“แห้งเร็ว – ไม่เหม็นอับ” รวมเคล็ดลับตากผ้าหน้าฝน

เรื่องราวรอบตัวน่ารู้น่าอ่านกับหลากหลายสิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ในคอลัมน์ Lifestyle โดย Hoot-Hoot ที่อ่านออนไลน์แล้วรับรองมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตอย่างแน่นอน เพราะเรื่องราวดีๆ ที่รายล้อมรอบตัว #มีให้อ่านที่อ่านเอา

…………………………………………..

หน้าฝนกำลังมาแล้วจ้า บางคนบอกว่าดี๊ดี หน้าฝนเย็นฉ่ำ บางคนบอกว่าไม่ชอบเลยเพราะเฉอะแฉะแถมยังเป็นหวัดง่าย ที่สำคัญเวลาซักผ้าก็สุดเพลียเพราะกว่าผ้าจะแห้งก็ใช้เวลานานมาก พอแห้งเสร็จมีของแถมเป็นมีกลิ่นอับมาด้วย บ้านไหนมีเครื่องอบผ้าก็รอดไป แต่ถ้าไม่มีล่ะทำยังไง เอ้า… ทำแบบนี้จ้า ผ้าแห้งเร็ว-ไม่เหม็นอับแน่นอน

เอาน้ำออกจากผ้าให้มากที่สุด > ถ้าซักมือ พอซักเสร็จแล้ว ทำให้ในผ้ามีน้ำเหลือน้อยที่สุด ฉะนั้น มีแรงแค่ไหนบิดเข้าไปค่ะ บิดเพื่อให้น้ำออกให้มากที่สุดเท่าที่พอจะบิดได้ (แต่อย่าฝืนแรงข้อมือ เดี๋ยวบาดเจ็บแทน) แล้วผ้าจะแห้งเร็วขึ้น พอบิดเสร็จก็สะบัดๆๆ แล้วค่อยตาก ส่วนถ้าซักเครื่องที่มีระบบปั่นแห้ง ก็ให้ปรับระดับเพิ่มความแรงเพื่อให้เครื่องช่วยรีดน้ำออกให้มากที่สุด

ใช้ตัวช่วย > พัดลมและไดร์เป่าผมคือสิ่งที่ขาดไม่ได้ แค่เอาพัดลมจ่อไปที่ผ้า ลมจากพัดลมก็จะช่วยทำให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น พอเริ่มหมาดๆ ใช้ไดร์เป่าปิดท้าย

น้ำยาปรับผ้านุ่มต้องใช้ > เพราะหน้าฝน การตากผ้ามักไม่โดนแดดทำให้มีกลิ่น แต่ถ้าไม่อยากมีกลิ่นอับก็ต้องทำให้ไม่มี ฉะนั้น เมื่อสภาพอากาศแวดล้อมไม่เป็นใจ ก็เลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเข้าช่วย ยิ่งเดี๋ยวนี้มีสูตรขจัดกลิ่นอับชื้นยิ่งดีใหญ่ ซื้อมาใช้ซะ รับรองจะติดใจค่ะ

ตากเสื้อผ้าในพื้นที่อากาศถ่ายเท > ปกติถ้าหน้าร้อนจะเข็นราวตากผ้าไปที่กลางแจ้งได้สบายๆ แต่เมื่อหน้าฝนทำไม่ได้ และจำเป็นต้องตากในบ้าน ขอให้เลือกห้องที่โล่งที่สุด เพื่อให้อากาศถ่ายเท ช่วยทำให้ลมระบายภายในห้อง กลิ่นอับจะได้ไม่เกิด และที่สำคัญ อย่าลืมเปิดประตูหน้าต่างเมื่อตากผ้าในบ้านเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงกลิ่นอับชื้น

เว้นระยะของเสื้อผ้าตอนตาก > ราวตากผ้าใหญ่เล็กขนาดไหนก็ตาม ต้องคิดเสมอว่า ห้ามตากรวมๆ ไปโดยไม่เว้นระยะเด็ดขาด ควรตากผ้าหรือแขวนผ้าแบบเว้นระยะ เพื่อให้อากาศได้ผ่านเนื้อผ้าอย่างทั่วถึง ถ้าตากซ้อนๆ แล้วหวังว่าลมจะทะลุทะลวงเส้นใยของผ้าละก็ ขอให้คิดใหม่นะคะ เพราะสิ่งนั้นไม่มีวันเกิด โดยเฉพาะในหน้าฝน

ใช้ไม้แขวนเสื้อช่วย > จากที่สะบัดผ้าแล้วพาดตาก เปลี่ยนมาใช้ไม้แขวนเสื้อค่ะ เพราะเส้นทางลมจะพัดผ่านเนื้อผ้าได้ดีกว่าแบบที่เอาผ้าไปพาดตาก ซึ่งแน่นอนว่า ผ้าก็จะแห้งแร็วขึ้นได้ค่ะ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าอยากให้ผ้า ‘แห้งเร็ว-ไม่เหม็นอับ’ ในช่วงหน้าฝน ก่อนที่จะทำทุกกระบวนการที่เราบอกไป อย่าลืมเช็กสภาพอากาศสักนิด ถ้ามีแววว่าฝนตกกระหน่ำมาแน่นอน ก็ชะลอการซักเอาไว้ก่อนดีกว่านะคะ แต่ถ้าจำเป็นต้องซักจริงๆ แบบว่าไม่มีเสื้อผ้าจะใส่แล้ว อาจเลือกซักเฉพาะชิ้นที่เนื้อผ้าบาง ส่วนผ้าหนาๆ เอาไว้ก่อน อย่างน้อยๆ จะได้มีเสื้อผ้าใส่ยังไงล่ะคะ