หม่อมเจ้ายาใจ ใครปั้นยังคาใจ
โดย : ตัวแน่น
นอกจาก นิยายออนไลน์ สนุกๆ แล้ว อ่านเอา ยังมีคอลัมน์ ‘หลงเลนส์’ บทความแสดงมุมมองผ่านภาพถ่ายที่ได้รับการบันทึกเรื่องราวของงานศิลปะทั้งไทยและเทศ โดย ตัวแน่น อีกหนึ่งคอลัมน์ที่ อ่านเอา อยากแนะนำให้คุณได้ อ่านออนไลน์
…………………………………………………………………………
รูปถ่ายเก่ากึ้กขนาดคืบกว่าๆ ผนึกอยู่บนกระดาษสีดำที่เกรอะกรังไม่แพ้กัน พร้อมตัวอักษรสีขาวที่บรรจงเขียนด้วยลายมือสุดประณีตใจความว่า ‘งานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2493 (หมายเลข 28-29)’ ใบ้มาซะขนาดนี้ถ้าไม่สืบค้นต่อคงนอนไม่หลับ ด้วยความรู้ที่เริ่มจะค่อยๆ งอกยาวกว่าหางอึ่งหลังจากที่ได้คลุกคลีตีโมงในสายอาร์ตมาสักระยะทำให้เราพอจะบอกได้ทันทีว่ารูปปั้นในภาพคือหนึ่งในบุคคลสำคัญในวงการศิลปะไทย หม่อมเจ้ายาใจ จิตรพงศ์ พระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ และด้วยปณิธานอันแรงกล้าที่จะสืบสานพระโอวาทของพระบิดาที่ว่า
‘เกิดมาเป็นพระราชวงศ์ต้องทำราชการรับใช้พระเจ้าแผ่นดินและชาติบ้านเมือง อันมีบุญคุณแก่พ่อมาก พ่อแก่แล้วทำราชการไม่ไหว ขอให้รับราชการแทนตัวพ่อ ถึงจะยากลำบากก็ขอให้อดทนรับราชการสืบทอดต่อไป ได้เงินเดือนเท่าไรก็ใช้ให้พอ อย่าบ่น อย่าว่า และอย่าลาออก’
เมื่อหม่อมเจ้ายาใจทรงสำเร็จปริญญาด้านการออกแบบจากปารีส จึงทรงกลับมารับราชการอยู่ในกรมศิลปากรจนเกษียณ ในชีวิตการทำงานท่านทรงกำกับโครงการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของประเทศชาติมากมาย เช่น การบูรณะวัดพระแก้ว ปราสาทหินพิมาย ปราสาทหินพนมรุ้ง ทรงเป็นประธานกรรมการตัดสินงานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ และยังเคยทรงดำรงตำแหน่งคณบดีคณะมัณฑนศิลป์ และรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากรอีกด้วย
ตั้งแต่เห็นรูปถ่ายใบนี้แวบแรกก็รู้เพียงว่าเป็นรูปปั้นใคร ส่วนใครเป็นคนปั้นนั้นบอกได้เลยว่าโนไอเดีย โชคยังดีที่มีเบาะแสเพิ่มเติมคือชื่อ ‘งานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ’ พร้อมระบุปีที่จัดเขียนกำกับเอาไว้ใต้ภาพตัวเบ้อเร่อ งานแสดงศิลปกรรมที่ว่าซึ่ง อาจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นผู้ริเริ่มนั้นมีการจัดต่อเนื่องกันมาตลอดเป็นเวลากว่า 70 ปีแล้ว แต่ถึงงานนี้จะจัดกันมาเนิ่นนานแต่ก็ไม่ใช่งานแสดงศิลปะสมัยใหม่งานแรกในบ้านเรา เพราะตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎรในปี พ.