กระบือสื่อรัก บทที่ 13 : ลูกชิ้นปั้นสดน้ำจิ้มแซ่บสูตรแม่สอางค์บุกตลาดน้ำ (2)

กระบือสื่อรัก บทที่ 13 : ลูกชิ้นปั้นสดน้ำจิ้มแซ่บสูตรแม่สอางค์บุกตลาดน้ำ (2)

โดย : พรรณสิริ

Loading

กระบือสื่อรัก นวนิยายรางวัลชนะเลิศจากโครงการช่องวันอ่านเอาปีที่ 4 โดย พรรณสิริ ที่อ่านได้ในเพจอ่านเอาและ anowl.co เรื่องราวของเอื้อมดาวที่ต้องกลายมาเป็นหัวหน้าครอบครัว เธอต้องทิ้งใบปริญญามาเป็นสาวโรงงาน ต้องขายควายเพื่อใช้หนี้ แล้วบททดสอบของชีวิตก็ทำให้รู้ว่าตัวเองแกร่งกว่าที่คิดและชีวิตไม่ต้องขึ้นอยู่กับใบปริญญาเสมอไป

แผงลูกชิ้นปั้นสดไร้ผู้ช่วย รุ่งอรุณจำต้องขยับมาทำหน้าที่คนขายแทน ปล่อยให้เอื้อมดาวรับหน้าที่ปั้นลูกชิ้นและตักขึ้นจากหม้อต้มไปพร้อมๆ กัน แม้จะพยายามเร่งมือแต่ก็ไม่รวดเร็วเท่าตอนที่ช่วยกันสามคน คิวจึงเริ่มยาวขึ้นอีกครั้ง

“ถุงสุดท้ายแล้ว หมดแล้วหมดเลย” เอื้อมดาวเปิดถังน้ำแข็ง หยิบถุงพลาสติกบรรจุเนื้อหมูบดขนาดบรรจุห้ากิโลกรัมที่หมักและปรุงรสเรียบร้อยออกมา

“เออ ฉันก็จะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ขาแข็งแถมหน้าร้อนผ่าวยังกับไปอบซาวนามา กำไรไม่รู้จะพอซื้อครีมทาฝ้าหรือเปล่า” รุ่งอรุณถึงกับบ่นอุบ ปกตินั่งขายสบายๆ ท้ายรถกระบะ ไม่เคยต้องยืนนานขนาดนี้

“ถ้าพรุ่งนี้ขายดีเหมือนวันนี้ ซื้อคอร์สยิงเลเซอร์ให้เลย” เอื้อมดาวกระเซ้า

“อย่าพูดพล่อยๆ ฉันถือว่าสัญญาแล้วนะ” ลูกพี่ลูกน้องสาวหันที่คีบลูกชิ้นในมือมาทางคนพูด

แม้จะเหนื่อยและเมื่อยไปทั้งตัว แต่เห็นเนื้อหมูที่เตรียมมาเกลี้ยงถัง เอื้อมดาวก็แทบอยากจะลุกขึ้นมาเต้นระบำ

“ห้าสิบบาทหนึ่งชุด ราดน้ำจิ้มซีฟูด”

เสียงคุ้นหูดังขึ้น คนที่เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองสามารถลุกขึ้นมาเต้นระบำได้ ถึงกับห่อเหี่ยวเมื่อเห็นลูกค้าที่ยืนอยู่หน้าร้าน

โลกกลมเสียเหลือเกิน ตลาดน้ำกินอาณาเขตนับสิบไร่ มีแผงขายของนับร้อย ทำไมรุจน์และระวีวรรณถึงได้จำเพาะเจาะจงเดินมาเจอร้านขายลูกชิ้นของเธอได้

รุ่งอรุณซึ่งรู้ตื้นลึกหนาบางความสัมพันธ์ของลูกพี่ลูกน้องเป็นอย่างดีวางสีหน้าเรียบเฉยขณะตักลูกชิ้นใส่ถ้วย “ราดน้ำจิ้มไปเลยหรือแยกดีคะ”

