นั่งตากแอร์ กินข้าวแช่หน้าร้อนกันดีกว่า

นั่งตากแอร์ กินข้าวแช่หน้าร้อนกันดีกว่า

โดย : Hoot-Hoot

เรื่องราวรอบตัวน่ารู้น่าอ่านกับหลากหลายสิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ในคอลัมน์ Lifestyle โดย Hoot-Hoot ที่อ่านออนไลน์แล้วรับรองมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตอย่างแน่นอน เพราะเรื่องราวดีๆ ที่รายล้อมรอบตัว #มีให้อ่านที่อ่านเอา

…………………………………………..

แต่ไหนแต่ไรมา พอถึงหน้าร้อนทีไร Hoot-Hoot จะได้ยินคนพูดถึงเมนูข้าวแช่ทุกปี พอได้เห็นหน้าค่าตาก็พอเข้าใจได้ว่าทำไมขึ้นชื่อว่าข้าวแช่ แต่ไม่เคยค้นสักนิดว่าข้าวแช่ที่ว่าเป็นมายังไง จนโตเป็นสาววันนี้ ถามกูเกิลรู้เรื่องสักที ก็เลยขอสรุปความมาเล่าให้อ่าน

         

ว่ากันว่าข้าวแช่มาจากชาวมอญ

‘ข้าวแช่’ เป็นอาหารพื้นบ้านของชาวมอญ เรียกแบบภาษาถิ่นเลยว่า ‘เปิงด๊าดจ์’ ที่มีความหมายว่า ‘ข้าวน้ำ’ เป็นเมนูที่ชาวมอญทำถวายทวยเทพในเทศกาลตรุษสงกรานต์ และก็จะนำมาถวายพระสงฆ์ รวมถึงให้ผู้สูงอายุที่นับถือได้กิน ซึ่งบ้านไหนใครทำไปถวาย เชื่อว่าจะนำสิ่งที่เป็นมงคลมาสู่ตัว

 

ข้าวแช่มาแลนดิ้งเมืองไทยได้เพราะแบบนี้

อย่างที่รู้ๆ กันอยู่แล้วนะคะว่า ไทย-มอญคือเพื่อนกันมายาวนาน สองวัฒนธรรมไม่ได้ติดต่อแลกเปลี่ยนแค่เรื่องเสื้อผ้าหรือภาษา แต่หนึ่งในนั้นคือเรื่องของอาหารการกิน ข้าวแช่ก็เลยแพร่มาสู่สำรับอาหารไทย โดยเริ่มจากสำรับในวังก่อน เพราะมีสตรีชาวมอญได้เข้าเป็นฝ่ายใน จึงได้ทำข้าวแช่เพื่อถวาย ทีนี้เวลาก็เดินไปเรื่อยๆ ความดีงามของข้าวแช่ก็สืบเนื่องต่อมากันเรื่อยๆ ซึ่งว่ากันว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสวยก็ทรงโปรดเมนูนี้มาก คนในวังจะรู้จักกันดี โดยจะเรียกข้าวแช่ว่า ‘ข้าวเสวย’ หรือ ‘ข้าวแช่เสวย’  ซึ่งหมายถึงข้าวแช่ที่ปรุงขึ้นเพื่อให้พระมหากษัตริย์เสวยนั่นเอง แต่ชาวบ้านไม่มีใครเคยได้ลิ้มรส จนยุคสมัยผ่านไป  ม.ล. เนื่อง นิลรัตน์ ผู้เคยทำงานห้องเครื่องต้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้นำข้าวแช่ออกสู่ตลาด ประชาชนคนนอกวังก็เลยได้รู้จัก ได้ลิ้มรส จนเกิดเป็นกระแสนิยมสืบมาจนตอนนี้

ภาพ : Facebook > Thai Culture to the World

ข้าวแช่จะอร่อย เครื่องต้องครบ!

ความเฉพาะตัวของข้าวแช่ ไม่ได้อยู่ที่เอาข้าวสวยหุงสุกมาแช่ในน้ำลอยดอกไม้อบควันเทียนให้กินกันเพียวๆ แต่มีความเย็นชื่นใจของน้ำเป็นหัวใจสำคัญอีกอย่าง ซึ่งถ้าสงสัยว่า เมื่อก่อนไม่มีตู้เย็น ไม่มีน้ำแข็ง แล้วข้าวแช่เย็นฉ่ำได้ไง คำตอบคือ คนไทยสมัยก่อนจะนำน้ำลอยดอกไม้ไปใส่ไว้ในหม้อดินแล้วจึงตักมาใช้ หรือไม่ก็จัดข้าวแช่ใส่สำรับกระเบื้องเคลือบก็จะทำให้น้ำเย็นลอยดอกไม้นั้นเย็นขึ้นกว่าน้ำปกตินั่นเองค่ะ

เอาล่ะค่ะ ทีนี้มาดูกันต่อว่าข้าวแช่จะสมบูรณ์ได้ต้องมีเครื่องเคียงที่กินด้วยกันแล้วยิ่งเสริมความอร่อย ไม่ว่าจะเป็น…

ลูกกะปิ ที่ปั้นมาจากปลาช่อนย่าง ตะไคร้ กระชาย หัวหอม กะปิ หัวกะทิ ขนาดพอดีคำ แล้วนำไปชุบไข่ทและแป้งสาลีทอดในกระทะจนสีเหลืองทอง ได้กลิ่นหอมคละคลุ้งชวนหิว ถือเป็นเครื่องเคียงเบอร์หนึ่งที่ต้องมีในข้าวแช่

นอกจากนั้นก็จะมีหอมแดงสอดไส้, พริกหยวกสอดไส้, ไชโป๊วผัดหวาน และหมูฝอย มาประกอบเคียงกัน จัดเสิร์ฟสวยๆ เป็นของว่างยามบ่ายอากาศร้อนๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงนั่งกินกันนอกชาน แต่สมัยนี้เวลานี้ พระอาทิตย์ไม่ปรานี ขนาดนั่งในห้องแอร์บางทียังเหงื่อตก

ทีนี้ ถ้าจะยกสำรับข้าวแช่ทั้งหมดไปนั่งกินกันช่วงหน้าร้อนก็ไม่มีใครว่านะคะ

 

ข้อมูล : https://th.openrice.com, https://cheechongruay.smartsme.co.th

Don`t copy text!