กระบือสื่อรัก บทที่ 18 : พ่อช้างอยู่ที่ไหน หัวใจลุงติ๊กอยู่ที่นั่น (2)

กระบือสื่อรัก บทที่ 18 : พ่อช้างอยู่ที่ไหน หัวใจลุงติ๊กอยู่ที่นั่น (2)

โดย : พรรณสิริ

Loading

กระบือสื่อรัก นวนิยายรางวัลชนะเลิศจากโครงการช่องวันอ่านเอาปีที่ 4 โดย พรรณสิริ ที่อ่านได้ในเพจอ่านเอาและ anowl.co เรื่องราวของเอื้อมดาวที่ต้องกลายมาเป็นหัวหน้าครอบครัว เธอต้องทิ้งใบปริญญามาเป็นสาวโรงงาน ต้องขายควายเพื่อใช้หนี้ แล้วบททดสอบของชีวิตก็ทำให้รู้ว่าตัวเองแกร่งกว่าที่คิดและชีวิตไม่ต้องขึ้นอยู่กับใบปริญญาเสมอไป

 

ร้านกาแฟขนาดใหญ่ในย่านศูนย์การยอดฮิตมองออกไปเห็นสถานีรถไฟฟ้าอยู่เบื้องหน้า อรลดาปักหลักอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างลำพัง มีแก้วกาแฟที่ละลายไปกว่าครึ่งและขนมเค้กที่เพิ่งกินไปสองสามคำตั้งทิ้งไว้

เด็กสาวอยู่ในชุดพละของโรงเรียน นั่งไขว่ห้างและใช้สมาร์ตโฟนเซลฟีตัวเองกับรองเท้าผ้าใบรุ่นลิมิเต็ดเอ็ดดิชันที่เพิ่งถอยมาใหม่ เนื่องจากสนิทสนมกับเจ้าของร้านเป็นพิเศษ เธอจึงได้ของใหม่ล่าสุดจากต่างแดนมาครอบครองก่อนใคร

ระหว่างตกแต่งรูปเตรียมโพสต์ลงในอินสตาแกรม เพื่อนที่แชร์ห้องคอนโดมิเนียมด้วยกันส่งข้อความเข้ามา

อร วันนี้วันที่ห้าอย่าลืมจ่ายค่าห้องนะ

เด็กสาวถอนหายใจ กดเช็กยอดเงินคงเหลือในบัญชีจากสมาร์ตโฟนในมือ เดือนนี้ไม่มีงานแฟนมีตติ้งหรืองานคอนเสิร์ตเลย รายได้พิเศษจึงพลอยหดหายไปด้วย แถมเงินที่รูมเมตโอนมาให้ไว้จ่ายค่าเช่าก็ละลายกลายเป็นรองเท้าผ้าใบคู่ที่กำลังสวมอยู่

อรลดาลังเลใจที่จะโทร.หานางสะอิ้ง ขืนขอเงินแม่ พี่สาวก็ต้องรู้อยู่ดีเพราะเป็นคนดูแลค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้าน เธอเคยลั่นวาจาเอาไว้ว่ามีปัญญาดูแลตัวเองได้ จะเสียหน้าแค่ไหนถ้าต้องกลืนน้ำลายตัวเอง

ความคิดบางอย่างแล่นเข้าสู่สมอง เจ้าตัวแก้ไขข้อความในรูปที่เตรียมจะโพสต์เสียใหม่ แทนที่จะอวดว่าได้เป็นเจ้าของรองเท้ารุ่นล่าสุดก่อนใคร กลายเป็นข้อความโฆษณาขายของแทน

รับพรีออร์เดอร์สนีกเกอร์สีขาวสุดคูลของXXX ตามรอยYYY เสร็จแล้วก็แฮชแท็กชื่อนักร้องนำวงบอยแบนด์วงหนึ่งของเกาหลีใต้

ไม่กี่ชั่วอึดใจ แฟนคลับของวงบอยแบนด์คนหนึ่งก็ส่งข้อความเข้ามา สนใจสั่งซื้อรองเท้าผ้าใบ เจรจาต่อรองกันพักใหญ่ได้ข้อสรุปว่าลูกค้าต้องจ่ายเงินเต็มจำนวน ถึงจะสั่งสินค้าให้

เสียงสัญญาณเตือนในโทรศัพท์ดังขึ้น อรลดายิ้มกว้างอย่างโล่งอกเมื่อเห็นยอดเงินโอนเข้าบัญชีพร้อมกับข้อความใหม่เด้งขึ้นมาเป็นแฟนคลับวงอีกเช่นกัน

ได้ค่ะ แต่ต้องรอของประมาณหนึ่งเดือนเลยนะคะ ร้านย่านฮงแด ทงแดมุนแล้วก็แถวคังนัมไม่มีแล้ว จะลองให้คนไปหาที่อัพกูจองกับลอตเต้เวิร์ลมอลล์ให้ค่ะ อรลดาปั้นน้ำเป็นตัวอย่างคล่องแคล่ว

