
เกจิดี สตอรี่แน่น ต้องเหรียญศิลป์ พีระศรี รุ่นแรก
โดย : ตัวแน่น
นอกจาก นิยายออนไลน์ สนุกๆ แล้ว อ่านเอา ยังมีคอลัมน์ ‘หลงเลนส์’ บทความแสดงมุมมองผ่านภาพถ่ายที่ได้รับการบันทึกเรื่องราวของงานศิลปะทั้งไทยและเทศ โดย ตัวแน่น อีกหนึ่งคอลัมน์ที่ อ่านเอา อยากแนะนำให้คุณได้ อ่านออนไลน์
ตลอดช่วงชีวิตของคอร์ราโด เฟโรชี หรือ ‘ศิลป์ พีระศรี’ ประติมากรชาวฟลอเรนซ์ผู้จับพลัดจับผลูมาอยู่เมืองไทยจนได้รับการยอมรับนับถือให้เป็นบิดาแห่งศิลปะสมัยใหม่ในบ้านเรา ท่านได้เคยปั้นรูปเหมือนบุคคลสำคัญทั่วโลกมากมาย มีทั้งพระมหากษัตริย์ พระสันตะปาปา พระสงฆ์องค์เจ้า ประธานาธิบดี แม่ทัพนายกอง รวมๆ แล้วเป็นร้อยๆ ผลงานครบครันทั้งแบบลอยตัว นูนสูง นูนต่ำ แต่ที่น่าแปลกใจคือไม่มีหลักฐานใดบ่งชี้ว่าอาจารย์ศิลป์เคยลงมือปั้นรูปเหมือนตัวเองเลยซักครั้ง ทั้งๆ ที่ส่องกระจกเห็นหลัดๆ อยู่ทุกวัน

รูปเหมือนอาจารย์ศิลป์ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาในห้วงเวลาที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ล้วนเป็นฝีมือบุคคลอื่นที่ใกล้ชิดกับอาจารย์ศิลป์ เท่าที่รู้ก็มีแค่ไม่กี่เวอร์ชั่นเช่นรูปเหมือนอาจารย์ศิลป์ครึ่งตัวที่ปั้นโดย เขียน ยิ้มศิริ รูปเหมือนเฉพาะส่วนหัวฝีมือ มีเซียม ยิบอินซอย และรูปล้อเลียนโดย ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ ซึ่งทั้งหมดเป็นรูปปั้นอาจารย์ศิลป์แบบลอยตัว (Round Relief) ที่สามารถมองเห็นได้รอบด้าน

และแล้วเมื่อครั้นที่อาจารย์ศิลป์ถึงแก่กรรมลงในปี พ.ศ. 2505 ก็เป็นครั้งแรกที่มีผู้คิดริเริ่มปั้นประติมากรรมรูปอาจารย์ศิลป์แบบนูนต่ำ (Bas Relief) สไตล์เดียวกับรูปบนเหรียญขึ้นมา โดยประติมากรผู้สร้างสรรค์ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นหนึ่งในศิษย์เอกก้นกุฏิของอาจารย์ศิลป์ท่านเดิมนั่นก็คือไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ ด้วยความอาลัยในปีเดียวกันหลังจากที่อาจารย์ศิลป์จากไปไม่นาน ไพฑูรย์ได้ลงมือลงแรงปั้นต้นแบบอย่างสุดฝีมือจนแล้วเสร็จดูมีชีวิตชีวา ให้อารมณ์ยิ่งใหญ่ดุจศาสดา แต่ก็แฝงไปด้วยสีหน้าแววตาที่เมตตาอย่างบิดาโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อลูกศิษย์อันเป็นที่รัก เหตุที่ไพฑูรย์สร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบก็เพราะสนิทสนมคุ้นเคยกับอาจารย์ศิลป์เป็นอย่างดีจึงรู้ซึ้งและสามารถถ่ายทอดบุคลิกจิตใจของอาจารย์ศิลป์ออกมาได้ใกล้เคียงตัวจริงอย่างไม่มีผิดเพี้ยน