“ราดไปเลยครับ” วิศวกรหนุ่มยื่นธนบัตรใบละห้าสิบบาทส่งให้

ช่างบังเอิญที่คิวยาวเหยียดหมดลงเพียงเท่านี้ รุจน์รับถ้วยลูกชิ้นเสร็จ ดึงมือแฟนสาวให้ออกเดินต่อ เขาไม่อยากอยู่นานให้รู้สึกแสลงใจ อันที่จริงไม่อยากเดินเข้ามาซื้อด้วยซ้ำ แต่ขัดคำสั่งระวีวรรณไม่ได้

จู่ๆ วันนี้ระวีวรรณก็อยากเดินตลาดน้ำขึ้นมาดื้อๆ และจำเพาะเจาะจงชวนมาโซนที่มีลานจัดกิจกรรมโชว์กระบือสวยงามทั้งที่ไม่เคยนิยมชมชอบมาก่อน

ล่ามสาวกัดลูกชิ้น เคี้ยวไม่กี่คำก็ผลักถ้วยกระดาษที่แฟนหนุ่มถือไว้ออกห่างตัว ทำหน้าเลี่ยนๆ “อืม…เห็นคนต่อคิวยาว คิดว่าคงอร่อยมาก ที่ไหนได้รสชาติก็งั้นๆ เหมือนที่ขายทั่วไปในตลาดนัด อาศัยทำเลดีเสียมากกว่า มิ้งไม่กินแล้วนะคะ เก็บท้องไว้กินอย่างอื่นดีกว่า” เจ้าตัวค้อนขวับใส่แม่ค้า แล้วก็เดินลอยหน้าลอยตาออกไป

รุจน์หน้าเสีย รสชาติลูกชิ้นที่อยู่ในปากไม่แย่เลยสักนิด เหนียวหนึบหนับ สัมผัสได้ถึงเนื้อหมูเต็มปากเต็มคำ ยิ่งคลุกน้ำจิ้มซีฟูดด้วยแล้ว ทำเอาหยุดกินไม่ได้ด้วยซ้ำ

“อร่อยนะ ทั้งลูกชิ้นทั้งน้ำจิ้ม เอื้อมไปรับมาจากไหน”

“ไม่ได้รับมาหรอกค่ะ น้องลองผิดลองถูกจนได้สูตรเป็นของตัวเอง ส่วนน้ำจิ้มก็สูตรของแม่รุ่ง” รุ่งอรุณตอบแทน รู้สึกสงสารน้องที่ต้องมาฟังคำวิจารณ์จากคนมีอคติ

“ทำเองได้ขนาดนี้เก่งมาก เปิดร้านขายได้เลย พี่เชียร์เต็มที่ เอื้อมคิดถูกแล้วที่ลาออกจากโรงงาน” รุจน์ยินดีกับอดีตคนรักอย่างจริงใจ ด้วยสติปัญญาและน้ำอดน้ำทน เขาเชื่อว่าเอื้อมดาวไปได้ไกลแน่นอน

“ขอบคุณค่ะพี่รุจน์” สีหน้าเจ้าตัวแช่มชื่นขึ้นเล็กน้อย

“พี่ไปก่อนนะ แล้วว่างๆ คุยกัน” วิศวกรหนุ่มโบกมือลา ก่อนรีบรุดตามแฟนสาวที่ยืนมองตาเขียวอยู่ไกลๆ

“เดินตามก้นผู้หญิงต้อยๆ หิ้วกระเป๋าให้อีกต่างหาก นี่มันแฟนหรือแม่กันแน่ แล้วยายนั่นผีเจาะปากมาเกิดใช่ไหม ถึงได้ติว่าลูกชิ้นของเราไม่อร่อย”

“ช่างเขาเถอะ ลิ้นคนเราไม่เหมือนกัน เราว่าอร่อยแต่เขาอาจจะไม่อร่อยก็ได้” เอื้อมดาวมองตามหลังชายหนุ่มหญิงสาวที่เคียงกันออกไป ฝ่ายหญิงยังมีท่าทีกระเง้ากระงอด ในขณะที่ฝ่ายชายก็พยายามง้องอน

