ฤทัยยักษ์ บทที่ 17.1 : บุคคลปริศนาในคืนพระจันทร์เต็มดวง

ฤทัยยักษ์ บทที่ 17.1 : บุคคลปริศนาในคืนพระจันทร์เต็มดวง

โดย : เวฬุวลี

Loading

ฤทัยยักษ์ โดย เวฬุวลี นวนิยายที่อ่านเอานำมาให้อ่านออนไลน์ที่ anowl.co กับเรื่องราวของ ‘ฤทัยมาศ’ ตำรวจสาวที่ต้องเข้าไปสืบคดีที่เชื่อมโยงกับอดีตของเธอที่มีร่วมกับยักษ์หนุ่มจากวัดโพธิ์นามว่า ‘แสงอาทิตย์’ และยังไปเกี่ยวพันกับเบื้องลึกเบื้องหลังของศึกยักษ์วัดโพธิ์กับยักษ์วัดแจ้งที่เล่าขานกันมาเนิ่นนาน

ฤทัยมาศเดินออกมาจากบ้านของศศิน แสงอาทิตย์ที่ซุ่มรอเธออยู่เข้าไปถามทันที

“เป็นยังไงบ้าง เขาทำอะไรคุณหรือเปล่า”

ตำรวจสาวส่ายหน้า ก่อนเล่าให้เขาฟังว่าเธอได้พูดอะไรกับศศินบ้าง

นายแพทย์หนุ่มวางรูปลงบนโต๊ะทันที ‘พี่ยืนยันได้ว่าพี่ไม่รู้จักที่นี่จริงๆ’

ฤทัยมาศไม่คาดคั้นเขา ตำรวจสาวเพียงแต่พูดต่ออย่างนิ่งๆ ‘ถ้าพี่ต้นไม่รู้จักก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงพี่ต้นต้องตอบคำถามของตำรวจให้ได้ว่าทำไมชื่อของพี่ต้นถึงไปปรากฏอยู่เป็นผู้ถือหุ้น’

‘ตำรวจงั้นเหรอ’

‘ค่ะ ตำรวจรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว และกำลังจะนำกำลังเข้าไปในโรงงานคืนพรุ่งนี้’ ฤทัยมาศย้ำ ยิ่งทำให้ศศินหน้าซีดเผือดลง

‘ฤทัยมาส่งข่าวให้พี่รู้ก่อน ฤทัยช่วยพี่ได้แค่นี้นะคะ’

หญิงสาวบอกกับชายหนุ่ม ก่อนจะบอกลาและออกมาจากบ้านหลังนั้นทันที

แท้ที่จริงแล้วการมาของฤทัยมาศครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนที่ฤทัยมาศได้บอกกับแสงอาทิตย์ไว้ตั้งแต่ก่อนมา

“คุณแน่ใจเหรอว่ายักษ์ที่ปลอมตัวมาคือคนคนนั้น”

แสงอาทิตย์ถามย้ำกับฤทัยมาศ ตำรวจสาวพยักหน้าอย่างมั่นใจ

“ใช่แน่ๆ คุณดูนี่สิคะ…” ตำรวจสาวยื่นหลักฐานที่เธอเพิ่งถ่ายมาจากบ้านของศศินให้แสงอาทิตย์ดู

พญายักษ์ยอมรับในทันทีหลังจากเห็นหลักฐานชิ้นนั้น

“คราวนี้เราต้องใช้กลศึกแล้วละค่ะ แบบเดียวกับที่ฝั่งของพระรามใช้ในศึกรามเกียรติ์ ฉันขอตั้งชื่อแผนนี้ว่า…แผนล่อยักษ์ออกจากถ้ำ”

ตำรวจสาวยิ้ม คาดหมายว่าแผนของหล่อนจะช่วยจับผู้ที่ปลอมตัวมาปั่นหัวยักษ์ทุกตนได้ในที่สุด

 

