พลิกรักทำนายใจ บทที่ 21.1 : ไม่อยากให้เขารักกันเลย

พลิกรักทำนายใจ บทที่ 21.1 : ไม่อยากให้เขารักกันเลย

โดย : แสนแก้ว

Loading

พลิกรักทำนายใจ โดย แสนแก้ว เรื่องราวของสายมูตัวแม่ที่ช่วยเหลือคนอื่นมากมาย แต่ความรักของตัวเองกลับไม่รอดราวกับดวงความรักอาภัพซะเหลือเกิน คงจะมีแค่ ‘พี่ภู’ เท่านั้นที่ดีต่อเธอเอ…เธอผู้รู้ใจลูกค้าดั่งมีตาทิพย์กลับไม่เคยมองเห็นหัวใจเขาเลยสักทีได้อย่างไร นวนิยายอ่านฟรีสนุกๆ ที่อ่านเอามีให้คุณได้อ่านที่ anowl.co

เข้าสู่วันจันทร์ซึ่งเป็นวันทำงาน ดวงศิริเข้าหน้ามนชิดาไม่ติดยังไงชอบกล ได้แต่ก้มหน้าทำงานไปตามหน้าที่ ตามแต่อีกฝ่ายซึ่งเป็นหัวหน้าโปรเจกต์จะมอบหมาย ตอบคำถามเท่าที่ต้องตอบ ไม่คุยเรื่องอื่นนอกจากงานทั้งที่ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ทำท่าว่าจะกลับมาดีแล้ว ทำเอาสิงโตกับลูกแก้วพลอยกระอักกระอ่วนไปด้วย แอบมองคนโน้นที คนนี้ที ทำตัวไม่ถูก

ต่างกับมนชิดาที่ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ชวนดวงศิริคุยมากกว่าปกติ ยิ้มและหัวเราะ แลดูสดใสกว่าทุกวัน และยิ่งพิเศษสุดจนสิงโตกับลูกแก้วอึ้งตะลึงไปเมื่อตอนพักกลางวัน มนชิดาไปซื้ออาหารแล้วมาร่วมโต๊ะด้วย จงใจเลือกนั่งตรงข้ามดวงศิริอีกต่างหาก

สิงโตกับลูกแก้วมองหน้ากัน แล้วเหลือบมองหน้าตึงๆ ของดวงศิริ ทั้งสองรับประทานอาหารเร็วๆ แล้วรีบขอตัวไปซื้อน้ำหวาน ผลไม้ และกาแฟมื้อบ่าย

พอเหลือกันแค่สองคน ดวงศิริก็เป็นฝ่ายเปิดฉาก

“ทำแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่ฮะ”

“ไหน ฉันทำอะไร” มนชิดายิ้มยั่ว

“เธอจงใจแย่งพี่ภูไปจากฉัน ตั้งใจมาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน”

“น้อยๆ หน่อยนะยะ พูดอะไรเกรงใจคุณทัตบ้าง” ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีสวยเหยียดยิ้มเยาะ “ฉันไม่ได้แย่งพี่ภู วันนั้นเธอก็เห็น พี่ภูเป็นคนจับมือฉันแล้วพูดเองว่าฉันเป็นคนพิเศษของเขา เธอเห็นฉันเอาปืนจี้เอวบังคับเขาพูดหรือไงล่ะ”

ดวงศิริกำหมัดแน่นจนช้อนในมือสั่น

“เป็นแผนของเธอใช่ไหมล่ะ ถามหน่อยเถอะมายด์ จงเกลียดจงชังอะไรฉันนักหนา ตั้งแต่เด็กจนโต จนทำงานป่านนี้ จะมาจองเวรฉันเพื่ออะไร ฉันมีมากกว่าเธอนักเหรอถึงต้องมาคอยอิจฉา จ้องจะทิ่มแทงฉันอยู่อย่างนี้น่ะฮะ”

มนชิดาเลิกคิ้วสูง แววตาเป็นประกายวิบวับคล้ายเจอเรื่องน่าขันเสียเต็มประดา

“ฉันเนี่ยน่ะเหรออิจฉาเธอ หวาน ดูสารรูปตัวเองแล้วพูดใหม่ซิ”

“ก็ใช่น่ะสิ” ดวงศิริแหวอย่างสุดกลั้น ไม่สนใจสายตาหลายคู่ในโรงอาหาร “เธอมีดีกว่าฉันทุกอย่าง แล้วยังจะมาแย่งพี่ภูไปอีก ฉันขอพี่ภูไว้สักคนไม่ได้เหรอ”

“ใครกันแน่ที่มาแย่งทุกอย่างไปจากฉัน” มนชิดาโต้กลับทันควัน “ใครกันแน่ที่ตั้งแต่เด็กจนโตก็ได้ทุกอย่างมาง่ายๆ งอมืองอเท้า เที่ยวเล่นไปวันๆ ก็อยู่ได้อย่างสุขสบาย ไม่ต้องทำดีอะไรเลยพี่ภูก็…ก็…ก็ดูแลทุกอย่าง คิดว่าฉันไม่รู้เหรอ ฉันรู้หมดนั่นแหละ”

