Apple Cider Vinegar กินดีมีประโยชน์แต่ก็มีโทษต้องระวัง

Apple Cider Vinegar กินดีมีประโยชน์แต่ก็มีโทษต้องระวัง

โดย : Hoot-Hoot

Loading

เรื่องราวรอบตัวน่ารู้น่าอ่านกับหลากหลายสิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ในคอลัมน์ Lifestyle โดย Hoot-Hoot ที่อ่านออนไลน์แล้วรับรองมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตอย่างแน่นอน เพราะเรื่องราวดีๆ ที่รายล้อมรอบตัว #มีให้อ่านที่อ่านเอา

…………………………………………..

สนับสนุนอ่านเอาด้วยการสั่งซื้อหนังสือ “ในสวนอักษร” คลิกที่นี่

Hoot-Hoot เคยได้ยินคนพูดถึงประโยชน์น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลหรือ Apple cider vinegar มานานแล้ว แต่ยังไม่เคยลองสักครั้ง กระทั่งวันนี้อยากจะลองดู เลยหาข้อมูลมาเพิ่มความมั่นใจกันหน่อย ทีนี้เลยไม่อยากเก็บไว้คนเดียว ก็วัยอย่างเราๆ ต้องดูแลตัวเองนี่เนอะ

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ Apple cider vinegar  กันก่อน เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เป็นน้ำแอปเปิ้ลที่หมักกับยีสต์จนกลายเป็นแอลกอฮอล์ แล้วนำแอลกอฮอล์ที่ได้มาเติมแบคทีเรียเพื่อเกิดปฏิกริยากลายเป็นกรดอะซิติก นั่นทำให้ Apple cider vinegar ที่มีสีเหลืองคล้ายสีชา มีรสเปรี้ยวจัดมีความเป็นกรดสูงค่ะ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบของธาตุโพแทสเซียม ซึ่งช่วยในการแบ่งเซลล์ จึงส่งผลไปถึงเรื่องการเติบโตและมีธาตุอาหารกว่า 30 ชนิด พร้อมวิตามินมากกว่า 6 ชนิด รวมถึงกรดอะมิโน และสารเพ็กติน ดังนั้นคนที่ขาดโพแทสเซียม ถ้าเป็นเด็กก็เติบโตช้า ถ้าโตมาหน่อยก็จะมีผมหงอกเร็ว แก่เกินวัย

สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักหรือต้องการควบคุมน้ำหนัก การกิน Apple cider vinegar  คืออีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเพราะกินแล้วจะเข้าไปช่วยลดอาการอยากอาหาร จึงเป็นการช่วยลดน้ำหนักได้ทางอ้อม แถมยังช่วยการเผาผลาญและขับของเสียออกจากร่างกาย …อ๊ะๆ แต่ไม่ใช่นั่งจิบแต่ Apple cider vinegar นะคะ ต้องกินอาหารอย่างอื่นร่วมด้วยในปริมาณและชนิดที่เหมาะสม และออกกำลังกายประกอบ จะได้ลดหรือควบคุมน้ำหนักไปพร้อมๆ กับร่างกายที่ยังแข็งแรง

ทั้งนี้ แม้ไม่มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสรรพคุณของ Apple cider vinegar  โดยเฉพาะ แต่ก็มีหลายงานวิจัยในต่างประเทศที่พบว่า Apple cider vinegar มีสรรพคุณในการรักษาโรค ดังนี้

  • Apple cider vinegar อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยมีงานวิจัยที่ศึกษาผู้ป่วยเบาหวานประเภท 2 พบว่า หากกิน Apple cider vinegar วันละ 2 ช้อนโต๊ะผสมน้ำสะอาดก่อนนอน จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดก่อนเวลาอาหารเช้าได้ 4-6 เปอร์เซ็นต์
  • Apple cider vinegar ช่วยเรื่องความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ ซึ่งเรื่องนี้มีงานวิจัยทางระบาดวิทยาพบว่า Apple cider vinegar ช่วยลดความดันโลหิตของหนู และผู้ที่รับประทานน้ำสลัดที่มีน้ำมันและน้ำส้มสายชูผสมกัน สัปดาห์ละ 5-6 ครั้ง จะมีอัตราการเกิดโรคหัวใจต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทาน
  • Apple cider vinegar ช่วยลดน้ำหนัก เพราะมีการใช้น้ำส้มสายชูในการลดน้ำหนักมาเป็นพันปี เนื่องจากกินแล้วช่วยให้อิ่มเร็วขึ้น ซึ่งก็มีผลการวิจัยในปี 2005 พบว่า ผู้ที่รับประทานขนมปังกับน้ำส้มสายชูเล็กน้อยจะรู้สึกอิ่มเร็วกว่าคนที่รับประทานแต่ขนมปังอย่างเดียว

แม้กินแล้วมีประโยชน์ แต่ก็ไม่ใช่ว่ากินได้เลยแบบไม่ระวังนะคะ หากจะกิน Apple cider vinegar ล่ะก็ ควรกินในปริมาณที่เหมาะสมคือ วันละ 2 ช้อนชาโดยผสมกับน้ำหรือน้ำผลไม้ ห้ามกินแบบเพียวๆ เด็ดขาด เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่ามีความเป็นกรดสูง อาจเข้าไปทำลายสารเคลือบฟัน เนื้อเยื่อในคอและปาก

นอกจากนี้กินเป็นเวลานานก็ไม่ดี เพราะทำให้ระดับโพแทสเซียมต่ำ และกระดูกบาง ดังนั้นถ้าใครมีปัญหาโพแทสเซียมในเลือดต่ำ หรือเป็นโรคกระดูกพรุนอยู่แล้ว ควรปรึกษาแพทย์ รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ต้องกินยาบางประเภท เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาระบาย ยารักษาโรคเบาหวานและโรคหัวใจ ก็ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อมากินเสมอนะคะ

ข้อมูล : cheewajit.com และ pobpad.com

Don`t copy text!