ศ. 2475 มีงานอีเวนต์อีกงานที่จัดขึ้นประมาณวันที่ 8-14 ธันวาคมของทุกปี เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า ‘งานฉลองรัฐธรรมนูญ’ งานนี้ถ้าไปถามปู่ย่าตาทวดรับประกันว่าทุกท่านจะต้องรู้จัก เพราะเป็นงานมหกรรมใหญ่ยักษ์ระดับชาติที่ใครๆ เขาก็ไปเที่ยวกัน ในกรุงเทพฯ มีการจัดสลับกันไปสลับกันมาที่วังสราญรมย์ สวนลุมพินี สวนอัมพร และเขาดิน ส่วนในต่างจังหวัดก็มีจัดล้อกันในสเกลที่เล็กกว่าตามสถานที่ที่เหมาะเจาะ
ภายในงานมีร้านค้า หาบเร่ แผงลอย ขายของกิน ของใช้เบ็ดเตล็ดทุกอย่าง มีการแสดง ลิเก โขน งิ้ว ตลก มายากล ละครเวที โชว์สัตว์แปลก มีฉายหนัง จุดดอกไม้ไฟ มีแข่งชกมวย มีประกวดนางสาวสยาม เอาเป็นว่าอยากซื้อหาหรืออยากดูอะไรก็มีครบจบในงานเดียว ในส่วนของทางราชการก็มีการออกบูธของกระทรวง ทบวง กรม โชว์ผลงานกันใหญ่โต และหนึ่งในนั้นคือบูธของกรมศิลปากร เนื่องจากคอนเซ็ปต์ของงานฉลองรัฐธรรมนูญนี้มุ่งเน้นถึงหลัก 6 ประการของคณะราษฎร อันประกอบไปด้วยเอกราชของประเทศ การรักษาความสงบ การบำรุงเศรษฐกิจ ราษฎรมีสิทธิเสมอภาคกัน ความมีเสรีภาพ และการบำรุงการศึกษา เป็นหลักสมัยใหม่ที่พยายามจะฉีกตัวออกจากความโบร่ำโบราณและกฎเกณฑ์ในยุคก่อน
ด้วยเหตุฉะนี้ถ้ากรมศิลปากรจะมาออกร้านโชว์เทวรูปสมัยขอม หรือไหสมัยอยุธยา ก็จะดูคร่ำครึ ในงานจึงมีการจัดประกวดประณีตศิลปกรรม กระตุ้นให้ศิลปินรุ่นใหม่ๆ มาร่วมประชันฝีมือกันในธีมของคณะราษฎร สร้างสรรค์ผลงานด้วยรูปแบบที่ทันสมัยไม่ยึดติดอยู่กับแนวไทยประเพณีแบบดั้งเดิม
งานฉลองรัฐธรรมนูญนี้ค่อยๆ เริ่มซาๆ หลัง พ.ศ. 2490 หลังจากการรัฐประหารเปลี่ยนขั้วอำนาจจากคณะราษฎรมาเป็นกลุ่มใหม่ที่มีแนวความคิดแบบอนุรักษ์นิยม มีการออกกฎระเบียบออกมาควบคุมงานฉลองรัฐธรรมนูญจัดระเบียบห้ามไม่ให้มีหาบเร่แผงลอยดูระเกะระกะ ห้ามไม่ให้มีการพนัน ห้ามใช้เสียงดัง ห้ามแสดงโชว์แบบชาวบ้านที่บางทีก็มีคำหยาบ จากที่เคยดูเป็นงานวัดสนุกสนานเลยชักจะกร่อยกลายเป็นทางการจ๋าแบบงานราชการ จนในที่สุดงานฉลองรัฐธรรมนูญก็เลิกจัดไปในปี พ.ศ. 2501 เมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ประกาศยึดอำนาจยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับเดิม
โชคยังดีสำหรับวงการศิลปะสมัยใหม่ของไทย ที่ถึงแม้งานฉลองรัฐธรรมนูญที่มีการประกวดประณีตศิลปกรรมจะจบเห่ไป แต่งานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติก็เริ่มตั้งตัวได้และเป็นที่เฟื่องฟู จากงานแสดงศิลปะเล็กๆกลับกลายเป็นงานยิ่งใหญ่ระดับประเทศ งานแสดงศิลปกรรมแห่งชาตินี้จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2492 ในครั้งนั้นถือเป็นเวทีแจ้งเกิดของประติมากรในตำนานนามว่า เขียน ยิ้มศิริ ซึ่งนำผลงานชื่อ ‘ขลุ่ยทิพย์’ มาร่วมแสดงและคว้ารางวัลเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทองสาขาประติมากรรมไปแบบสบายๆ ในงานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ 2 ในปีถัดมาหรือ พ.