Biryani ทีเด็ด
โดย : จรัสพร
นอกจาก “ อ่านเอา ” จะมีนิ
– Biryani ทีเด็ด –
“ในบรรดาอาหารอินเดียที่คนไทยเราคุ้นเคยมากที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้น Biryani ข้าวหมกอินเดีย และที่ดูจะสนิทสนมกับบ้านเราเป็นอย่างมาก หารับประทานได้ทั่วไปก็คือข้าวหมกไก่ มีผู้กล่าวเอาไว้ว่า Biryani นี้เป็นอาหารของขุนนางชั้นสูงในวังเลยทีเดียว ทำให้ข้าวหมกหรือบริยานีนี้เป็นอาหารยอดนิยมในห้องครัวของราชวงศ์โมกุลในอินเดีย พอเข้ามาสู่ราชสำนักไทยก็ได้ชื่อใหม่ว่า ‘ข้าวบุหรี่’ ซึ่งปัจจุบันข้าวหมกอินเดียนี้ ได้แพร่หลายไปทั่วทุกมุมโลก อย่างที่กล่าวกันว่า ทุกการเดินทางย่อมมีการพกพาเอาวัฒนธรรมและวิถีชีวิตไปด้วยเสมอ บริยานีจึงเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมความอร่อยที่เรารับมาด้วยความยินดี”
ทีเด็ดถอดสายโน้ตบุ๊กออกจากเครื่องโปรเจ็กเตอร์ เมื่อการบรรยายของเขาได้สิ้นสุดลง นักศึกษาต่างแยกย้ายกันออกจากห้องบรรยายไปจนหมด เหลือเพียงน้ำหนึ่งมาอยู่คอยช่วยเขาเก็บของ เนื่องจากเป็นคาบสุดท้าย ทุกคนจึงรีบกลับบ้านหนีฝนที่กำลังตั้งเค้ามา เมื่อเก็บของเสร็จเขาจึงชวนน้ำหนึ่งให้กลับพร้อมกัน
“น้ำหนึ่ง กลับพร้อมกันนะ”
“ครับ” นักศึกษาหนุ่มสบตาเขาแล้วตอบรับ
ทีเด็ดเป็นอาจารย์สอนการทำอาหารและโภชนาการในมหาวิทยาลัยดังทางภาคเหนือ เขาพักอยู่ที่บ้านพักอาจารย์ บ้านของเขาจึงเป็นที่คุ้นเคยของนักศึกษา ไม่นานนักทั้งคู่ก็มาถึงบ้าน
“น้ำหนึ่งอยากกินอะไรวันนี้” ทีเด็ดถามอย่างอารมณ์ดีขณะที่เปิดตู้เย็น สำรวจวัตถุดิบ
“อยากกินบริยานีครับ เมื่อครู่ฟังบรรยายแล้วหิวเลย”
“ไม่ยากๆ เดี๋ยวทำกันเลย ในตู้เย็นมีไก่อยู่พอดี มาช่วยกันเตรียมเครื่องปรุงก่อนนะ เสียดายไม่มีเครื่องเทศทำข้าวหมก ใช้ผงฮังเลแทนก็แล้วกันหอมใช้ได้อยู่”
“ได้ครับ เดี๋ยวผมช่วยเตรียมเครื่องปรุงเลยนะครับ”
เครื่องปรุง
ส่วนของข้าวหมก
- เนื้อสะโพกไก่ 500 กรัม
- ข้าวหอมมะลิ 2 ถ้วย
- กระเทียมสับ 10 กลีบ
- น้ำมันสำหรับผัดข้าว 4 ช้อนโต๊ะ
- ผงฮังเล 1 ซอง
- หญ้าฝรั่น 1 หยิบมือ (ไม่มีไม่ต้องใส่)
- ใบกระวาน 2 ใบ
- กานพลู 10 ดอก
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2 กระปุก
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงปรุงรสไก่ 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมเจียว ตามชอบ
ส่วนของน้ำจิ้ม
- พริกชี้ฟ้าสีเขียว 4-5 เม็ด (หั่นเป็นแว่นๆ)
- ใบสะระแหน่ 1 กำ (เด็ดเอาแต่ใบ)
- เกลือป่น 2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชู ½ ถ้วยตวง
“เครื่องปรุงพร้อมแล้ว เรามาลงมือทำกันเถอะน้ำหนึ่ง ท่าทางจะหิวนะ”