ไม่มีปัญหา รอได้ค่ะ คนซื้อตอบกลับมา

ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มีเงินโอนเข้าบัญชีสั่งจองสินค้ารองเท้าผ้าใบแล้วสี่หมื่นบาท

‘ขอเอามาหมุนก่อนนะ อย่าว่ากันเลย เดี๋ยวขายบัตรคอนเสิร์ตได้เมื่อไหร่ จะโอนคืนให้แล้วกัน’ เด็กสาวคิดง่ายๆ มีถมเถไปที่สั่งไปแล้วไม่ได้ของ ถ้าคนขายคืนเงินให้ก็จบเรื่อง ไม่มีปัญหา

อรลดาเก็บข้าวของลุกออกจากโต๊ะ เพื่อนร่วมชั้นเรียนกวดวิชาเสร็จ นัดกันไว้ว่าจะไปกินมื้อเย็นที่ร้านบาร์บีคิวปิ้งย่างเปิดใหม่ ตอนแรกเธอหาข้ออ้างปฏิเสธเพราะไม่มีเงิน แต่ตอนนี้ไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลับไปต้มบะหมี่กินที่ห้อง ในเมื่อในบัญชีมีเงินให้ใช้อย่างเหลือเฟือ

 

“ข้าขายแต่ไร่ ไม่ขายควาย พ่อขวัญชัยกลับไปบอกเสี่ยอั๋นด้วย”​

ผู้สูงวัยที่นอนแบ็บอยู่บนเตียงคนไข้ มีสายน้ำเกลือเสียบอยู่ที่แขน แม้ดูอ่อนระโหยโรยแรงจากการทำเคมีบำบัด แต่ยังปฏิเสธเสียงแข็งไม่ต่างจากตอนปกติดี

วันนี้ผู้จัดการโชคเจริญสุขฟาร์มเดินทางมาเยี่ยมเจ้าของไร่ที่อยู่ติดกัน และเจรจาซื้อที่ดินเพื่อทำโรงเรือนเพิ่มเติม

“แล้วแต่ลุงเถอะ แต่ถ้าเปลี่ยนใจอยากขายพ่อช้างก็บอกมา เสี่ยเขาให้ห้าแสน”

นวลปรางค์ซึ่งนั่งฟังการเจรจาอยู่ด้วยถึงกับหูผึ่ง “พ่อยังต้องรักษาตัวอีกเป็นปี ใครจะดูแลควาย ขายให้เขาไปน่าจะดีกว่าไหม”

“เอ็งไม่ต้องเป็นห่วง ข้าหาคนช่วยเลี้ยงได้แล้วกัน”

แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ลุงติ๊กรู้ดีว่าบุตรสาวอยากให้ขายทั้งที่ดินและควายไปพร้อมกันเพื่อนำเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาล ถ้ายังเหลือก็จะชวนให้ซื้อบ้านหลังที่อยู่ติดกันในหมู่บ้านจัดสรรย่านเมืองนนท์ที่ครอบครัวลงหลักปักฐานอยู่

“อาทิตย์หน้า วันที่เอาสัญญามาให้เซ็น จะให้เจ้าหน้าที่บัญชีของฟาร์มโอนเงินมัดจำให้ทันที ส่วนที่เหลือหลังลุงออกจากโรงพยาบาล ไปรับเป็นแคชเชียร์เช็คที่สำนักงานที่ดินวันโอนที่เลยแล้วกัน พักผ่อนมากๆ หายไวๆ นะ” ขวัญชัยตบหลังมือคนไข้เบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ ก่อนลุกขึ้นเตรียมตัวกลับ

พอผลักประตูห้องพักคนไข้พิเศษออกมา ก็เห็นดินแดนซึ่งนั่งรออยู่บนม้านั่งหินอ่อนยาวริมระเบียงหน้าห้อง

“ไม่ต้องทำหน้าเครียดระดับสิบ ลุงติ๊กไม่ขายพ่อช้าง สงสัยจะเก็บไว้ให้เอ็ง” ขวัญชัยล้อเลียนอย่างรู้ทัน

ดินแดนมีสีหน้าโล่งอก “เสี่ยเขาเสนอค่าตัวพ่อช้างเท่าไหร่”

“อยากรู้ไปทำไม เอ็งเพิ่งเริ่มเลี้ยง อย่าเพิ่งคิดจะลงทุนหนัก เอาแค่น้ำเชื้อไปผสมกับแม่พันธุ์แล้วรอปั้นลูกดีกว่า” ขวัญชัยเตือนด้วยความหวังดี เขาเห็นแววของเด็กหนุ่มตรงหน้า อีกทั้งยังเชื่อมั่นว่าดินแดนจะเป็นเกษตรกรที่ไปได้ดีกับธุรกิจควายสวยงามในอนาคตอันใกล้