ค่ำคืนวันต่อมา ฤทัยมาศและบรรดายักษ์กลับไปที่โกดังของ บริษัท เจพีอาร์ เทรดดิ้ง อีกครั้ง ทั้งคนและยักษ์ต่างกำลังเฝ้ารอให้ใครบางคนให้ปรากฏตัวออกมา

ถ้าเป็นไปตามแผนที่ตำรวจสาววางไว้ละก็ คนคนนั้นจะต้องมาที่นี่ในคืนนี้แน่ๆ คืนที่พระจันทร์เต็มดวงส่องสว่างให้เห็นทั่วทั้งบริเวณ

เสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาอย่างแผ่วเบา ผู้ที่ก้าวมาใหม่เหมือนกำลังสำรวจตรวจตราอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ไฟในลานกว้างหน้าบริษัทสว่างขึ้น ร่างนั้นชะงักก่อนหันไปตามแสงไฟ

ตำรวจสาวอย่างฤทัยมาศเดินออกมา มั่นใจว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับคนร้ายตัวจริง

“เป็นคุณเองสินะ…ฆาตกรที่เอาแว่นแก้วสุรกานต์ออกไปฆ่าคน”

ร่างนั้นยังคงนิ่งเงียบ ไม่ตอบรับ และก็ไม่ปฏิเสธ

แสงอาทิตย์ก้าวเท้าเดินออกมาเป็นผู้แรก จากนั้น ทศกัณฐ์ และญาติยักษ์ตนอื่นๆ จึงตามมา

ร่างนั้นมองไปยังแสงอาทิตย์ ยิ้มเยาะก่อนเอ่ยคำพูด “ไม่ได้เจอกันนานนะ พญาแสงอาทิตย์”

แสงอาทิตย์ชะงัก มองไปยังร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้า ยังคงนึกไม่ออกว่าเขาเคยพบคนผู้นี้หรือยักษ์ตนนี้เมื่อไหร่

ร่างนั้นหันไปหาฤทัยมาศอย่างข้องใจ “เธอรู้ได้ยังไงว่าเป็นฉัน…”

“ตอนแรกที่ฉันเห็นรายชื่อเจ้าของบริษัทนี้ ฉันก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะเป็นคุณ…”

ฤทัยมาศนึกย้อนไปถึงเมื่อวันที่เธอเห็นว่าชื่อหุ้นส่วนใหญ่ของ บริษัท เจพีอาร์ เทรดดิ้ง คือ ชื่อของศศิน อดีตคนรักของเธอ ทั้งฤทัยมาศและลินินต่างไม่อยากเชื่อว่านายแพทย์หนุ่มอนาคตไกลอย่างศศินจะพัวพันกับคดีฆาตกรรมได้

“ชื่อเจ้าของบริษัทคือชื่อของพี่ต้น แต่ฉันคิดว่าพี่ต้นไม่น่าจะเป็นคนร้ายแน่ๆ ฉันเลยคิดไปถึงคนที่ใกล้ชิดพี่ต้น คนที่อาจจะเอาชื่อของเขา…มาเป็นเจ้าของบริษัทแต่ในนามได้”

ฤทัยมาศนึกถึงคนที่ศศินทั้งรักทั้งกลัว คนที่มีอำนาจที่จะสั่งเขาได้ แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจ “จากนั้น…ฉันก็ไปค้นต่อถึงประวัติของบริษัทนี้ ไม่น่าเชื่อว่าที่นี่มีประวัติย้อนไปได้เป็นร้อยปี”

ร่างที่อยู่ตรงหน้าเธอชะงัก ไม่คาดคิดว่าฤทัยมาศจะสามารถสืบสวนจนรู้ความจริงทั้งหมดได้

“บริษัทนี้…เคยอยู่ในชื่อจิตรการค้า เปิดขึ้นมาในสมัยรัชกาลที่สี่ เจ้าของคนแรกเป็นผู้หญิง…เป็นลูกสาวตระกูลพ่อค้า ที่ทั้งครอบครัวตายไปหมดขณะที่เกิดไฟไหม้ที่ท่าเตียน”