ตลอดช่วงเวลาที่เธอคบหากับรุจน์ ไม่เคยมีภาพแบบนี้ มีแต่ถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน ไม่ว่าเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนเธอก็ไม่เคยงอน จะพยายามเข้าอกเข้าใจเขาเสมอ

น่าเสียดายที่คุณสมบัติเหล่านี้กลับถูกมองข้ามไป

“คนมันอคติ เห็นพี่รุจน์ยังมีใจให้เอื้อมอยู่ละสิถึงทนไม่ได้ขึ้นมา ตลาดน้ำมีตั้งหลายที่ บังเอิญเกินไปไหมถึงได้มาเจอกันที่นี่” รุ่งอรุณขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแทนลูกพี่ลูกน้อง

บทสนทนาถึงบุคคลที่สามหยุดชะงักลง เมื่อลูกค้าเข้ามาสั่งลูกชิ้น เอื้อมดาวก้มหน้าก้มตาโยนก้อนหมูบดปั้นทรงกลมลงหม้อลวก เธอไม่ได้คิดถึงรุจน์พักใหญ่แล้ว เพราะมัวแต่วุ่นวายกับการทำมาหากิน ถ้าเขาไม่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า ก็คงไม่รู้ว่าหัวใจยังแปลบปลาบอยู่ เคราะห์ดีที่การเลิกราในครั้งนี้ไม่ถึงขั้นทำให้ชีวิตเป๋เหมือนคนอกหักทั่วไป

ในเมื่อต่างฝ่ายต่างต้องดิ้นรนเพื่อครอบครัว คงดีแล้วที่จะยุติความสัมพันธ์ลง ไม่ปล่อยให้งอกงามแล้วมาสร้างแผลใจให้กันในวันหลัง

 

ฟ้ายังไม่ทันมืด แผงขายลูกชิ้นปั้นสดก็ขึ้นป้ายประกาศ ‘หมด’ แม่ค้าสองสาวทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้พลาสติกอย่างหมดเรี่ยวแรง

รุ่งอรุณเปิดกระติกน้ำแข็ง หยิบขวดเครื่องดื่มบำรุงกำลังออกมาเปิด “วันนี้เตรียมลูกชิ้นมากี่กิโล ทำไมขายหมดไวจัง”

“สามสิบกิโล ยังกลัวว่าจะเหลือด้วยซ้ำ” เอื้อมดาวนั่งทุบขาตัวเองป้อยๆ อย่างเมื่อยขบ

“เหลือพรุ่งนี้อีกวัน เตรียมมาห้าสิบกิโลเลย พี่ว่าขายหมด”

“เอาอย่างนั้นเลยเหรอ ถ้าขายไม่หมดขึ้นมาจะเสียของเอานะ แล้วอีกอย่างวันมะรืนจะมีของไม่พอไปขายที่โรงเรียนด้วย” เอื้อมดาวยังลังเล

คำพูดของระวีวรรณยังวนเวียนอยู่ในหัว ลูกชิ้นของเธอขายดีเพราะทำเลดี ไม่ใช่เพราะอร่อย

“บอกแล้วไง อย่าไปฟังยายล่ามนั่น มั่นใจหน่อยสิว่าลูกชิ้นของเราอร่อย” รุ่งอรุณตบไหล่ลูกพี่ลูกน้อง “เดี๋ยวขากลับแวะซื้อสันคอหมูเพิ่มได้ ขายดีขนาดนี้อย่าให้เสียโอกาส ไหนๆ ก็เสียค่าเช่าแล้ว”

“ตลาดน้ำคนเยอะดีนะ เราลองเช่าพื้นที่รายเดือนเลยดีไหม ถ้าทำเลไม่แย่จนเกินไป ฉันอยากจะลองดู”

ตอนนี้นอกจากขายประจำที่โรงเรียนในวันธรรมดาและเปิดท้ายรถกระบะที่ตลาดนิคมอุตสาหกรรมทุกเย็นวันศุกร์ เอื้อมดาวไม่หยุดที่จะมองหาที่ขายเพิ่ม