ผลงานที่ว่านี้เป็นรูปใบหน้าอาจารย์ศิลป์หันข้างอยู่ในกรอบวงกลมขนาดประมาณจานข้าว แรกเริ่มเดิมทีปั้นขึ้นจากดิน ก่อนจะถูกหล่อด้วยบรอนซ์ แล้วนำมาติดตั้งเอาไว้บนแผ่นหินอ่อนสีครีมอย่างดี เพื่อเก็บเอาไว้เป็นอนุสรณ์แทนความรักของศิษย์ที่มีต่ออาจารย์
หากย้อนเวลากลับไปก่อนหน้าที่ผลงานชิ้นนี้จะถูกสร้างขึ้นมาเพียงปีเดียว อาจารย์ศิลป์เคยเขียนบทความไว้ในสูจิบัตรการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ 12 ไว้ว่า
“…ศิลปโบราณของเราได้รับการยกย่องอย่างสูง และชาวต่างประเทศที่มาเยือนประเทศไทยที่มุ่งชมความรุ่งเรื่องของอดีต ก็ใคร่จะเห็นความเป็นไปของศิลปปัจจุบันด้วย สิ่งแรกที่ชาวต่างประเทศเหล่านั้นถามคือ หอศิลปสมัยใหม่ เราก็ได้แต่ตอบซ้ำๆ อยู่เสมอว่า ‘เสียใจ เสียใจจริง เรายังไม่มีหอศิลปสมัยใหม่’ …เราอาจใช้เงินสักสองหรือสามล้านบาทสำหรับสร้างหอศิลปอันถาวรขึ้นมา เพื่อให้ประชาชนของเราได้นิยมชมชอบการแสดงออกของศิลปินร่วมสมัยได้ในที่สุด ในขั้นเริ่มต้นขอเพียงแค่อาคารที่เหมาะสมสักอาคารหนึ่งเท่านั้น มิฉะนั้นแล้วการที่เราจะแข่งขันกับชาติอื่นๆ เขาในเรื่องเกี่ยวกับศิลปก็มิอาจเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์…”
เห็นได้ว่าอาจารย์ศิลป์ตระหนักถึงความสำคัญ และพยายามผลักดันให้เกิดหอศิลป์สมัยใหม่ในเมืองไทยมาโดยตลอด และไม่นานก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต อาจารย์ศิลป์ได้นำเสนอแผนการนี้แก่ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ โดยดร.ป๋วยยินดีช่วยจัดสรรงบประมาณให้ครึ่งหนึ่งของค่าก่อสร้าง แต่ยังไม่ทันได้ดำเนินการต่ออาจารย์ศิลป์ก็มาด่วนจากไปเสียก่อน
ต่อมาในปี พ.ศ. 2507 บรรดาผู้ที่เคารพรักอาจารย์ศิลป์ และมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคืออยากจะสานต่อโครงการจัดสร้างหอศิลป์ที่ค้างคาไว้ให้สำเร็จ จึงมารวมตัวจัดตั้งมูลนิธิหอศิลป พีระศรี ขึ้นมาโดยมี หม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร เป็นประธานกรรมการ ดร. ป๋วยเป็นรองประธาน มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เช่น หม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์, มีเซียม ยิบอินซอย, ธนิต อยู่โพธิ์, สวัสดิ์ ตันติสุข เป็นต้น

หลังจากมูลนิธิฯ จัดตั้งแล้วเสร็จ กิจกรรมแรกคือ ‘การแสดงศิลปะนานาชาติ ครั้งที่ 1’ ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 11-25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2508 ณ โรงละครแห่งชาติ เพื่อระดมทุนมาใช้ในการก่อสร้างหอศิลป์แห่งใหม่ งานในครั้งนั้นมีทั้งศิลปิน ประชาชนทั่วไป บริษัทห้างร้าน รวมถึงชาวต่างชาติ สถานทูต ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ และผลงานศิลปะให้กับมูลนิธิฯกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง จนรวมๆ แล้วมูลนิธิฯ ได้เงินสมทบทุนจากงานนี้ไป 983,276.45 บาท แถมยังมีผลงานศิลปะที่ได้รับมาอีกถึง 261 ชิ้น