ศ. 2493 ปีเดียวกับที่ระบุไว้ใต้รูปถ่ายรูปปั้นหม่อมเจ้ายาใจที่เป็นประเด็น เขียน ยิ้มศิริ เจ้าเก่าก็ได้รับรางวัลเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทองสาขาประติมากรรมอีกครั้งจากผลงานที่มีชื่อว่า ‘ดินแดนแห่งความยิ้มแย้ม’
ความเจ๋งของทั้ง ‘ขลุ่ยทิพย์’ และ ‘ดินแดงแห่งความยิ้มแย้ม’ คือการที่ศิลปินสามารถผสมผสานความเป็นไทยให้เข้ากับศิลปะสมัยใหม่ที่ได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตกได้อย่างลงตัว ในขณะที่ลดทอนรายละเอียดกระจุกกระจิก ศิลปินก็หันไปเน้นเส้นสายที่อ่อนช้อยงดงาม ไม่สนใจเรื่องความสมจริงตามธรรมชาติ ผลงานทั้งสองชิ้นนี้จึงดูเป็นคนละเรื่อง ไม่ใกล้เคียงกับประติมากรรมรูปเหมือนของใครคนใดทั้งสิ้นแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้ถ้าให้เราเดาว่าใครเป็นคนปั้นรูปเหมือนหม่อมเจ้ายาใจที่ออกมาสมจริงเต็มไปด้วยอารมณ์ราวกับมีชีวิต เราคงนึกถึง เขียน ยิ้มศิริ เป็นคนสุดท้าย
ถ้าโอน้อยออกก็คงแพ้ ถ้าแทงหวยก็คงโดนกิน เพราะพอไปไล่เรียงรายชื่อผลงานศิลปะที่ถูกส่งเข้าแสดงในงานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2493 ก็เจอผลงานประติมากรรมชื่อ ‘รูปเหมือนหม่อมเจ้ายาใจ’ ตามคาด แต่ที่ไม่ตามคาดคือปั้นโดย เขียน ยิ้มศิริ คนที่ไม่คิดว่าจะใช่ แถมค้นไปค้นมายังเจอภาพประกอบในสูจิบัตรเก่าอีกเป็นรูปปั้นหม่อมเจ้ายาใจชิ้นเดียวกันนี้ไม่มีผิดเพี้ยน แต่ถ่ายจากคนละมุม
สรุปว่ารูปถ่ายที่เมื่อกี้ยังมีข้อสงสัยเลยกลายเป็นรูปถ่ายผลงานของประติมากรมือหนึ่งของประเทศในอดีต ถ่ายผลงานชิ้นที่อาจจะหายสาบสูญไปแล้ว ในมุมที่ไม่มีใครได้เห็น มา 70 ปี รู้งี้ถึงรูปจะเกรอะกรังก็ดูมีออร่าขึ้นมาทันที เสร็จภารกิจสืบค้นเป็นอันว่าเข้านอนได้ คืนนี้ท่าจะฝันดีไม่มีอะไรให้คาใจ
- READ เมื่อดาราทองมาเมียงมองรูปปั้น
- READ อินสนธิ์ วงศ์สาม ในคำนิยามของฉัน
- READ เริงระบำที่กลับมาร่ายรำ ของ เขียน ยิ้มศิริ
- READ คีตาญชลี ในมโนภาพของ ถวัลย์ ดัชนี
- READ พุทธศิลป์หมิ่นเหม่ สไตล์ ถวัลย์ ดัชนี
- READ อินทรีหน้าเหมือนอีกา เขาบอกว่าฝีมือ ถวัลย์ ดัชนี
- READ สถานการณ์เลยเถิด จุดกำเนิดอนุสาวรีย์ ศิลป์ พีระศรี
- READ งานแบบนี้ถวัลย์ ดัชนี ก็มีเหรอ?
