กระบือสื่อรัก บทที่ 12 : สาวโรงงานมาเป็นแม่ค้าลูกชิ้น (2)

กระบือสื่อรัก บทที่ 12 : สาวโรงงานมาเป็นแม่ค้าลูกชิ้น (2)

โดย : พรรณสิริ

Loading

กระบือสื่อรัก นวนิยายรางวัลชนะเลิศจากโครงการช่องวันอ่านเอาปีที่ 4 โดย พรรณสิริ ที่อ่านได้ในเพจอ่านเอาและ anowl.co เรื่องราวของเอื้อมดาวที่ต้องกลายมาเป็นหัวหน้าครอบครัว เธอต้องทิ้งใบปริญญามาเป็นสาวโรงงาน ต้องขายควายเพื่อใช้หนี้ แล้วบททดสอบของชีวิตก็ทำให้รู้ว่าตัวเองแกร่งกว่าที่คิดและชีวิตไม่ต้องขึ้นอยู่กับใบปริญญาเสมอไป

“ทำอะไรกันอยู่ป้ากับหลาน” เสียงโหวกเหวกดังมาก่อนตัว

รุ่งอรุณวางข้าวของลงบนโต๊ะ เดินทะลุผ่านตัวบ้านออกไปยังลานครัวไทยด้านหลัง เห็นแม่ของตัวเองกำลังขะมักเขม้นผสมเครื่องปรุงต่างๆ ลงในโถเครื่องปั่น ในขณะที่เอื้อมดาวยืนหน้ามันแผล็บอยู่หน้าเตา คอยช้อนลูกชิ้นที่สุกแล้วจากหม้อน้ำซึ่งเปิดไฟไว้อ่อนๆ ใส่กะละมังน็อกด้วยน้ำเย็น

“แม่มีสูตรทำลูกชิ้นหมูด้วยเหรอ เคยเห็นแต่ทำลูกชิ้นปลากราย” เจ้าตัวชะโงกหน้าเข้ามาดู

“ไม่มี เอื้อมหามาจากอินเทอร์เน็ต แต่แม่มันไม่ยอมช่วยเลยต้องถึงมือแม่เอ็งไงล่ะ” นางสอางค์พูดติดตลกอย่างอารมณ์ดี

“พี่รุ่งมาช่วยชิมหน่อย ลองมาหลายสูตรแล้ว รอบนี้น่าจะเป๊ะสุด”

“รับเขามาขายก็ดีอยู่แล้ว จะทำเองให้ยุ่งยากทำไม” รุ่งอรุณซึ่งถนัดซื้อมาขายไปมากกว่าแย้ง

“เด็กนักเรียนบ่นว่าลูกชิ้นแป้งเยอะ ฉันเลยว่าจะลองทำเองดู”

“อย่าบอกนะว่าไม่ผสมแป้ง แล้วจะเอากำไรมาจากไหน ขายเด็กนักเรียนไม้ละสิบบาทก็แพงแล้ว” รุ่งอรุณร้องเสียงหลง

นางสอางค์หัวเราะร่วนเมื่อบุตรสาวพูดแทนใจ แต่เมื่อหลานสาวมาขอร้องให้ช่วย นางจึงไม่ขัด ลูกหลานยังเด็กมีกำลัง เผื่อได้ช่องทางทำมาหากินเพิ่ม “น้องมันอยากลอง ไม่เห็นเสียหาย ขายในโรงเรียนไม่ได้ก็ไปขายที่อื่นที่คนกินมีกำลังซื้อ ไม่เห็นจะยาก อย่าเพิ่งรีบตีโพยตีพายไปหน่อยเลย” ​

รุ่งอรุณซึ่งล้างไม้ล้างมือเรียบร้อยแล้ว ใช้ส้อมจิ้มลูกชิ้นเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ “อืม…อันนี้เผ็ดไปหน่อย สงสัยหนักพริกไทย แต่คนกินรสจัดน่าจะชอบนะ”

“เอื้อมเปลี่ยนหม้อ แล้วบีบสูตรนี้ต่อ ป้าว่าโดนแน่นอน”

หญิงสาวกุลีกุจอทำตามคำสั่งแม่ครัวใหญ่ ยกหม้อเดิมออกแทนที่ด้วยหม้อใหม่

“ขอฉันลองบีบหน่อย ดูน่าสนุก” รุ่งอรุณหยิบถุงมือพลาสติกมาสวมก่อนรับชามเนื้อหมูบดจากมือมารดา “ไหนทำยังไง เอื้อมทำให้พี่ดูก่อน”

