ฤทัยยักษ์ บทที่ 21.2 : เมื่อถึงคราวถอดดวงใจ

ฤทัยยักษ์ บทที่ 21.2 : เมื่อถึงคราวถอดดวงใจ

โดย : เวฬุวลี

Loading

ฤทัยยักษ์ โดย เวฬุวลี นวนิยายที่อ่านเอานำมาให้อ่านออนไลน์ที่ anowl.co กับเรื่องราวของ ‘ฤทัยมาศ’ ตำรวจสาวที่ต้องเข้าไปสืบคดีที่เชื่อมโยงกับอดีตของเธอที่มีร่วมกับยักษ์หนุ่มจากวัดโพธิ์นามว่า ‘แสงอาทิตย์’ และยังไปเกี่ยวพันกับเบื้องลึกเบื้องหลังของศึกยักษ์วัดโพธิ์กับยักษ์วัดแจ้งที่เล่าขานกันมาเนิ่นนาน

ฤทัยมาศไม่ต้องรอนานเหมือนครั้งที่หล่อนเคยรอคอยแสงอาทิตย์ในยามที่หล่อนเป็นเด็กสาว เพียงหนึ่งเดือนหลังจากนั้น แสงอาทิตย์ก็กลับมา ทันทีที่หล่อนเห็นร่างสูงของเขา หญิงสาวก็วิ่งเข้าไปกอดเขาในทันที

ปกติแล้วเมื่อหล่อนโผเข้ากอดเข้า ยักษ์หนุ่มก็จะกอดตอบ และก้มหน้าลงมาจูบหล่อนเนิ่นนาน แต่ครั้งนี้ แสงอาทิตย์เพียงแต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น แม้แต่มือของเขาก็ไม่เอื้อมมาสัมผัสหล่อน

ฤทัยมาศมองหน้าชายคนรักด้วยความกลัว ใบหน้าของเขายังเหมือนเดิม แต่แววตาเขากลับเปลี่ยนไป ไม่มีแววตาเสน่หายามที่มองหล่อนเช่นเคย

“แสงอาทิตย์ คุณหายไปไหนมา ฉันคิดถึงคุณมากรู้มั้ยคะ”

ยักษ์หนุ่มยังคงนิ่งเงียบ ไม่ตอบคำถามหล่อน ฤทัยมาศตัดสินใจ โน้มหน้าของเขาลงมา ก่อนที่หล่อนจะใช้ริมฝีปากของหล่อนสัมผัสริมฝีปากของเขา หวังให้รอยจูบนั้นทำให้แสงอาทิตย์กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง

รอยจูบที่เคยจุดไฟปรารถนาในกายของทั้งคู่ บัดนี้กลับเย็นชาและไร้สิ้นความรู้สึก ฤทัยมาศมองหน้าแสงอาทิตย์ ใจหล่อนจวนเจียนจะขาดเมื่อเอ่ยคำต่อมา

“แสงอาทิตย์ คุณจำฤทัยไม่ได้เหรอคะ นี่ฤทัยไงคะ”

ยักษ์หนุ่มสบตาหล่อนเพียงชั่วครู่ ก่อนเงียบงันไปเนิ่นนาน

“ผมจำได้” แสงอาทิตย์เอ่ยในที่สุด “แต่ผม…ไม่รู้สึก”

ฤทัยมาศเจ็บปวด หล่อนเอ่ยปากถามในสิ่งที่หล่อนกลัวคำตอบมากที่สุด

“คุณยัง…รักฉันอยู่หรือเปล่าคะ”

ยักษ์หนุ่มมองหน้าของฤทัยมาศก่อนเอ่ยถ้อยคำที่แสนโหดร้าย “ผมไม่สามารถรักคุณได้อีกแล้ว”

แค่คำพูดประโยคเดียวเท่านั้นก็เหมือนฟ้าถล่มดินทลายลงมาต่อหน้า หญิงสาวยังคงปฏิเสธด้วยน้ำตาเต็มตา “ไม่จริง…เมื่อไม่กี่วันก่อน คุณยังบอกว่าคุณรักฤทัยอยู่เลย คุณจะลืมความรู้สึกนี้ได้ยังไง”

“ผมขอโทษ…ผมแค่อยากทำอะไรดีๆ เพื่อคุณ ก่อนที่ผมจะไม่มีหัวใจ…”

หญิงสาวชะงัก ก่อนผลักยักษ์หนุ่มออกไปด้วยความโกรธ

“ยักษ์ใจร้าย! คุณถอดหัวใจ แต่ฉันยังมีหัวใจอยู่นะ ฉันจำได้ทุกๆ อย่าง ตอนนี้ฉันก็ยังรู้สึก…แล้วฉันก็เจ็บมากด้วย คุณรู้มั้ย”

