ฤทัยยักษ์ บทที่ 24.1 : พ่อยักษ์และแม่ยักษ์

ฤทัยยักษ์ บทที่ 24.1 : พ่อยักษ์และแม่ยักษ์

โดย : เวฬุวลี

Loading

ฤทัยยักษ์ โดย เวฬุวลี นวนิยายที่อ่านเอานำมาให้อ่านออนไลน์ที่ anowl.co กับเรื่องราวของ ‘ฤทัยมาศ’ ตำรวจสาวที่ต้องเข้าไปสืบคดีที่เชื่อมโยงกับอดีตของเธอที่มีร่วมกับยักษ์หนุ่มจากวัดโพธิ์นามว่า ‘แสงอาทิตย์’ และยังไปเกี่ยวพันกับเบื้องลึกเบื้องหลังของศึกยักษ์วัดโพธิ์กับยักษ์วัดแจ้งที่เล่าขานกันมาเนิ่นนาน

มธุรินเอื้อมมือดึงจี้รูปหัวใจที่เป็นกล่องดวงใจของแสงอาทิตย์ เตรียมจะขยี้ให้แหลกคามือ

แต่แล้วทันใดนั้น บรรดายักษ์ที่มธุรินคิดว่าโดนเพลิงเผาไหม้ตายไปแล้วก็เหาะเข้ามา ทั้งมัยราพณ์ ขร และสัทธาสูร

นางยักษ์คงไม่คาดคิดว่าในขณะที่เพลิงเผาผลาญรถที่ยักษ์ทุกตนนั่งอยู่นั้น ก็ปรากฏร่างร่างหนึ่งที่ขึ้นมาจากคลองใต้สะพานนั้น ร่างนั้นใช้อิทธิฤทธิ์นำน้ำจากคลองมาราดรดไปที่รถจนไฟดับลงในที่สุด

ร่างเดียวกันนั้นเข้าไปประคองมัยราพณ์ให้ออกมาจากซากรถคันนั้น มัยราพณ์ลืมตามอง เห็นร่างที่เป็นลิงตัวเล็กจ้อยกายสีขาวที่มีหางเป็นปลา เขารู้ได้ทันทีว่าลิงตัวนี้ก็คือลิงน้อยที่เขาคอยอุ้มชูมาในครั้งหนึ่ง

‘มัจฉานุ (1) 

‘พ่อ’

‘เจ้าเองสินะ…เป็นลิงที่แอบมาดูข้าบ่อยๆ’

‘ข้าอยากมาแทนคุณ ชดเชยกับที่ข้าเคยทำให้พ่อต้องตายเมื่อคราวนั้น’

ลิงน้อยที่มีหางเป็นปลานั้นน้ำตาซึมออกมาเมื่อเห็นว่ามัยราพณ์ยังมีชีวิตอยู่ ถึงเขาจะเป็นลิงที่มีพ่อเป็นทหารเอกพระรามอย่างหนุมาน แต่ยักษ์อย่างมัยราพณ์คือผู้ที่อุ้มชูเขาจนเติบใหญ่ มัจฉานุเลยมาแอบมาตามและคอยช่วยเหลือเมื่อเห็นว่าพ่อบุญธรรมกำลังจะมีภัย

ด้วยเหตุนี้พวกยักษ์จึงรอดออกมาได้ และย้อนกลับมาเพื่อช่วยแสงอาทิตย์ พญายักษ์สามตนไม่รอช้า เข้าไปโจมตีมธุริน มัยราพณ์ใช้กล้องเป่ายาสะกดให้มธุรินมึนงง สัทธาสูรใช้มนตร์ร่ายเวทเรียกอาวุธเพื่อเรียกกล่องดวงใจของแสงอาทิตย์ให้กลับคืนมาอยู่ในมือของตน ขณะที่พญายักษ์อย่างขรง้างศรจักรพาลพังเล็งไปที่นางยักษ์มธุรินก่อนยิงลูกศรตรงไปหาหล่อน

ศรนั้นคงปักที่หัวใจของนางยักษ์อย่างเม่นยำ หากไม่มีร่างอีกร่างที่เข้าไปขวางทางของลูกศรเสียก่อน

ลูกศรของยักษ์เสียบอยู่คาอกของศศินที่เอาร่างของตนกันแม่ยักษ์ของเขาไว้ มธุรินตะลึงงัน ขณะที่ศศินค่อยๆ ล้มลง

“ต้น! ไม่นะ…ไม่นะลูก!”

มธุรินเข้าไปประคองลูกชายนอกไส้ไว้ในอ้อมแขน ศศินบาดเจ็บหนัก เลือดแดงฉานที่ไหลออกมาบ่งบอกว่าอาการเข้าขั้นสาหัส

“คุณแม่…ผม…ผมขอโทษ”

นายแพทย์หนุ่มกระซิบบอกกับแม่ของเขา แม่ที่ถึงเป็นนางยักษ์ แต่ก็เป็นแม่เพียงคนเดียวที่เขามี

“ผมช่วยคุณแม่แก้แค้นไม่สำเร็จ ผมขอโทษด้วย”

มธุรินน้ำตาไหลออกมา ในชีวิตนี้ ศศินเพิ่งได้เห็นน้ำตาของแม่เป็นครั้งที่สอง ส่วนครั้งแรกคือตอนที่เขายังอยู่มัธยม หลังจากเขายืนนิ่งตะลึงมองเห็นแม่ที่กำลังขย้ำร่างของแม่บ้านสาว

ในอดีตนั้น มธุรินชะงัก หันมามองเห็นเขาในที่สุด นางยักษ์ตกใจที่ลูกชายที่รับอุปการะมา เห็นร่างที่แท้จริงของตนเอง หล่อนพยายามเช็ดคราบเลือดที่อยู่ตามตัว ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เด็กหนุ่ม

ศศินในวัยนั้นตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัว เขาผลักให้แม่ยักษ์ล้มลงก่อนจะวิ่งหนีไป

‘ไม่นะ…ต้น! อย่าทิ้งแม่นะลูก!’