ชื่อจิตรการค้านั่นแหละที่ทำให้ฤทัยมาศเอะใจ หญิงสาวรู้สึกว่าคุ้นกับชื่อนี้มาก่อน หลังจากพยายามคิดอยู่นาน ตำรวจสาวก็จำได้ว่าหล่อนเคยเห็นชื่อนี้ที่ไหน

รูปถ่ายของต้นตระกูลของครอบครัวในบ้านศศิน ฤทัยมาศจำได้รางๆ ว่าในรูปถ่ายของหญิงสาวที่สวยสง่านั้น มีป้ายชื่อของจิตรการค้าอยู่ด้านหลัง

วันที่เธอไปหาศศิน จุดประสงค์แรกของเธอก็คือต้องการไปบอกข่าวกับศศินว่าเธอสืบรู้ความจริงเรื่อง เจพีอาร์ เทรดดิ้ง ส่วนจุดประสงค์ที่สองก็คือ เพื่อไปถ่ายรูปหญิงสาวที่ศศินบอกว่าเป็นต้นตระกูลของครอบครัวที่อุปการะเขาเป็นลูกบุญธรรม

“รูปที่ฉันเจอในบ้านของพี่ต้น…น่าจะเป็นเจ้าของคนแรกของจิตรการค้า ซึ่งหน้าเหมือนคุณยังกับแกะ มองเผินๆ อาจจะพูดได้ว่าเป็นคนคนเดียวกันด้วยซ้ำ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะคะ เพราะถ้าเธอมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้…เธอก็ต้องอายุมากกว่าร้อยปีแล้ว”

ตำรวจสาวชูรูปภาพในโทรศัพท์มือถือของเธอที่เธอใช้เป็นหลักฐาน “ทั้งหมดที่ฉันเจอ…ทำให้ฉันคิดได้ว่า หากจะมียักษ์ตัวใดตัวหนึ่งที่จะมาใช้ชีวิตปะปนกับมนุษย์ได้ ก็คงไม่มีวิธีไหนที่จะดีไปกว่าการปลอมตัวเป็นลูกสาวในครอบครัวที่ทั้งบ้านตายเพราะไฟไหม้หมดหรอกใช่มั้ยคะ…จากนั้นยักษ์ตัวนี้ก็สืบต่อกิจการมาเรื่อยๆ สร้างความร่ำรวยให้ตัวเองจนถึงปัจจุบัน แต่เพราะเธออาจจะต้องเปลี่ยนตัวตนของตนเอง ทุกๆ เจ็ดสิบหรือแปดสิบปี เพื่อไม่ให้คนสงสัยว่าทำไมเธอถึงได้มีอายุยืนยาวมากกว่าคนทั่วไป…ดังนั้น เธอก็เลยต้องอุปการะเด็กสักคน เพื่อเป็นลูกบุญธรรม มาช่วยทำธุรกรรมต่างๆ แทนเธอ”

ฤทัยมาศสบตากับคนผู้นั้นก่อนถามตรงๆ “เรื่องที่ฉันพูดนี่ ถูกต้องทั้งหมดใช่มั้ยคะคุณมธุริน”

มารดาของศศิน ผู้หญิงที่สวยสง่าในสายตาของฤทัยมาศเสมอ ในคืนนี้หล่อนก็ยังคงความงาม แต่เป็นความงามที่น่าสะพรึง มธุรินเหยียดยิ้มก่อนกล่าวชมหล่อน

“เก่งนี่ สืบเรื่องทั้งหมดได้ในไม่กี่วัน…เธอคิดได้ก่อนที่พวกยักษ์หน้าโง่พวกนี้จะคิดออกเสียอีก”

แสงอาทิตย์มองหญิงผู้นี้ จริงอย่างที่นางว่า…เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผู้ที่สร้างเรื่องวุ่นวายทั้งหมดนี้คือสตรี