แสงอาทิตย์นิ่งงัน ไม่อาจพูดคำใดได้อีกนอกจากขอโทษ แต่ดูเหมือนคำขอโทษคงไม่อาจทดแทนกับความรู้สึกที่เสียไปของฤทัยมาศ หญิงสาวร่ำไห้ออกมาอย่างใจสลาย ก่อนหันหลังเดินจากไป ทิ้งให้ยักษ์หนุ่มมองตามหล่อนจนสุดสายตา

เจ้าหน้าที่เรือนจำกุลีกุจอมาต้อนรับเมื่อนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อย่างปราการเข้ามาเยี่ยมผู้ต้องหาอย่างมธุริน

นายตำรวจใหญ่เดินเข้าไปทรุดตัวนั่งอยู่ตรงข้ามกับหญิงสาววัยกลางคน หล่อนยังคงมองเหม่อ นัยน์ตาเลื่อนลอย

“คุณมธุริน…” ปราการเข้าไปกระซิบใกล้ๆ “นี่ผมเอง จำได้มั้ย ปราการ”

มธุรินหันไปสบตาเขาเพียงชั่วครู่ก่อนเบือนหน้าไปอีกทาง หญิงสาวมองในมือของตนซึ่งมีรูปสลักหินขนาดเล็กที่ศศินลูกชายของหล่อนให้ไว้ตั้งแต่วันก่อน หล่อนหยิบจับรูปสลักนี้ไม่วาง และอาละวาดเมื่อรูปสลักจะถูกเอาไปจากมือ จนผู้คุมเองก็ยอมรามือ และให้หล่อนถือรูปสลักนี้ติดตัว

เมื่อไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองจากอีกฝ่าย ปราการก็ยิ้มอย่างโล่งใจ “ตกลงคุณเป็นบ้าจริงๆ สินะ ก็ดีเหมือนกัน ผมจะไม่ได้ต้อง ‘กำจัด’ คุณซะ”

พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่รับรู้สิ่งใด ปราการก็กล้าที่จะพูดจามากขึ้น “จริงๆ ก็น่าเสียดาย…ถ้าคุณยังอยู่ คุณจะได้ช่วยผมกำจัดศัตรูอีกหลายคนแบบที่ผมไม่ต้องเปลืองแรง คุณน่ะ…เป็นอาวุธชั้นดีของผมเลยนะคุณมธุริน”

นายตำรวจใหญ่หัวเราะหยัน ก่อนลุกขึ้นเดินออกไป แต่ยังไม่ทันพ้นจากห้องนั้น เสียงบางอย่างดังขึ้น

“มึงจะกำจัดกูเหรอ”

ปราการชะงัก หันมามองมธุริน บัดนี้แววตาของหล่อนไม่ได้เลื่อนลอยอีกแล้ว แต่กลับฉายแววเหี้ยมโหด ก่อนแสยะยิ้มที่มีเขี้ยวยาวออกมา

ตำรวจใหญ่ผงะ เขารู้ว่ามธุรินกำลังจะกลายเป็นสิ่งใด เขารีบวิ่งไปที่ประตู แต่มธุรินไวกว่า หล่อนผลักโต๊ะที่ตั้งอยู่มาขวางไว้ หนุ่มใหญ่รีบตะโกนลั่นเรียกเจ้าหน้าที่เรือนจำที่อยู่ด้านนอก

“ช่วยด้วย! เปิดประตูที! นังนี่มันบ้าไปแล้ว!”

เจ้าหน้าที่เรือนจำรีบวิ่งมาทันทีที่ได้ยินเสียง แต่ไม่สามารถดันประตูเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่ชะโงกหน้าไปมองผ่านกระจกหน้าประตูแล้วก็ต้องผงะ เมื่อเห็นภาพที่ไม่เคยคิดว่าจะเห็นมาก่อน

ผู้ต้องขังใช้เขี้ยวขย้ำไปที่นายตำรวจใหญ่ที่ร้องลั่นก่อนบิดคอเขาจนหมุนได้รอบ ปราการตาเหลือก นอนตายอยู่กลางห้อง ขณะที่คราบเลือดกระจัดกระจายไปทั่ว ก่อนที่ผู้ต้องขังจะใช้เรี่ยวแรงมหาศาลทุบทำลายกำแพงของเรือนจำและวิ่งจากไปจนไม่เห็นแม้แต่เงา

 



Don`t copy text!