เขายังจำได้ดีถึงเสียงตะโกนลั่นที่แสดงความเจ็บปวดไปถึงส่วนลึกของใจ แต่ศศินก็ยังไม่เหลียวมองกลับมา

เขาหนีออกไปอยู่นอกบ้าน นอนตามถนนอยู่หลายวันจนหิวโหย และที่มากกว่าความหิวโหยก็คือความคิดถึง เขาคิดถึงแม่ที่มีรอยยิ้มที่อบอุ่น ไม่ใช่แม่ที่มีเขี้ยวงอก ดุร้าย และฆ่าคน

แต่แม่ทั้งสองคนนั้น…ก็คือคนเดียวกัน เป็นแม่ของเขาเหมือนกัน

ศศินตัดสินใจจะกลับบ้านในที่สุด เขาจำได้ว่าทันทีที่แม่เห็นเขากลับมา มธุรินก็วิ่งมาหาเขาในทันทีทันใด เด็กหนุ่มยังสั่นกลัวแม่จะเข้ามาขย้ำเขาเป็นอาหาร แต่มธุรินกลับเข้ามาดึงเขาเข้ามาในอ้อมกอดและร้องไห้

นั่นคือครั้งแรกที่ศศินเห็นน้ำตาของแม่ และเป็นครั้งแรกเหมือนกันที่เขาตัดสินใจว่าเขาจะไม่จากไปไหน ถึงแม้แม่เขาจะโหดร้ายปานใด

“อย่าทิ้งแม่…อย่าทิ้งแม่ไป อยู่กับแม่ก่อนนะลูก” มธุรินพร่ำปากลูกชายที่กำลังหายใจรวยริน

ศศินยิ้มมุมปากน้อยๆ ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายของเขาจะขาดห้วงลงในที่สุด

“ไม่!”

มธุรินกรีดร้องและร่ำไห้ เสียงคร่ำครวญของนางยักษ์สะท้อนสะท้านเข้าไปในใจของฤทัยมาศและยักษ์ทุกตนที่ยืนอยู่ นางยักษ์ไม่ได้อกแตกตายเหมือนในวรรณคดี แต่จากเสียงที่ฤทัยมาศได้ยิน หล่อนแน่ใจว่าใจของผู้เป็นแม่กำลังแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ

ฤทัยมาศรีบเข้าไปดูอาการของอดีตคนรัก ถึงแม้เมื่อกี้เขาจะร้ายกาจจนถึงขนาดจับหล่อนเป็นตัวประกัน แต่หญิงสาวก็ยังแน่ใจว่าเนื้อแท้ของชายหนุ่มไม่ใช่คนเลว หรือต่อให้เขาเป็นคนเลว หล่อนก็จะช่วยเขาอยู่ดี

หญิงสาวเดินเข้าไปที่ห้องยาที่ศศินเคยใช้งาน และหยิบยาและเครื่องมือแพทย์สารพัดอย่างที่คิดว่าจะช่วยเขาได้ แต่เมื่อทดลองเข้าไปจับชีพจรของเขา แต่กลับพบว่าทุกอย่างนิ่งสนิท หล่อนรู้สึกหมดหวัง จนกระทั่งยักษ์หนุ่มนักปรุงยาเอ่ยขึ้น “ขอข้าดูหน่อย”

มัยราพณ์เข้าไปสัมผัสชีพจรของชายหนุ่ม เขาสัมผัสได้ถึงสัญญาณชีพที่แผ่วเบา ยักษ์จากวังบาดาลช่วยดึงศรจักรพาลพังออกมาจากร่างของศศิน ก่อนที่ยักษ์จากวังบาดาลจะเสกกระทะขึ้นมาปรุงว่านยาอีกครั้ง ทุกคนต่างฝากความหวังไว้ที่เขา ขณะที่เขานำยาที่ได้จากการปลุกเสกทาให้ศศินเพื่อห้ามเลือด

เพียงไม่กี่วินาทีชีพจรของนายแพทย์หนุ่มก็เริ่มเป็นปกติอีกครั้ง และลืมตาขึ้นในที่สุด มธุรินร่ำไห้กอดลูกไว้แน่น ขณะที่ทุกคนและทุกตนกำลังดีใจอยู่นั่น ยักษ์อย่างมัยราพณ์ก็พึมพำด้วยความความภูมิใจ

“ยาของมนุษย์ จะสู้อะไรกับยาของยักษ์ได้กันเล่า!”

 

เชิงอรรถ : 

(1) มัจฉานุเป็นลูกของหนุมานที่เกิดกับนางสุพรรณมัจฉา แต่นางสุพรรณมัจฉาที่เป็นครึ่งยักษ์ครึ่งปลาและเป็นลูกของทศกัณฐ์ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่ามีลูกกับศัตรู จึงสำรอกมัจฉานุไว้ที่ชายหาด เมื่อมัยราพณ์มาพบเข้า ก็เกิดความเอ็นดูจนนำมัจฉานุมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม แต่เมื่อมัยราพณ์ไปจับตัวพระรามมาที่วังบาดาล หนุมานก็มาบุกมาจนเจอกับมัจฉานุที่สระบัว มัจฉานุที่รู้ว่าหนุมานเป็นพ่อที่แท้จริง ก็จำใจต้องบอกใบ้ทางไปวังบาดาลแก่หนุมาน และภายหลังหนุมานก็ฆ่ามัยราพณ์ได้สำเร็จ



Don`t copy text!