เมื่อดาราทองมาเมียงมองรูปปั้น

นอกจาก นิยายออนไลน์ สนุกๆ แล้ว อ่านเอา ยังมีคอลัมน์ ‘หลงเลนส์’ บทความแสดงมุมมองผ่านภาพถ่ายที่ได้รับการบันทึกเรื่องราวของงานศิลปะทั้งไทยและเทศ โดย ตัวแน่น อีกหนึ่งคอลัมน์ที่ อ่านเอา อยากแนะนำให้คุณได้ อ่านออนไลน์

รูปถ่ายขาวดำรูปเล็กๆ รูปนี้ถ้าจะให้เหมาะต้องเรียกว่ารูปออลสตาร์ เพราะรวมคนดังระดับประเทศในประวัติศาสตร์ไทยถึง 3 สาขา

ไล่เรียงจากซ้ายสุดเป็นประติมากรรมรูปบุคคลเฉพาะส่วนศีรษะ ที่ยังตั้งอยู่บนแท่นปั้นเพราะเพิ่งจะแล้วเสร็จหมาดๆ ผลงานชิ้นนี้เป็นพระรูปเหมือนพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ที่ถูกสร้างขึ้นในวาระครบ 6 รอบ หรือ 72 พรรษาในปี พ.ศ. 2474 กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ หรือที่มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้า ภุชงค์ ชมพูนุช เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 11 ของกรุงรัตนโกสินทร์ โดยดำรงสมณศักดิ์เป็นสังฆราชตั้งแต่ปี พ.ศ. 2465 ในสมัยรัชกาลที่ 6 จนสิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ. 2480 ในสมัยรัชกาลที่ 8 กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ทรงเป็นปราชญ์ในทางพุทธศาสนาพระองค์สำคัญได้ประพันธ์ตำรับตำรามากมายซึ่งกลายมาเป็นรากฐานในหลักสูตรการศึกษาของภิกษุสามเณรตราบจนถึงปัจจุบัน

ประติมากรรมพระรูปเหมือนชิ้นนี้ดูสมจริงมีชีวิตชีวา ว่ากันว่าปั้นโดยนายสาย ปฏิมาประกร ผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาปั้นหล่อจาก พระเทพรจนา (สิน ปฏิมาประกร) ผู้เป็นบิดา ยังมีโอกาสได้เรียนรู้การปั้นแบบอคาเดมีช่วงที่มีโอกาสช่วยอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ปั้นอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 1 เพื่อไปประดิษฐานที่เชิงสะพานพุทธฯ

ส่วนชายหนุ่มรูปงามในชุดเครื่องแบบที่ยืนอยู่ตรงกลางก็คือ ร้อยเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภานุเดช หรือ พระองค์ชายพีระ ผู้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยจากการชนะเลิศการแข่งขันขับรถในรายการใหญ่ระดับโลก พระองค์ชายพีระทรงชนะเลิศการแข่งขันรถกังด์ปรีซ์ในยุโรปหลายสนามจนได้รับรางวัลดาราทอง (BRDC Road Racing Gold Star)

และบุคคลทางด้านขวาของพระองค์ชายพีระคือ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ หรือ พระองค์ชายจุล พระองค์ทรงเป็นสปอนเซอร์หลักของทีมแข่งรถที่พระองค์ชายพีระสังกัดอยู่ อีกทั้งยังทรงสนพระทัยงานประพันธ์ จนทรงนิพนธ์หนังสืออันเป็นที่แพร่หลายอยู่มากมายอาทิเช่น เกิดวังปารุสก์, ดาราทอง, เจ้าชีวิต

แล้วพระองค์ชายรูปงามสุดเนี้ยบทั้งสอง ทรงไปทำอะไรอยู่ในโรงปั้นที่เปียกๆ ชื้นๆ และเลอะๆ ล่ะ การจะเห็นพระองค์ชายพีระ กับพระองค์ชายจุลเสด็จไปไหนมาไหนด้วยกันนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะทั้ง 2 พระองค์สนิทสนมกันมาก ถึงขนาดมีลายพระหัตถ์ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระองค์พีระ ทรงอยู่ในพระอุปการะของพระองค์ชายจุล ในขณะที่ประทับอยู่ในประเทศอังกฤษ พระองค์ชายพีระสนใจศึกษาการปั้นรูป ได้เรียนแบบตัวต่อตัวกับประติมากรมืออาชีพ ก่อนจะเข้าเรียนหลักสูตรศิลปะที่ BYAM SHAW ART SCHOOL ที่โรงเรียนแห่งนี้เองที่พระองค์ชายพีระได้พบรักกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนนามว่า ซีริล ในขณะเดียวกันพระองค์ชายจุลก็ได้ทรงถูกพระทัยกับเพื่อนของซีริลที่ก็เรียนอยู่ที่เดียวกันชื่อว่า ลิสบา จนในที่สุดพระองค์ชายทั้งสองก็ได้เสกสมรสกับหญิงสาวชาวอังกฤษทั้ง 2 คนนี้

จะไม่ให้ชอบโรงปั้น ไม่ให้รักศิลปะได้ยังไงล่ะ ก็เพราะทรงสนใจแนวนี้เลยได้ทั้งฝีมือ ได้ทั้งความสุนทรีย์ แถมยังเป็นเหตุให้ได้พบศรีภรรยามาครองคู่ครบทั้งสองพระองค์