อีกหนึ่งในไฮไลต์ของการแสดงศิลปะนานาชาติ ครั้งนี้คือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการผลิตเหรียญที่ระลึกรูปอาจารย์ศิลป์ขึ้นมา และออกวางจำหน่ายเพื่อร่วมสมทบทุนจัดสร้างหอศิลป พีระศรี โดยผลงานต้นแบบของเหรียญที่ระลึกเหล่านี้ก็คือประติมากรรมแบบนูนต่ำฝีมือไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ ชิ้นเดียวกันกับที่กล่าวถึงก่อนหน้า นำมาย่อส่วนให้มีขนาดเล็กพอๆ กับพระเครื่อง

หลังจากการแสดงศิลปนานาชาติเสร็จสิ้น ถึงแม้มูลนิธิฯ จะพอมีงบประมาณบ้างแล้ว บวกกับเงินที่รัฐบาลจัดสรรเพิ่มเติมมาให้ในปีถัดมาอีก 1 ล้านบาท โครงการจัดสร้างหอศิลป พีระศรี ก็ยังมีปัญหาติดขัดเรื่องสถานที่อยู่อีกหลายปี จนสุดท้ายหม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร จึงเสนอให้เช่าที่ดินของท่านในราคาถูก และเชิญหม่อมหลวงตรีทศยุทธ เทวกุล มาช่วยออกแบบอาคาร รวมทั้งควบคุมการก่อสร้างหอศิลป พีระศรี ถึงเสร็จลุล่วงสามารถเปิดให้บริการได้ในปี พ.ศ. 2517