เอื้อมดาวสาธิตให้ลูกพี่ลูกน้องดู เธอแช่ช้อนในชามน้ำเย็นจัดที่มีน้ำแข็งลอยอยู่ จากนั้นตักเนื้อหมูใส่อุ้งมือแล้วบีบเบาๆ ให้ลอดผ่านช่องว่างระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ ตัดแบ่งด้วยช้อน ใช้นิ้วคลึงเบาๆ อีกรอบจนได้ลูกชิ้นกลมสวยแล้วจึงหย่อนใส่หม้อ

“ไม่ยากๆ” รุ่งอรุณเลียนแบบ แต่ยังควบคุมน้ำหนักมือได้ไม่ดีนัก เนื้อหมูที่ถูกบีบออกมาจึงลูกใหญ่กว่าปกติค่อนข้างมาก ยังไม่ทันปั้นให้กลมก็ไหลออกจากมือหล่นลงหม้อเสียงดังตุ๋ม

เอื้อมดาวหัวเราะคิกคักเมื่อเห็นท่าท่างเก้ๆ กังๆของลูกพี่ลูกน้องซึ่งปกติทำทุกอย่างด้วยความคล่องแคล่วเสมอ “ไม่ใช่ลูกชิ้น กลายเป็นลูกเทนนิสไปแล้ว ใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มเลย”

“อ้าว เดี๋ยวเด็กกินไม่อิ่มไง ลูกใหญ่ๆ แบบนี้แหละ เอาไว้ถ่ายรูปอวดก่อนกินได้ด้วย” รุ่งอรุณแก้ต่างให้ฝีมือบีบลูกชิ้นอันไม่เอาไหนของตัวเองไปแบบน้ำขุ่นๆ

ชั่วอึดใจใหญ่ๆ ลูกชิ้นขนาดเกือบเท่าลูกเทนนิสก็ลอยขึ้นจากก้นหม้อ เอื้อมดาวช้อนขึ้นมาใส่จาน ใช้มีดผ่าแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ไอร้อนกรุ่นพุ่งออกจากลูกชิ้นเนื้อแน่น

“โอ๊ย! ร้อน” รุ่งอรุณจิ้มลูกชิ้นใส่ปากแทบจะทันทีโดยไม่เป่า อ้าปากพ่นไอร้อนออกมาพลางเคี้ยวตุ้ยๆ ก่อนจิ้มอีกชิ้นตามเข้าปาก คราวนี้เจ้าตัวค่อยๆ เคี้ยวอย่างต้องการซึมซับรสชาติ “อืม…กลมกล่อมดี หนึบกว่าหม้อที่แล้ว แม่ผสมเอ็นลงไปด้วยหรือเปล่า”

“เออ สมที่เป็นลูกมือช่วยทำกับข้าวมาสิบปี”

เอื้อมดาวจิ้มส่วนที่เหลือป้อนใส่ปากนางสอางค์และจิ้มชิ้นสุดท้ายเข้าปากตัวเอง “ถ้าได้น้ำจิ้มซีฟูดหน่อยนะป้า จะแซ่บมาก”

“จัดไป” นางสอางค์เคลื่อนตัวไปเปิดตู้เย็น หยิบมะนาว ผักชี พริกขี้หนู และกระเทียมออกมาส่งให้บุตรสาว

รุ่งอรุณรับช่วงต่ออย่างรู้งาน ปอกกระเทียม หั่นผักชี พริกขี้หนูพอหยาบ และฝานมะนาวบีบลงในถ้วยปั่น “พริกแค่นี้พอไหมแม่”

“พอๆ อย่าหนักมือนัก แกจะให้คนกินพ่นไฟได้หรือไง บีบมะนาวลงไปอีกหน่อย” แม่ครัวใหญ่กลับมาพร้อมกระปุกน้ำตาลปีบในมือ ใช้ช้อนแกงควักน้ำตาลเหนียวก้อนย่อมๆ ใส่ตามลงไป

“น้ำปลาล่ะแม่”

“ปั่นก่อน เดี๋ยวค่อยใส่ สอนไม่จำ” นางยกทัพพีขึ้นทำทีจะหวดศีรษะบุตรสาว

รุ่งอรุณวางกระปุกแก้วลงบนฐานเครื่องปั่น กดความเร็วระดับปานกลางเพียงชั่วอึดใจ ส่วนผสมก็ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน น้ำมะนาวเมื่อผสานกับพริกขี้หนูและผักชีให้สีเขียวสดแลดูน่ากิน