มนชิดาสูดหายใจลึกอย่างพยายามอดทนที่สุด

“ไม่รู้ละ นับจากนี้ต่อไปอย่ามายุ่งให้มากนัก เธอมันก็แค่น้อง น้องที่สนิทก็เท่านั้นแหละ”

ฉับพลัน ดวงศิริชะงักงัน สะดุดกับคำว่า ‘น้องที่สนิท’

นั่นเพราะนึกได้ว่าครั้งหนึ่งเคยเปิดไพ่ยิปซีอ่านดวงความรักให้มนชิดา ที่ห้องรีสอร์ตเชียงใหม่นั้น มนชิดาถามถึงชายหนุ่มที่เธอชอบอยู่ แล้วพี่มิ่งมงคลบอกว่า ทั้งสองมีโอกาสคบกัน ติดแค่ชายหนุ่มมีคนในใจอยู่แล้ว

เป็นหญิงที่อายุอ่อนกว่า หรือความคิดเด็กกว่า น้องสาวที่สนิทและผูกพันกันมานาน

หากคิงถ้วยของมนชิดาคือภูริส น้องสาวที่สนิทก็คงหมายถึงตัวเธอเอง

ดวงศิริเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ดวงตาแดงก่ำ เธอได้คำตอบแล้ว คำตอบที่ไม่กล้าพลิกเปิดหน้าไพ่ด้วยมือของตัวเอง จากคำถามที่ว่า พี่ภูคิดยังไงกับเธอ

เขาเคยมีเธออยู่ในใจจริงๆ

แต่รู้ตอนนี้มันสายเสียแล้ว ไร้ประโยชน์ไปหมดแล้ว

“ฉันมันโชคร้ายเองแหละ ใช่สิ ฉันมันดวงซวยเองถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้”

“ตื่นซะทีเถอะหวาน อายุเท่าไรกันแล้ว โตซะที” มนชิดาขึ้นเสียงบ้าง “เอาแต่โทษโชคชะตาอย่างนี้ เธอมันก็แค่คนขี้ขลาด”

“ก็ฉันไม่ได้เกิดมาโชคดีอย่างเธอนี่ เกิดมาสวย บ้านก็รวย ฉลาด เก่ง ใครๆ ก็ชอบ ผู้ชายรุมชอบเธอทั้งตึก แล้วยังพี่ภูอีก…”

มนชิดาอยากจะร้องกรี๊ด เพราะหนึ่งในสิ่งที่เธอเกลียดที่สุดในชีวิตก็คือชุดความคิดที่ทั้งอ่อนแอ เหลาะแหละ แล้วยังดูถูกกันแบบนี้

“คิดว่ามันง่ายนักเหรอที่ฉันเป็นน่ะ คิดว่าฉันเป็นลูกรักพระเจ้า ฟ้าประทานมาหรือไง ทั้งหมดที่มีฉันสร้างเองทั้งนั้น รู้บ้างไหม”

วูบหนึ่งที่แววเจ็บปวดพาดผ่านดวงตาของมนชิดา แต่แค่วูบเดียวก็หายไป หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นอย่างถือตัว พูดต่อว่า

“เธอทำตัวเองหรือเปล่าหวาน ลองคิดดูให้ดี เราสองคนเกิดปีเดียวกัน บ้านเกิดชุมพรเหมือนกัน แม้แต่พ่อของเราสองคนก็ยังเคยเป็นเด็กวัดมาก่อนเหมือนกัน แต่ทุกวันนี้เธอกับฉันเราต่างกันเพราะอะไร ไม่ใช่เพราะเลือกเองเหรอ”

ชีวิตคนเราทุกเวลานาทีคือทางเลือก มนชิดาคิดเช่นนั้น

ทุกการเลือกมีผลของมันไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ และผลนั้นจะนำไปสู่ทางเลือกครั้งต่อๆ ไป เหมือนรากไม้ที่แยกแตกแขนง

นับแต่วัยเด็ก เธอใช้ความเจ็บแค้นเป็นพลังถีบส่งตัวเองไปข้างหน้า ตั้งใจเรียน ทำกิจกรรมเพื่อเป็นดาวเด่น ได้รับโอกาสจากครูอาจารย์มากมาย ก็แล้วในวันที่เธอทำแบบฝึกหัดอ่านหนังสือสอบจนแทบไม่ได้หลับได้นอนนั้น ใครกัน ‘เลือก’ ไปเที่ยวและเล่นเกม สอบเอาเกรดแค่พอผ่าน ไม่ใช่ดวงศิริหรอกหรือ

