10 วรรณกรรมเยาวชนสัญชาติไทยอ่านได้ทุก พ.ศ.

เรื่องราวรอบตัวน่ารู้น่าอ่านกับหลากหลายสิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ในคอลัมน์ Lifestyle โดย Hoot-Hoot ที่อ่านออนไลน์แล้วรับรองมีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตอย่างแน่นอน เพราะเรื่องราวดีๆ ที่รายล้อมรอบตัว #มีให้อ่านที่อ่านเอา

…………………………………………..

คนไทยเขียนหนังสือเก่งไม่แพ้คนชาติใดในโลก!! โดยเฉพาะ 10 วรรณกรรมเยาวชนต่อไปนี้ที่ Hoot-Hoot นำมาฝากมาจากปลายปากกาผสานจินตนาการของเราชาวไทยทั้งนั้น และมากกว่านั้นคือ ทั้ง 10 เรื่องไม่เพียงให้ความสนุกสนาน เพลิดเพลิน เสริมสร้างจินตนาการกับคนอ่าน ยังถือเป็นการวางรากฐานสำคัญให้กับเด็กๆ ที่จะเติบโตมาเป็นอนาคตของชาติด้วย

1. แก้วจอมแก่น โดย แว่นแก้ว

แก้วจอมแก่น พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงถ่ายทอดเรื่องราวจากประสบการณ์ของพระองค์ขณะที่ยังทรงพระเยาว์ ประกอบกับจินตนาการของพระองค์เอง จนกลายมาเป็นเรื่องราวของ ‘แก้ว’ เด็กหญิงวัย 9 ขวบ กับครอบครัวแสนอบอุ่น และด้วยบุคลิกของความเป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส มีความมั่นใจในตัวเอง จึงถูกมองว่าเป็นเด็กแก่นและแสนซนในสายตาของผู้ใหญ่ แถมยังมักสร้างวีรกรรมมากมายที่เรียกได้ทั้งรอยยิ้มและเสียงดุ แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่จะมีใครโกรธแก้วได้ลงซักที

แก้วจอมแก่น ไม่ได้มีเพียงความสนุกและลงตัว แต่ยังสอดแทรกเรื่องราวของวัฒนธรรมที่ดีงามของชาวไทย พร้อมสะท้อนแง่มุมอันงดงามของมิตรภาพและความรักในครอบครัวได้เป็นอย่างดี

2. เรื่องของม่าเหมี่ยว โดย สุมาลี

ทั้งๆ ที่ ‘ม่าเหมี่ยว’ ไม่คิดว่าชีวิตเด็กนักเรียนชั้นประถมอย่างเธอจะต่างไปจากเด็กคนอื่น แต่กลายเป็นว่าชีวิตประจำวันของเธอทั้งที่โรงเรียนและที่บ้านถึงได้มีเหตุการณ์แปลกๆ ให้วุ่นวายเสมอ นั่นเพราะความแก่นแก้ว น่ารัก และไร้เดียงสาของเธอ ทำให้วันที่ดูเหมือนจะธรรมดากลับไม่ธรรมดาเสียทีเดียว และเธอต้องคิดหาทางแก้ไขเรื่องยุ่งด้วยสารพัดวิธีที่ทั้งน่ารักและชวนขันอยู่เรื่อยๆ

3. โลกของหนูแหวน โดย ศราวก

หนังสือนวนิยายรวมเรื่องสั้นเกี่ยวกับความคิดและจินตนาการของเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ที่นำเสนอเป็นประเด็นๆ มากกว่าจะเป็นนวนิยายที่มีเค้าโครงเรื่องแบบมีตัวละคร มีเหตุการณ์เชื่อมโยงกันเป็นเรื่องเป็นราว

4. ความสุขของกะทิ โดย งามพรรณ เวชชาชีวะ

‘กะทิ’ เด็กหญิงที่มีชีวิตเรียบง่ายในสังคมชนบท เธอเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรักของตายาย พี่ทอง น้าฎา และน้ากันต์ แต่แม้จะอบอุ่นและมีเสียงหัวเราะจากคนแวดล้อมมากเพียงใด เธอก็เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเผชิญกับความจริงที่ว่า เธอกำลังจะสูญเสียแม่ที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่แม่ของกะทิได้เตรียมจัดสิ่งต่างๆ ไว้ให้กับกะทิด้วยความรักและเอาใจใส่เท่าที่เธอจะทำได้ ก่อนถึงวันที่จะต้องจากลากันไปตลอดกาล เพื่อให้กะทิได้ใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขในบ้านหลังน้อยริมคลองอันอบอุ่น

5. นิกกับพิม โดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต

ความน่ารักของจดหมายที่โต้ตอบกันไปมาระหว่าง ‘นิก’ สุนัขพันธุ์บอกเซอร์ของพิเชฐ วิศวกรหนุ่ม กับ ‘พิม’ สุนัขพันธุ์พูเดิลของมนทิรา เริ่มจากทั้งคู่พบกันที่ร้านขายสัตว์เลี้ยงในเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ความประทับใจที่มีให้กันนำมาซึ่งการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดี แต่แล้วความเข้าใจผิดบางอย่างทำให้เขาตัดสินใจเดินทางกลับเมืองไทยหลังจากเพิ่งเรียนจบพอดี และ ณ ตอนนั้น จุดเริ่มต้นของจดหมายระหว่างนิกกับพิมก็โบยบินข้ามขอบฟ้าหากัน

6. เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก โดย ทิพย์วาณี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา

เรื่องเล่าที่ราวถึงภาพชีวิตความเป็นอยู่และวัฒนธรรมเดิมในสมัยรัชกาลที่ 6 ถึงรัชกาลที่ 7 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ การได้สัมผัสถึงบรรยากาศบ้านเมืองในช่วงกำลังรับกับความเจริญจากต่างประเทศ ทำให้ผู้อ่านได้ใช้จินตนาการคิดภาพตามกับหลายสิ่งที่ไม่มีให้เห็นแล้วในปัจจุบัน แต่ทุกตัวอักษรได้พาเราย้อนอดีตไปเห็นบ้านเมืองไทยสมัยก่อน ผ่านการเล่าเรื่องที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้เข้าไปเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวคุณตาคุณยาย และได้เพลิดเพลิน ตื่นตาตื่นใจไปกับกิจกรรมและเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในครอบครัว

7. บ้านน้อยในโพรงไม้ โดย ปิยตา วนนันทน์

วรรณกรรมเยาวชนชวนฝันกับเรื่องราวของเด็กกำพร้าพี่น้อง ปาน และ ปิ่น ที่อาศัยอยู่กับป้าใจร้ายและลุงแสนขี้เกียจ แม้ทั้งคู่จะเป็นเด็กดีมากแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยเป็นที่พอใจของป้าสักครั้ง แต่แม้จะมีชีวิตที่ลำบากแค่ไหน ทั้งคู่ก็ยังมีฝัน… ความฝันที่จะมีบ้านหลังเล็กๆ แสนอบอุ่นกับพ่อแม่ที่รักพวกเขา แล้ววันหนึ่ง เมื่อทั้งสองพี่น้องพร้อม ‘นางฟ้า’ เพื่อนรักที่ช่างฝันไม่ต่างกัน ได้พบโพรงไม้ขนาดใหญ่ในป่าที่เปรียบเสมือนเป็นบ้านในฝันของปานและปิ่น เด็กๆ สมมติให้โพรงไม้อันกว้างขวางนี้คือฐานทัพลับของพวกเขา และปิดมันเป็นความลับ แต่แล้ววันหนึ่ง เรื่องเล่นสนุกของทั้งสามก็กลายเป็นจริงเมื่อสองพี่น้องต้องหนีออกจากบ้านป้าใจร้ายไปอยู่บ้านน้อยในโพรงไม้ โดยมีนางฟ้าคอยช่วยเหลือ

8. จอมเกเร โดย ลักษมี

เมื่อเด็กจอมแสบอย่างอรสาต้องเข้าโรงเรียนประจำ เธอตั้งใจว่าจะทำทุกวิถีทางให้ครูทนไม่ได้ จนต้องส่งเธอกลับบ้าน แต่มิตรภาพที่ค่อยๆ เกิดขึ้นในโรงเรียนกลับผูกพันเธอเอาไว้ และค่อยๆ เปลี่ยนอรสาจากเด็กจอมเกเรไปเป็นเด็กหญิงอีกคนหนึ่งที่ทั้งน่ารัก กล้าหาญ อ่อนโยน และเฉลียวฉลาด

9. ตุ๊กตา (หนูนิด หนูไก่ หนูหน่อย หนูแจ๋ว) โดย พิมล กาฬสีห์

การ์ตูน ตุ๊กตา เป็นหนังสือการ์ตูนของไทย ซึ่งที่มาของชื่อ “ตุ๊กตา” มาจากชื่อเล่นของลูกสาวของผู้แต่ง ตัวละครในการ์ตูนตุ๊กตา ประกอบด้วยพี่น้องสี่คน ‘หนูนิด – หนูไก่ – หนูหน่อย – หนูแจ๋ว’ และคุณพ่อคุณแม่ โดยเป็นเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิต แทรกแง่คิดที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยแก่เยาวชนและยังนำเหตุการณ์อันน่าสนใจที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนั้นเข้ามาสอดแทรกในเนื้อหาของเรื่องทุกฉบับ

10. จ้อนกับแดง โดย ก.ศยามานนท์

วรรณกรรมเล่าเรื่องที่แบ่งเป็นตอนๆ ร้อยเรียงผ่านตัวละครที่เข้ามาเกี่ยวข้องการชีวิตของ ‘จ้อน’ กับ ‘แดง’ พี่น้องสองคนที่อยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น ในช่วงปี พ.ศ. 2500 โดยจ้อนเป็นพี่คนโตช่างสงสัย กล้าหาญ และรักความถูกต้องยุติธรรม ในขณะที่แดงคนน้องสุขุมช่างคิดและเห็นอกเห็นใจคนอื่น บวกเพิ่มความสนุกด้วยเด็กหญิงน้อยโหน่งที่พ่อแม่ฝากไว้กับครอบครัวนี้ เธอจึงเป็นเสมือนน้องคนเล็กของบ้าน บ้านที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและพร้อมจะให้เด็กๆ เติบโตออกไปสู่โลกกว้าง