ทีเด็ดส่งสายตาเป็นประกายอย่างมีความหมาย น้ำหนึ่งสบตายิ้มตอบอย่างน่ารัก
“เรามาทำแบบ Step by Step เลยนะ”
ขณะที่อาจารย์ทีเด็ดลงมือทำบริยานี น้ำหนึ่งก็เริ่มบันทึกภาพนิ่ง เพื่อที่จะได้นำไปโพสต์แชร์ให้เพื่อนๆ ที่ไม่มีโอกาสได้มาชิมมาร่วมฟินด้วยกัน
ขั้นตอนแรกเราต้องนำไก่มาล้างให้สะอาดก่อน วันนี้เราใช้สะโพกไก่
เมื่อล้างไก่สะอาดแล้วนำมาหมักกับโยเกิร์ต 1 กระปุกและผงฮังเล 1 ซอง
คลุกเคล้าให้เข้ากันพักไว้สัก 20 นาที
นำข้าวหอมมะลิมาซาว 2 ครั้ง แล้วใส่กระชอนผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
หยิบกระทะมาตั้งไฟให้ร้อนใส่น้ำมันลงไป ตามด้วยกระเทียมสับ
จัดการเอาข้าวสารที่ผึ่งไว้มาผัดกับกระเทียม ให้หอม
จากนั้นเตรียมน้ำใส่หม้อนำข้าวสารที่ผัดกระเทียมแล้วมาต้ม
ใส่หญ้าฝรั่นเล็กน้อย ตามด้วยใบกระวาน และกานพลู
ต้มข้าวให้เกือบสุก แบบที่เรียกว่าตากบ ข้างนอกนิ่มข้างในแข็ง
นำข้าวที่ต้มแล้วมาเทน้ำต้มออกผึ่งใส่กระชอนไว้
ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อยนำไก่ที่เราหมักไว้มาผัด
เติมโยเกิร์ตลงไปอีก 1 กระปุก ใส่ผงปรุงรส
ผัดไก่ให้ผิวนอกเริ่มสุก
นำข้าวที่ผึ่งไว้เททับลงไปบนไก่ เกลี่ยให้มิด
ปิดฝากระทะทิ้งเอาไว้ 20 นาที
เมื่อข้าวสุกแล้วเปิดฝากระทะ โรยด้วยหญ้าฝรั่น หอมเจียว
“ขั้นตอนต่อไปคือการทำน้ำจิ้ม ที่เราเห็นกันบางร้านจะใช้น้ำจิ้มไก่ ซึ่งถ้าเป็นร้านของคนอิสลามจะทำน้ำจิ้มสีเขียว น้ำหนึ่ง เด็ดใบสะระแหน่เลย”
นำใบสะระแหน่ พริกชี้ฟ้า เกลือ น้ำตาลทราย และน้ำส้มสายชูใส่โถปั่นให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย
Biryani ร้อนๆ หอมฟุ้ง ไปทั่วบ้าน ทีเด็ด ตักชิ้นไก่ใส่หม้อเซรามิกใบน้อย โปะข้าวสีเหลืองหอมเครื่องเทศรสเข้มข้น โรยด้วยหญ้าฝรั่นและหอมเจียวตกแต่งด้วยมะเขือเทศฝานบาง เขาส่งให้น้ำหนึ่งซึ่งถือช้อนรอชิมอย่างกระตือรือร้น พลันก็มีเสียงใครคนหนึ่งทักมา
“สองพ่อลูกทำอะไรกันจ๊ะ หอมฟุ้งทั่วบ้านเลย” อาจารย์ดิวันส่งเสียงทักมาก่อนตัว
“คุณแม่ วันนี้กลับเร็วจังครับ วันนี้อาจารย์ทีเด็ดท่านลงมือทำข้าวหมกครับ” น้ำหนึ่งร้องทักมารดาอย่างยินดี
“ดิวัน ล้างมือแล้วมาร่วมวงเลย นึกว่าจะต้องกินกันสองคนซะแล้ว”
“แหมชั้นจะพลาด Biryani ทีเด็ด ไปได้ยังไงล่ะคะ”
บรรยากาศแห่งความรักอบอุ่นท่ามกลางอวลกลิ่นของ ข้าวหมกอินเดีย แพร่กำจายอยู่ในอาณาจักรเล็ก ๆ ที่มีแต่ความสุขสมบูรณ์พร้อมหน้าพ่อ แม่ ลูก ทีเด็ด ดิวัน น้ำหนึ่ง…
จบเรื่องราว Biryani ทีเด็ดแล้ว หากคุณผู้อ่านท่านใดอยากลองทำตามสูตรนี้ได้เลยนะคะ หรือจะไปซื้อผงข้าวหมกไก่สำเร็จรูปมาใส่แทนผงเครื่องแกงฮังเลก็ได้ค่ะ แต่ทำแล้วอย่าลืมเอามาอวดกันบ้างนะคะ…
- READ ก๋วยเตี๋ยวแม่เอ๊ยย...