“ทำไมล่ะ ที่โรงเรียนมีปัญหาอะไรหรือเปล่า เห็นแม่บอกขายดีออก ตั้งแต่เปลี่ยนมาขายลูกชิ้นปั้นสดอย่างเดียว” รุ่งอรุณหยั่งเชิง

ช่วงแรกๆ เอื้อมดาวขายลูกชิ้นหมูปั้นสดร่วมกับไส้กรอกและลูกชิ้นเสียบไม้หลายๆ อย่าง รวมทั้งแซนด์วิชด้วย แต่ลูกชิ้นหมูกลับขายดีแซงหน้าอย่างอื่น ผนวกกับขายคนเดียว ไม่มีลูกจ้าง หญิงสาวจึงตัดปัญหาด้วยการขายแค่ลูกชิ้นหมูปั้นสดกับแซนด์วิชที่มารดาทำสำเร็จแล้วเท่านั้น

“ขายดีก็จริง แต่ฉันถูกร้านขายยำบ่นว่ายำลูกชิ้นของเขาขายไม่ออก แอบตงิดๆ อยู่ว่าเขาจะไปฟ้องผู้อำนวยการ เพราะโรงเรียนไม่ให้ขายของซ้ำกัน”

“เฮ้อ เรื่องปวดหัวของแม่ค้าทุกที่ ขายของซ้ำกัน” รุ่งอรุณส่ายหัว

เธอเองก็เจอปัญหานี้เช่นกัน ตลาดเปิดท้ายบางแห่งไม่เข้มงวดหรือมีร้านจำนวนมาก ถ้าอยู่คนละมุมตลาดก็ยังพอทำเป็นมองไม่เห็นได้ แต่บางครั้งแผงอยู่ใกล้กันแค่ปลายจมูก จึงกระทบกระทั่งเพราะแย่งลูกค้ากัน

“อีกอย่างฉันไม่กล้าขายแพง ห่วงเด็กๆ จะซื้อกินไม่ไหว แต่ถ้วยละยี่สิบหรือสามสิบบาท ลูกชิ้นไม่ผสมแป้งมันได้น้อย กินไม่อิ่ม ฉันอยากขายคนมีกำลังซื้อ ถ้าได้ถ้วยละสี่สิบหรือห้าสิบบาทเหมือนที่นี่ ก็พอจะเห็นกำไรบ้าง” เอื้อมดาวคำนวณต้นทุนมาแล้วเป็นอย่างดี

“มันก็จริง แต่ตลาดเปิดเสาร์อาทิตย์ เอื้อมต้องจ้างคนขาย มีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก ขืนขายเองไม่ต้องเรียนหนังสือกันพอดี”

“ฉันจะลองขายเองดูก่อน ถ้าลูกค้าเยอะจริงๆ ขายไม่ทันเหมือนวันนี้ ค่อยจ้างเด็กเพิ่มอีกคน ส่วนเรื่องเรียนค่อยว่ากันทีหลัง”

แม้จะผิดจากแผนที่วางไว้ เธอออกจากโรงงานมาเพราะจะได้แบ่งเวลาไปเรียนหนังสือช่วงสุดสัปดาห์ได้เต็มที่ เอาเข้าจริงๆ พอช่องทางทำมาหากินมารออยู่ตรงหน้า เรื่องเรียนก็เริ่มเลือนหายไปจากสมอง

การได้มาทดลองขายที่ตลาดน้ำ ทำให้ความหวังคุโชนขึ้นในใจ รู้สึกว่าเดินมาถูกทางแล้ว ลูกชิ้นปั้นสดราดน้ำจิ้มซีฟูดที่ปลุกปั้นมากับมือ อร่อยเกินกว่าที่จะอยู่ในโรงอาหาร แต่จะต้องเป็นที่รู้จักในวงกว้างให้ได้

เอื้อมดาวตัดสินใจแล้วว่าไม่อาจขายลูกชิ้นไปด้วยเรียนไปด้วยได้ ต้องทุ่มเทให้กับกิจการก่อน

เธอต้องการเงินมาซื้อควายคืนให้น้องชาย ยิ่งเร็วเท่าไรได้ยิ่งดี

 



Don`t copy text!