“โธ่ พี่ ผมก็แค่อยากรู้” ดินแดนโอดครวญ

“ห้าแสน”

“แค่ห้าแสน กดราคาน่าดู อย่างน้อยๆ ก็น่าจะสักแปดแสนหรือหนึ่งล้านไหม” ชายหนุ่มนิ่วหน้า

นึกถึงควายตัวท็อปที่เกราคาทับกันในโซเชียลมีเดีย คนซื้อชอบยกขบวนหอบเงินสดไปเป็นตั้งๆ เพื่อทำคอนเทนต์ลงโซเชียลมีเดีย เอาเข้าจริงๆ มีแค่คนซื้อและคนขายเท่านั้นที่รู้ว่าจริงๆ แล้วซื้อขายกันในเท่าไร

“มันก็จริง แต่อย่าลืม ถ้าส่งเข้าประกวด กรรมการอาจไม่ให้พ่อช้างชนะ เพราะสืบสายบรรพบุรุษไม่ได้ เขากลัวว่าจะไม่ใช่ควายไทยแท้ ข้าถึงบอกว่าลงทุนกับน้ำเชื้อก็พอ แล้วไปรอตัวลูกดีกว่า”

ขวัญชัยทิ้งท้ายอย่างคนที่คร่ำหวอดในวงการก่อนกลับ

 

ผู้จัดการโชคเจริญสุขฟาร์มคล้อยหลังไปไม่นาน นวลปรางค์ก็พยายามเกลี้ยกล่อมบิดาอีกรอบ

“ขายๆ ไปเถอะ พ่อ จะเก็บไว้ทำไม เงินห้าแสนเอาไปทำอะไรได้ตั้งเยอะแยะ”

“เงินค่าขายที่ถ้าไม่พอค่ารักษาพยาบาลที่นี่ ข้ากลับไปใช้บัตรทองโรงพยาบาลที่บ้านได้”

“โธ่ พ่อ กลับบ้านไปก็อยู่คนเดียว ไม่มีคนดูแล อยู่ตรงนี้ฉันแวะมาได้ทุกวัน อีกอย่างเราก็ไม่ได้จ่ายเต็มราคา ฉันใช้ส่วนลดบุคลากร ส่วนพี่ชิตเขาก็ช่วยมาบางส่วนด้วย” นวลปรางค์เอ่ยถึงพี่ชายคนโตที่อยู่อเมริกา

“เอ็งไม่สะดวกมาดูแลก็ไม่เป็นไร จ้างเด็กแถวบ้านเอาก็ได้ มีถมถืดไป”

“แต่หลังให้คีโมครบคอร์ส พ่อต้องมาติดตามผลที่โรงพยาบาลอีกเป็นปี ย้ายมาอยู่ด้วยกันเถอะ สะดวกกว่า ตอนนี้บ้านที่อยู่ติดกันเขาประกาศขาย ถ้าซื้อแล้วขยายเป็นรั้วเดียวกัน ฉันรับรองว่าไม่อึดอัด พ่อขายที่ขายควายไปให้หมดแล้วย้ายมาอยู่กับหลานๆ ที่นนท์เถอะ ฉันจะคอยดูแลใกล้ชิดได้”

นวลปรางค์พูดมีเหตุผล ด้วยความที่ต้องแบกรับหลายบทบาท เป็นทั้งเมีย แม่ และลูกสาว ถ้าต้องทำหน้าที่ทั้งหมดให้ครบถ้วนสมบูรณ์และทำงานประจำไปด้วย ก็แทบไม่ต่างไปจากยอดมนุษย์

“ข้าพูดจนปากจะฉีกถึงรูหูแล้วว่าจะกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน เอ็งก็ฟังบ้างสิ” เมื่อบุตรสาวพูดไม่รู้ฟังอารมณ์บุพการีก็เริ่มขึ้น

“เอาละๆ ฉันไม่เถียงกับพ่อแล้ว ออกจากโรงพยาบาลแล้วค่อยว่ากันอีกที” นวลปรางค์ตัดบท ไม่อยากให้พ่อซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาเครียดเกินไป เจ้าตัวสะพายกระเป๋า ผลักประตูห้องพิเศษออกไป เจอดินแดนที่ยืนรีรออยู่หน้าห้อง

บิดาเอ็นดูเขาเป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งเพราะอายุไล่เลี่ยกับน้องชายคนเล็กที่เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน แม้จะระแวงว่าไม่ใช่ญาติโกโหติกา เข้ามาเอาอกเอาใจบิดาเป็นพิเศษเพราะหวังผลประโยชน์บางอย่าง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาช่วยแบ่งเบาภาระในการดูแลผู้ป่วยได้มาก นวลปรางค์จึงยังโอภาปราศรัยด้วยเป็นอย่างดี