- READ ซี่โครงหมูทอดนุ่มๆ ใครก็ทำได้
- READ อิ่มคนเดียวข้าวอบกุนเชียง
- READ ซุปพิเศษในวันฝนพรำ
- READ แม่ครัวคนใหม่
- READ ข้าวเหลืองแสนหอม
- READ เห่าดงบนโต๊ะอาหาร
- READ กะเพราเห็ดเผาะกระเทาะใจ
- READ "แกงส้มดอกแค" ดูแลกันไป
- READ "ผักเคลอบชีส" เมนูรักข้ามรั้ว
- READ กล้วยตากบวชชีมะพร้าวอ่อน
- READ มาม่าผัดหมูแดง อาหารกลางวันแบบพกพา
- READ ตำข้าวโพดซันคราวน์
- READ สุกี้หนีโควิด-19
- READ 'คอหมูทอด' กับแกล้มชั้นดี
- READ ขนมจีนน้ำเงี้ยวไม่เลี้ยวลด
- READ กะเพราเรามีคู่
- READ "มาม่าผัด" เมนูเด็กหอ
- READ หม่ำหลานยายมี
- READ รักและห่วง มะม่วงน้ำปลาหวาน
- READ ยำสะเดาเร้าใจ
- READ ต้มโคล้งโล่งใจ
- READ ถ้าปลามันจะเค็มขนาดนี้
- READ เส้นใหญ่ไม่สิ้นคิด
- READ รำลึกรัก หมูปั้นก้อน
- READ กะหรี่จีนนี้ แม่เน้ยคนปรุง...
- READ รักใครให้กินผัก
- READ ชาฮังก้นครัว
- READ แยมองุ่นกรุ่นรัก
- READ 'หวานหมู' เรื่องหมูหวาน
- READ เซี่ยงไฮ้ไม่ไร้รัก
- READ ซุปฟักทองของนางซิน
- READ ข้าวหน้าไก่ มัดใจแฟน
- READ Biryani ทีเด็ด
- READ ใหญ่ไก่กะเพรา
- READ "ข้าวผัดน้ำพริกกะปิ-วาฟเฟิลชะอม" คู่หูอินเตอร์ที่ต้องลอง
- READ 'ข้าวเศียรสุกร' เมนูทำง่ายกินได้ทั้งบ้าน
- READ "กะหล่ำตาถั่ว" ผัดเคล้าให้ทั่วแล้วกินให้หมด
- READ โอน้อยออกกินไม่ได้ แต่ "โอหอยออก" กินอร่อย
- READ สามสหาย "อร่อยอารมณ์ดี"
- READ "ห่อหมกไฟแดง" รสชาติแรงสีสันไม่แพ้ใคร
- READ "ระกาคั่วเกลือ" ผัดรัวๆ เดี๋ยวเดียวก็ได้กิน
- READ "บวชชีหนีรัก" เอากล้วยบวกกะทิแล้วพิชิตความอร่อย
- READ "น้ำพริกอ่องต๊ะต่อนยอน" ทำไปเรื่อยๆ กินได้หลายเมนู
- READ "ทาร์ตของป๊อปอาย" ของว่างแสนอร่อยกินได้ทุกเวลา
- READ "ลูกไหนในวอดก้า" ลูกไหนๆ ก็อร่อยชื่นใจ
- READ "ไก่ผัดป่าเถื่อน" ยิ่งกิน ยิ่งเผ็ด ยิ่งเด็ด ยิ่งอร่อย!
- READ "ผัดหมี่วัยใส" เส้นหมี่สีชมพูแสนหวานที่มาพร้อมความอร่อยครบเครื่อง