เมื่อตั้งใจเรียนและมีผลการเรียนดี เธอจึงได้ทุนไปศึกษาต่อด้านการออกแบบที่อิตาลี สั่งสมประสบการณ์ ดูให้มาก ฟังให้มาก เปิดหูเปิดตาเพื่อปรับแนวคิดและรสนิยมให้เป็นระดับอินเตอร์ พอกลับมาประเทศไทย เธอสร้างผลงานได้ดีกว่าจนได้รับตำแหน่งโปรเจกต์เมเนเจอร์ ขึ้นเป็นหัวหน้าของดวงศิริ แบบนี้เรียกว่ากลั่นแกล้งตรงไหน

ในตอนที่เธอตระเวนดูแกลเลอรีงานออกแบบภายในของศิลปินดังๆ จ่ายเงินแพงๆ เพื่อไปรับประสบการณ์แบบที่คนไม่จ่ายเงินจะไม่มีวันได้รับ ไปพักโรงแรม รีสอร์ตสวยๆ ก้มหน้ามองพื้นดูอิฐปูทางเดินกับกระเบื้องห้องน้ำ ตอนนั้นดวงศิริทำอะไรอยู่ ดูดวงไพ่ยิปซีหรืออะไร

หากจะให้พูดถึงต้นทุนด้านรูปร่างหน้าตาแล้วละก็ มนชิดาอยากจะหัวเราะดังๆ การเลือกอาหารก่อนนำเข้าปากเป็นอะไรที่ง่ายที่สุดแล้วสำหรับเธอ ผิวพรรณดี หุ่นเพรียวกระชับอย่างนางแบบล้วนเกิดจากการดูแลอาหารการกินและออกกำลังกายสม่ำเสมอ แล้วคนที่กินฟาสต์ฟูด นอนดึก ดื่มน้ำน้อย ไม่ออกกำลังกาย มีสิทธิ์มาพูดว่าเธอโชคดีด้วยหรือ

เรื่องความรัก…มนชิดาอยากจะกรีดหัวเราะเยาะ เอาให้น้ำตาที่ล้นเอ่ออยู่ในใจเล็ดออกมาด้วย ดวงศิริต้นทุนดีกว่าเธอตั้งเท่าไร เจ็ดแปดปีที่ผ่านมามัวทำอะไร แล้วใครกันที่ดูแลความรักของตัวเองไว้ไม่ได้

แม้รูปการณ์ดูเหมือนว่าเธอจ้องจะแข่งขัน เอาชนะ และสะใจที่สุดในเรื่องความรัก แต่ความจริงก็คือความจริง เธอไม่เคยคิดแย่งภูริสมาจากใคร

หญิงสาวมีใจให้เขาด้วยใจจริง อยากดูแล ปรนนิบัติ ทำทุกอย่างที่เขาจะมีความสุข ยิ่งได้รู้ว่าเขาตามแอบรักดวงศิริมาก่อน เธอก็ยิ่งปวดใจ คนอย่างดวงศิริไม่คิดดูแลใครทั้งนั้น แม้ไม่ใช่คนเลวร้าย แต่ยังเหยาะแหยะ งอแง ติดนิสัยเป็นผู้รับ ไม่ค่อยซาบซึ้งในสิ่งที่ผู้อื่นทำให้ การมีน้ำใจตอบแทนจึงหาได้ยากเข้าไปใหญ่

ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมาภูริสเป็นฝ่ายดูแล คุ้มครอง ปกป้อง ช่วยเหลือทุกอย่าง แล้วดวงศิริทำอะไรตอบแทนเขาบ้าง นอกจากยิ้มใสเป็นเด็กๆ พูดหวาน ออดอ้อน ออเซาะฉอเลาะไปวันๆ สิ่งที่เธอเจ็บปวดที่สุดไม่ใช่การเห็นเขารักคนอื่น แต่คือการเห็นเขาไม่รักตัวเอง ถึงได้ยอมมีความรักแบบที่ตัวเองต้องลำบากอยู่ฝ่ายเดียวแบบนั้น

มนชิดายิ่งรักและอยากดูแลเขา ผู้ชายดีๆ แบบภูริสไม่ควรต้องมาเจออะไรแบบนี้ จนวันนี้เธอชนะใจเขาได้ด้วยรักจริงแล้ว ดวงศิริจะมาเรียกร้องตีโพยตีพายอะไร

“จากนี้ต่างคนต่างอยู่ แทนที่จะมาเพ่งโทษคนอื่น หัดมีสติแล้วใช้ชีวิตตัวเองให้ดีซะก่อนเถอะ”

มนชิดาหายใจแรง ความคับใจอัดแน่นเต็มอก แต่เธอก็พูดออกมาได้เท่านี้

ฝ่ายคนฟังหันไปอีกทางเหมือนไม่รับฟัง แต่แท้จริงแล้วกำลังข่มความรู้สึกขมขื่น สมองของหญิงสาวไม่อยากยอมรับ แต่ในอกนั้นเจ็บแปลบเพราะถูกแทงใจดำเข้าเต็มเปา

ท้ายสุดจึงพูดห้วนตอบไปแค่ว่า

“เธอคิดว่าฉันดูถูกเธอ เธอก็ดูถูกฉันเหมือนกันนั่นแหละ”

 



Don`t copy text!