สีหน้างงงันของเขาทำให้สตรีผู้นั้นหัวเราะ “จำข้าไม่ได้สินะ…ไม่แปลกหรอก พวกยักษ์ครองเมืองแบบพวกเจ้า คงไม่เคยคิดที่จะนึกถึงยักษ์ที่ไร้ยศไร้ศักดิ์อย่างข้า”

สตรีผู้นั้นกวาดตาไปมองยักษ์ทุกตนที่ยืนอยู่ในที่นั้น แสงอาทิตย์ ทศกัณฐ์ สหัสเดชะ มัยราพณ์ ขร สัทธาสูร และมีฤทัยมาศ เป็นมนุษย์เพียงคนเดียว “พ่อของข้า เคยร่วมรบในศึกระหว่างพญาขรกับพระราม จนตัวตาย พี่ชายทั้งสองของข้าก็ไปร่วมรบในศึกระหว่างสหัสเดชะกับพระราม จนต้องตายตกไปตามกัน”

สายตาของสตรีผู้นั้น ซึ่งบัดนี้ทุกคนรู้แล้วว่านางเป็นนางยักษ์ตนหนึ่งมาหยุดที่ทศกัณฐ์ด้วยแววตาแค้นเคือง

“ครอบครัวข้าทั้งโคตรรับใช้พวกเจ้า ไปร่วมรบจนตัวตายในสงครามที่ไร้ความหมาย สงครามที่เกิดขึ้นจากตัณหาหน้ามืดของยักษ์เพียงตนเดียว…ที่พร่าผลาญชีวิตยักษ์นับแสนนับล้านตน”

ยักษ์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างทศกัณฐ์นิ่งอึ้ง เวลาหลายพันปีที่ผ่านมา ทำให้เขายอมรับความผิดนั้นโดยดุษณี “ถ้าเจ้าแค้นข้า เจ้าก็ควรมาลงกับข้า เหตุใดเจ้าจึงตามล้างผลาญแสงอาทิตย์”

“ก็เพราะแสงอาทิตย์พรากครอบครัวที่เหลืออยู่ของข้าไป…ผัวของข้า ทั้งที่ข้าพยายามขอร้องอ้อนวอนไม่ให้แสงอาทิตย์ส่งเขาออกไปรบ แต่เจ้าก็ยังส่งเขาไปตาย!”

แสงอาทิตย์ชะงัก เขาเริ่มจำได้รางๆ แล้วว่านางยักษ์ตนนี้คือใคร

“เจ้า…นี่เจ้าคือเมียของจิตรไพรี…”

นางยักษ์ตนนั้นหัวเราะอย่างสะใจที่ในที่สุดเขาก็จำหล่อนได้ “จำข้าได้แล้วงั้นหรือ…”

มธุรินจ้องมองยักษ์ทุกตนราวกับต้องการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวหล่อนเอง

“เจ้าคงเกลียดที่ตัวเองต้องเป็นตัวร้ายในรามเกียรติ์เสมอ…แต่พญายักษ์อย่างพวกเจ้า ยังมีคนเคารพยกย่อง ยังได้เป็นรูปปั้นในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ แต่ข้า…นางยักษ์ เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้องกับข้าล้วนมีแต่ความรังเกียจเดียดฉันท์ นางยักษ์ที่อยู่ในวรรณคดีล้วนหลงหน้ามืดตามัวกับชายที่ไม่รักตนเอง และอกแตกตายเมื่อรักนั้นถูกทศยศ”

นางยักษ์เสียงสั่นเครือเมื่อกล่าวถึงเรื่องราวที่สะเทือนใจตน “แต่เรื่องราวที่แท้จริงของข้าไม่ใช่แบบนั้น… ข้ามีชายที่รักข้า และข้าก็รักเขามาก…มากเสียยิ่งกว่าชีวิต…”



Don`t copy text!