนึ่งใบ พลิกเปิดเทียบกันปุ๊บแม่หมอสาวก็ตบเข่าฉาด

“ป๊าด แปดเค สิบเค ซูเปอร์เอชดี ชัดขนาดนี้เลือกแกแน่นอนชัวร์ป้าบ ดูรูปเอาก็ได้ ของแกคืออัศวินถือถ้วยแปลว่าผู้ชายเอาความรักมาให้ ส่วนอีกฝ่ายได้แปดถ้วยคือเลิกแล้วเดินจากไป ชัดไหมล่ะ”

“เลือกฉันงั้นเหรอ ถ้ารักกันจริงแล้วทำไมถึงแอบมีคนอื่นล่ะ”

“สมัยนี้สิ่งยั่วยุมันเยอะ เขาอาจว่อกแว่กบ้าง แต่สุดท้ายก็กลับเข้าลู่ทางได้นี่ เอางี้ไหม ถามไพ่ว่าแกควรทำอะไรต่อจากนี้ ขอคำแนะนำสักหน่อย”

ดวงศิริให้เปิดห้าใบ ออกมาได้จักรพรรดินี พระราชาถือดาบ เดอะเดทธ์ หกดาบ แล้วปิดท้ายด้วยไพ่จักรพรรดิ

เป็นชุดคำตอบที่น่าพอใจมาก ดวงศิริอธิบายกึ่งปลอบใจว่า

“ไม่ต้องทำอะไร อยู่สวยๆ ของแกไป ทำตัวดีมีคุณค่าตามปกติ เพราะอีกไม่นานผู้ชายเขาจะตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะจบกับคนนั้น แล้วเขาก็จะกลายเป็นจักรพรรดิที่คู่กับจักรพรรดินีข้างหน้าสุดซึ่งก็คือตัวแก ไพ่สองใบนี้เป็นไพ่คู่กันด้วยนะ”

เงียบไปครู่หนึ่ง พิชชาภาสารภาพว่า

“จริงๆ ที่นัดเจอแกวันนี้เพราะอยากดูเรื่องความรักนี่แหละว่าแต่งงานไปแล้วจะดีไหม แต่งแล้วเป็นยังไง พี่เขาบอกว่าจะให้ฉันไปเป็นแม่บ้านสบายๆ อยู่ที่ระยอง ฉันรักเขานะ แต่ไม่แน่ใจยังไงไม่รู้ ถึงระยองจะไม่ได้ชนบทกันดารจนอยู่ยาก แต่โลกของฉันมันคงเปลี่ยนไปหมดเลย เลยชักกลัวน่ะ แกว่าฉันคิดมากไปไหม”

ดวงศิริสัมผัสได้ถึงความหนักใจของอีกฝ่าย คนที่เคยอยู่กลางสปอตไลต์ เป็นจุดรวมสายตาของคนนับร้อยนับพัน ต้องตัดขาดแสงสีไปเป็นแม่บ้านต่างจังหวัด ไม่ใช่เรื่องที่ปรับตัวได้ง่ายเลย

“ฉันเข้าใจแกนะพีช บางทีฉันก็กังวลเหมือนกันเพราะแฟนฉันก็เคยบอกว่าแต่งงานแล้วอยากให้ลาออกไปอยู่กับเขา…ที่ระยองเหมือนกันเลย” ประโยคหลังดวงศิริร้องดีใจด้วยเพิ่งนึกขึ้นได้ “นี่ไง ไม่ต้องเหงาแล้วนะพีช อีกหน่อยเราสองคนก็ไปเป็นแม่บ้านระยองด้วยกันไง”

“อ้อ แฟนแกก็อยู่ระยองเหรอ บังเอิญจังเลยนะ”

“ใช่ แฟนฉันเป็นวิศวกรบริษัทน้ำมันน่ะ เขาไปแท่นบ่อยเลยซื้อบ้านไว้ที่โน่น”

“ฮ้า แฟนฉันก็เป็นวิศวกรน้ำมันเหมือนกัน”