จวบจนปัจจุบันหลังจากวันเวลาผ่านมาแล้วกว่า 50 ปี ถึงหอศิลป พีระศรี จะเปิด และปิดตัวลงไปในที่สุด แต่หลายสิ่งหลายอย่างในเมืองไทยได้เปลี่ยนแปลงไปมากมาย จากเมล็ดพันธุ์ในใจอาจารย์ศิลป์ที่อยากให้บ้านเรามีหอศิลป์เอาไว้คุยกับชาวโลก วันนี้วงการศิลปะสมัยใหม่ของไทยได้งอกงามเติบใหญ่จนเป็นที่เชิดหน้าชูตา มีหอศิลป์ทั้งของรัฐและเอกชนเปิดให้บริการหลายแห่งครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ
ส่วนเหรียญศิลป์ พีระศรี รุ่น 1 ปัจจุบันได้กลายเป็นเหรียญกึ่งศักดิ์สิทธิ์สุดยอดปรารถนาที่บรรดาเหล่าผู้เคารพรักตามหากันให้ควั่ก ถึงเหรียญจะไม่เคยถูกปลุกเสก หรืออัดมวลสารจนพุทธคุณล้น แต่คุณค่าทางใจนั้นมากเกินพรรณนา เพราะสิ่งนี้นอกจากจะเป็นเครื่องย้ำเตือนถึงคุณูปการของบิดาแห่งศิลปะสมัยใหม่ไทยแล้ว ยังเป็นรุ่นแรกที่มีการตั้งใจจัดสร้างอย่างจำกัดโดยเหล่าศิษย์ผู้ใกล้ชิดที่สุดเพื่อจุดประสงค์อันเป็นตำนาน นับเป็นผลงานศิลปะที่พร้อมสรรพด้วยความงาม และประโยชน์ดีๆ ที่ถูกส่งต่อสู่สังคม เห็นแล้วทั้งอิ่มตา ทั้งอุ่นใจ
- READ เกจิดี สตอรี่แน่น ต้องเหรียญศิลป์ พีระศรี รุ่นแรก
- READ จุดสวรรค์สุดหฤหรรษ์ของ สุเชาว์ ศิษย์คเณศ
- READ เมื่อดาราทองมาเมียงมองรูปปั้น
- READ อินสนธิ์ วงศ์สาม ในคำนิยามของฉัน
- READ เริงระบำที่กลับมาร่ายรำ ของ เขียน ยิ้มศิริ
- READ คีตาญชลี ในมโนภาพของ ถวัลย์ ดัชนี
- READ พุทธศิลป์หมิ่นเหม่ สไตล์ ถวัลย์ ดัชนี
- READ อินทรีหน้าเหมือนอีกา เขาบอกว่าฝีมือ ถวัลย์ ดัชนี
- READ สถานการณ์เลยเถิด จุดกำเนิดอนุสาวรีย์ ศิลป์ พีระศรี
- READ งานแบบนี้ถวัลย์ ดัชนี ก็มีเหรอ?
- READ ระลึกถึงรุ่นหนึ่งศิลปากร
- READ นอกจากระเบิดปรมาณู รูปปั้นยังใช้สู้กันได้ด้วยแฮะ
- READ งานของเขียนในอิตาลีที่ไม่มีใครเคยเขียน
- READ บางกะปิแกลเลอรี ศูนย์ศิลปะที่มาก่อนกาล
- READ คงเหลือไว้แต่ในรูปถ่าย ยังดีกว่ามีวางขายกันเกร่อ
- READ คาร์ล ซันเดรสกี ระบายสี จากร้านเคเอฟซี
- READ ประเด็นดราม่าเรื่องม้าพระเจ้าตาก
- READ ทำไมทั้งไทยทั้งฝรั่งจึงคลั่งไคล้ ประเทือง เอมเจริญ
- READ ไก่ตีกัน ของขวัญจาก ถวัลย์ ดัชนี
- READ การแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ จากบ้านๆ จนกลายเป็นงานช้าง
- READ โรแมนติกในความเรียบง่ายสไตล์หม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล
- READ รูปคาโรลุส-ดูรอง ที่ต้องกราบ
- READ เสียงขลุ่ยทิพย์ ถึงไม่ได้ยินก็ฟินได้
- READ ก่อนย่าโมจะมายืนท้าวสะเอว
- READ นิโร โยโกตา ศาสดาแห่งภาพตลาดน้ำ
- READ จิตร ญี่ปุ่น ประกิต อเมริกา
- READ แนบ บังคม ครูช่างผู้ปิดทองหลังพระ
- READ ล่องไพรในหอศิลป์ไปกับ ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์
- READ มนุษย์ดาว อังคาร กัลยาณพงศ์
- READ อันตรธานงานศิลป์
- READ นางฟ้าผู้ถูกครหา ลาวัณย์ อุปอินทร์
- READ ทวี นันทขว้าง กับโอเปร่าสุดอาถรรพ์
- READ เรื่องราวอันยาวนานกว่าจะมีพระประธานพุทธมณฑล
- READ 'เฟื้อ หริพิทักษ์' ครูใหญ่ผู้ไม่มีปริญญา
- READ รูปถ่ายศิลปะ สมบัติล้ำค่าที่อยู่นอกเรดาร์นักสะสม
- READ อิตาเลียนรามเกียรติ์
- READ โคแบรนด์สุดว้าว สุเชาว์ X พีระ
- READ เกิดอาการเธอดึงดูดฉัน ฉันดึงดูดเธอ
- READ เฮ้ย! นี่มันคอนเสิร์ตเกาหลี? หรืองานศิลปกรรมประจำปี?
- READ สาวเสร็จสรงสุดเซ็กซี่
- READ อลังการงานไทยในมหกรรมเวิร์ลแฟร์
- READ ระเด่น บาซูกิ อับดุลลาห์ จิตรกรชวาในราชสำนักไทย
- READ โหลดปุ๊บรู้ปั๊บรูปปั้น ร. 8
- READ ปั้นด้วยรัก จากใจ เฟื้อ หริพิทักษ์
- READ เถียงแทน ศิลป์ พีระศรี เรื่องอนุสาวรีย์ ร. 6
- READ ยันต์กันเก๊
- READ แช่ม เขามีชื่อ
- READ เจอจ่าง ที่ข้างทาง
- READ ร.5 กับ คาโรลุส-ดูรอง แค่สองเหลือแหล่
- READ หม่อมเจ้ายาใจ ใครปั้นยังคาใจ