- READ ระลึกถึงรุ่นหนึ่งศิลปากร
- READ นอกจากระเบิดปรมาณู รูปปั้นยังใช้สู้กันได้ด้วยแฮะ
- READ งานของเขียนในอิตาลีที่ไม่มีใครเคยเขียน
- READ บางกะปิแกลเลอรี ศูนย์ศิลปะที่มาก่อนกาล
- READ คงเหลือไว้แต่ในรูปถ่าย ยังดีกว่ามีวางขายกันเกร่อ
- READ คาร์ล ซันเดรสกี ระบายสี จากร้านเคเอฟซี
- READ ประเด็นดราม่าเรื่องม้าพระเจ้าตาก
- READ ทำไมทั้งไทยทั้งฝรั่งจึงคลั่งไคล้ ประเทือง เอมเจริญ
- READ ไก่ตีกัน ของขวัญจาก ถวัลย์ ดัชนี
- READ การแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ จากบ้านๆ จนกลายเป็นงานช้าง
- READ โรแมนติกในความเรียบง่ายสไตล์หม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล
- READ รูปคาโรลุส-ดูรอง ที่ต้องกราบ
- READ เสียงขลุ่ยทิพย์ ถึงไม่ได้ยินก็ฟินได้
- READ ก่อนย่าโมจะมายืนท้าวสะเอว
- READ นิโร โยโกตา ศาสดาแห่งภาพตลาดน้ำ
- READ จิตร ญี่ปุ่น ประกิต อเมริกา
- READ แนบ บังคม ครูช่างผู้ปิดทองหลังพระ
- READ ล่องไพรในหอศิลป์ไปกับ ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์
- READ มนุษย์ดาว อังคาร กัลยาณพงศ์
- READ อันตรธานงานศิลป์
- READ นางฟ้าผู้ถูกครหา ลาวัณย์ อุปอินทร์
- READ ทวี นันทขว้าง กับโอเปร่าสุดอาถรรพ์
- READ เรื่องราวอันยาวนานกว่าจะมีพระประธานพุทธมณฑล
- READ 'เฟื้อ หริพิทักษ์' ครูใหญ่ผู้ไม่มีปริญญา
- READ รูปถ่ายศิลปะ สมบัติล้ำค่าที่อยู่นอกเรดาร์นักสะสม
- READ อิตาเลียนรามเกียรติ์
- READ โคแบรนด์สุดว้าว สุเชาว์ X พีระ
- READ เกิดอาการเธอดึงดูดฉัน ฉันดึงดูดเธอ
- READ เฮ้ย! นี่มันคอนเสิร์ตเกาหลี? หรืองานศิลปกรรมประจำปี?
- READ สาวเสร็จสรงสุดเซ็กซี่
- READ อลังการงานไทยในมหกรรมเวิร์ลแฟร์
- READ ระเด่น บาซูกิ อับดุลลาห์ จิตรกรชวาในราชสำนักไทย
- READ โหลดปุ๊บรู้ปั๊บรูปปั้น ร. 8
- READ ปั้นด้วยรัก จากใจ เฟื้อ หริพิทักษ์
- READ เถียงแทน ศิลป์ พีระศรี เรื่องอนุสาวรีย์ ร. 6
- READ ยันต์กันเก๊
- READ แช่ม เขามีชื่อ
- READ เจอจ่าง ที่ข้างทาง
- READ ร.5 กับ คาโรลุส-ดูรอง แค่สองเหลือแหล่
- READ หม่อมเจ้ายาใจ ใครปั้นยังคาใจ