ดวงศิริร้องว้าว สองสาวจับมือกันหนุงหนิง

“บริษัทอะไรเนี่ย ถ้าปรากฏว่าแฟนเราสองคนรู้จักกันนี่คือ โลกกลมดิ๊กเลยนะ”

พิชชาภาบอกชื่อเครือบริษัทใหญ่ที่ใครๆ ก็น่าจะรู้จักมา พบว่าเป็นเครือเดียวกันอีก แต่ยังไม่แน่ว่าบริษัทลูกที่แฟนหนุ่มของทั้งสองสังกัดจะเป็นแห่งเดียวกันหรือเปล่า ดวงศิรินึกสนุก ขยับจะถามชื่อแฟนหนุ่มของเพื่อนเผื่อว่าพี่พุฒิจะรู้จัก ถ้าแฟนของพิชชาภาดันเป็นเพื่อนวิศวกรกับพุฒิพงศ์ละก็…บิงโก ซื้อหวยโลด

แต่ยังไม่ทันถาม ปรากฏว่ามีเสียงโทรศัพท์ดังขัดขึ้นก่อน พิชชาภารับสาย แฟนหนุ่มของเธอโทร.มา

คุยแค่ไม่กี่คำก็วางสาย เพื่อนเก่าสาวสวยบอกว่า

“เดี๋ยวฉันคงต้องไปแล้วละ แฟนมาจากระยองจะมารับไปกินข้าว พี่เขาใกล้ถึงแล้ว ขอบคุณแกมากนะหวานสำหรับวันนี้”

ทั้งที่กำลังจะได้เจอคนรักผู้อยู่ห่างไกลในอีกไม่กี่อึดใจแล้วแท้ๆ แต่พิชชาภากลับเนือยเสียเหลือเกิน คนไม่ค่อยได้เจอแฟนอย่างดวงศิริเสียดายแทน ลูบแขนเพื่อนสาวพลางว่า

“อย่าทำหน้าแบบนี้สิ ฉันใจคอไม่ดีเลย เหมือนทำให้แกเครียดยังไงไม่รู้”

“ใครว่าเป็นแก แฟนฉันต่างหากที่สร้างเรื่อง จะแต่งงานกันอยู่แล้วแท้ๆ”

“เอาน่า เขาก็มาหาแกแล้วไง วันหยุดแบบนี้เขาเลือกใช้เวลากับแกนะ ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น น่าดีใจออก”

“อือ นี่ขนาดมาอยู่ด้วยกันทุกวันเสาร์อาทิตย์แล้วนะ ยังจะมีกิ๊กได้อีก” พิชชาภาจิ๊ปากขัดใจ “แล้วแฟนแกล่ะ มาหาไหมวันนี้”

อย่าว่าแต่มาหาเลย ดวงศิริกดดูโทรศัพท์มือถือ ข้อความแชตล่าสุดของเธอยังไม่มีการอ่านและตอบเลยด้วยซ้ำ แต่หญิงสาวชินซะแล้ว แต่ไหนแต่ไรพุฒิพงศ์ไม่ค่อยจับโทรศัพท์และแทบไม่โพสต์โซเชียลมีเดีย หญิงสาวเก็บความอิจฉาเพื่อนไว้ลึกๆ ยิ้มกวนตอบไปว่า

“พี่เขาบ้างาน ไม่มาหรอก”

“เสาร์อาทิตย์เนี่ยนะ”

“ใช่ เอางานกลับมาทำที่บ้านด้วยนะ อยู่ว่างไม่ได้หรอกรายนั้น”

พิชชาภาชี้นิ้ว หลิ่วตา

“ให้แน่นะ ไม่ใช่ว่าแฟนแกจะแอบเจ้าชู้แบบแฟนฉันนะ ตามคุมให้ดีละ อย่าให้ซ้ำรอยกันรู้เปล่า”

ดวงศิริดันปลายนิ้วชี้ของเพื่อนไปทางอื่น

“ไม่หรอกน่า พี่เขาเป็นคนดี ฉันไว้ใจ”

 



Don`t copy text!