นางสอางค์เขย่าน้ำปลาหมักสีเข้มแต่ใสแจ๋วใส่ช้อน กะคร่าวๆ อย่างชำนาญ ไม่ต้องตวงให้เสียเวลา

รุ่งอรุณกดเครื่องปั่นต่ออีกหน่อยก่อนเทใส่ถ้วย

“หืม…หอมฟุ้งเลย ป้า แค่ได้กลิ่นก็น้ำลายสอแล้ว” เอื้อมดาวสูดกลิ่นที่ผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัวเข้าจมูก

“เอ้า อย่ามัวแต่ดมกลิ่นน้ำจิ้ม ตักลูกชิ้นมาให้ไวเลย” มือปั่นน้ำจิ้มสั่ง

เอื้อมดาวจึงรีบช้อนลูกชิ้นที่สุกแล้วขึ้นจากหม้อ ตักใส่จาน นำมาวางข้างถ้วยน้ำจิ้ม

รุ่งอรุณไม่รอช้า ใช้ส้อมจิ้มลูกชิ้นจุ่มลงในถ้วยน้ำจิ้มส่งเข้าปาก รสชาติของเนื้อหมูคละเคล้ากับน้ำจิ้มซีฟูดทำเอาขนท้ายทอยลุกชัน “จี๊ดจ๊าดมาก น้ำจิ้มแซ่บสูตรแม่สอางค์สุดยอดไปเลย”

เนื่องจากกินเผ็ดสู้ลูกสาวป้าไม่ได้ เอื้อมดาวจึงใช้ช้อนตักน้ำจิ้มราดลงบนลูกชิ้นแล้วจึงตักเข้าปาก รู้สึกได้ถึงรสชาติเปรี้ยวอมหวานนิดๆ นำมาก่อน แล้วความเผ็ดร้อนค่อยๆ กำซาบกระจายไปทั่วลิ้น “ฉันว่าลงตัวทีเดียว แต่ลูกชิ้นลูกเล็กเนื้อมันน้อยไม่หนำใจ ต้องกินทีเดียวสองลูกถึงจะเอาน้ำจิ้มอยู่ พี่รุ่งว่าอย่างนั้นไหม”

“เออเห็นด้วย ต้องใหญ่น้องๆ ลูกเทนนิส รับรองมันจนหยุดไม่ได้เลย” รุ่งอรุณพยักพเยิด “แม่บอกสูตรมาหน่อย เล่นกะเอาแบบนี้ เอื้อมมันทำต่อไม่ถูกหรอก”

“ไม่ต้องบอกหรอก เวลาขายจริงทำแค่ถ้วยเดียวเสียที่ไหนเล่า อย่างน้อยก็ต้องหนึ่งโถใหญ่ แรกๆ เดี๋ยวป้าทำให้ก่อน เอื้อมก็จดสูตรเอาไว้ ค่อยๆ เรียนรู้ไป เดี๋ยวก็ทำได้เอง”

“ขอบคุณป้ามากเลย” เอื้อมดาวปลื้มปริ่ม โผเข้ากอดเอวอวบของผู้เป็นป้า

“รับมาขายสบายๆ ไม่ชอบ สรุปออกจากโรงงานมาปั้นลูกชิ้นขายใช่ไหม” รุ่งอรุณล้ออย่างเอือมๆ

“ใครจะไปรู้ ต่อไปฉันอาจจะเป็นเจ้าของโรงงานลูกชิ้นก็ได้ อ้อ แล้วก็โรงงานน้ำจิ้มซีฟูดด้วย น้ำจิ้มไก่แม่ประนอมก็มีแล้ว ทำไมจะมีน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรแม่สอางค์บ้างไม่ได้ล่ะ ใช่ไหมป้า” เจ้าตัวหันไปยิ้มประจบ

“เออ ลูกชิ้นปั้นสดน้ำจิ้มแซ่บสูตรแม่สอางค์ ข้าตั้งชื่อให้แล้ว เอ็งทำขายได้เลย” แม่ครัวใหญ่อนุมัติ

“ลูกชิ้นปั้นสดน้ำจิ้มแซ่บสูตรแม่สอางค์ โอ๊ย! ดีงาม เอื้อมขอเอาชื่อนี้ไปใช้เลยนะป้า”

ใครจะไปคิดว่าลูกชิ้นและน้ำจิ้มซีฟูดที่คิดทดลองทำเล่นๆ จะเปลี่ยนชีวิตหญิงสาวนับจากนี้เป็นต้นไป

 



Don`t copy text!