“พี่ต้องไปเข้าเวรแล้ว ฝากพ่อด้วยนะ เดี๋ยวเย็นๆ แวะมาใหม่ ดินอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมจะได้หิ้วมาฝาก”

“ไม่กวนดีกว่า บ่ายๆ เพื่อนฉันก็มาแล้ว เดี๋ยวให้มันซื้อขึ้นมาให้ หลังออกเวรพี่นวลกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ ถ้ามีอะไรฉุกเฉินฉันจะโทรตาม”

“ขอบใจนะ” นวลปรางค์ตบต้นแขนชายหนุ่มเบาๆ

หากวันนี้ไม่ต้องกลับมาเฝ้าพ่อ เธอจะได้แวะซูเปอร์มาร์เก็ตซื้อของสดกลับไปทำกับข้าว หลายวันแล้วที่กลับบ้านดึกปล่อยให้สามีและลูกสั่งอาหารกินกันเอง

เมื่อบุตรสาวลุงติ๊กคล้อยหลังไป ดินแดนจึงผลักประตูห้องพิเศษเข้าไป

“เห็นพี่ขวัญเสนอให้ตั้งห้าแสน ทำไมลุงถึงไม่ยอมขายพ่อช้าง” ดินแดนรอฟังคำตอบด้วยใจเต้นระรัว

“แค่ขายที่ก็น่าจะพอรักษาตัวไหม แต่พ่อช้างเป็นตายร้ายดียังไงข้าก็ไม่ขาย” ชายชราเสียงเครือ เมื่อนึกถึงควายตัวใหญ่ที่รักเหมือนลูก

แม้บุตรสาวไม่บอกรายละเอียด แต่เจ้าตัวพอจะรู้ตัวว่ากำลังเดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต จึงตัดใจขายสมบัติพัสถานอื่นๆ ได้ แต่ยังตัดใจขายควายตัวโตที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่อายุไม่ถึงสองเดือนไม่ได้

ดินแดนขยับเข้าไปนั่งข้างเตียงคนไข้ “ฉันดีใจที่ลุงไม่ขาย แต่ก็ไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่เสี่ยอั๋นกดราคาพ่อช้างน่าดู”

“เออ ข้ารู้ แต่ควายไม่มีเถือกเถาเหล่ากอ เลี้ยงแบบตามมีตามเกิด ได้ราคานี้ก็ดีมากแล้ว” ลุงติ๊กจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเด็กหนุ่มที่รักและเอ็นดูเหมือนลูก

“หลังขายที่แล้ว ข้าฝากพ่อช้างไว้ที่คอกเอ็งได้ไหม”

ดินแดนตาวาวด้วยความตื่นเต้น เขาเป็นห่วงควายตัวใหญ่ไม่แพ้ผู้เป็นเจ้าของ แม้จะจ้างเด็กแถวบ้านมาช่วยแต่ก็ไม่เหมือนดูแลด้วยตนเอง

“ได้สิ ฉันจะดูแลชนิดริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม กลางคืนจะกางมุ้ง เปิดเพลงลูกทุ่งให้ฟังด้วย รับรองพ่อช้างจะติดใจ” ชายหนุ่มหัวเราะก่อนจะผุดความคิดดีๆ ขึ้นมา “เอ…ถ้าอย่างนั้น ลุงมาพักฟื้นที่บ้านฉันไหม จะได้แวะไปดูพ่อช้างทุกวัน ถึงวันนัดหมอ ฉันขับรถพามาโรงพยาบาลให้”

ชายหนุ่มเต็มใจเป็นอย่างยิ่งที่จะรับลุงติ๊กมาอยู่ด้วย เขาจะได้ไม่ต้องเทียวมาเทียวไปด้วยความเป็นห่วง

“เออ ไว้ข้าจะลองคิดดู” ชายชราดีใจ ทั้งที่ทำใจแล้วว่าจะต้องแยกจากควายตัวโปรดในไม่ช้า แต่เด็กหนุ่มตรงหน้ากลับช่วยต่อเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันให้ยาวออกไป

นวลปรางค์มาได้ยินเข้าคงแปลกใจ บิดายืนกรานไม่ยอมย้ายมาอยู่ด้วยกัน แต่กลับยินดีไปอยู่กับคนที่ไม่ใช่ลูกในไส้

เหตุผลง่ายๆ พ่อช้างอยู่ที่ไหน หัวใจลุงติ๊กก็อยู่ที่นั่น เป็นความผูกพันลึกซึ้งเกินกว่าที่บุตรสาวซึ่งห่างเหินไปนานจะเข้าใจ



Don`t copy text!