บุษบาลุยไฟ ตอนที่ 31 : คุณชาย

โดย : ปราณประมูล

Loading

บุษบาลุยไฟ โดย ปราณประมูล เรื่องราวของ ลำจวน หญิงสาวผู้ต่อสู้กับค่านิยมทางสังคมในยุค ร.3 เธอลุกขึ้นทำสิ่งที่คนในห่วงเวลานั้นไม่ทำกัน หนทางจึงไม่ได้ราบรื่น หากเต็มไปด้วยอุปสรรคและถ้าไม่ใช่เพราะแรงรักแรงใจที่หนุ่มจีนคนนั้น คงยากที่บุษบาดอกนี้จะไปสู่จุดหมาย ‘บุษบาลุยไฟ’ นวนิยายเรื่องเยี่ยมที่อ่านเอานำมาให้อ่านออนไลน์

แผงขายปลาเค็ม ของเค็มแห้งต่างๆ รวมทั้งปลาสลิด  ปลาแห้ง  ปลากรอบ ที่ตลาดท้องน้ำ  มีทั้งแผงชนิดขายส่ง ขายปลีก จึงมีลูกค้าหนาแน่น

ลำจวนในคราบเฉก ติดตามคุณพุ่มและนางเต็ม มาเลือกซื้อหา อย่างสนุก

“ ปลาแห้ง ปลากรอบของเขมรก็หาได้ที่นี่  ไม่มีใครสู้ หอมควันไฟฟุ้งไปเชียว ”

คุณพุ่มเพลิดเพลินที่สุด

“ พูดแล้วอยากรับทานต้มโคล้งปลากรอบใส่ใบมะขามอ่อน ”

แม่เต็มกลืนน้ำลาย

“ ปลากรอบใหม่ๆดีๆ ตำป่นกับพริกแห้ง คลุกข้าว จิ้มผักสด ก็อร่อยนะเจ้าคะ ”

คุณพุ่มมองหน้า กระแอมเตือน

ลำจวนสะดุ้ง ทำเสียงให้ห้าวแข็งแรงขึ้น

“ อร่อยนะ..ขอรับกระผม ”

“ ลำจวนก็ชอบรับประทานอาหารอย่างลาวหรือ ”

คุณพุ่มเมตตา

“ แม่..ทำกับข้าวอย่างลาวอร่อยมาก.ขอรับกระผม ”

ว่าแล้ว หญิงสาวก็นิ่งไป ด้วยจุกคอขึ้นมากระทันหัน

“ เอ้าๆ พูดถึงแม่ขึ้นมา จะร้องไห้เสียแล้ว โธ่ๆ ”

นางเต็มอ่อนใจ

“ มาๆ เดี๋ยวซื้อปลาสลาดกรอบไปทำพริกปลาป่นกัน ”

คุณพุ่มเอาใจเด็กน้อย ผู้ที่เธอเคลิ้มกับสมมุติจนเห็นเป็นหลานแท้ๆที่พลัดพรากบ้านมาไกลไปเสียแล้ว

 

ขณะที่ฮุนกับครูพุดเสร็จธุระที่วัดโพธิ์แล้ว ก็พากันเดินออกมา

“ ขอแวะซื้อปลาเค็มที่ตลาดท้องน้ำสักหน่อยเถิดขอรับ ไหนๆก็มาแถวนี้แล้ว ว่าจะข้ามฟากไปแวะหาอากงสักประเดี๋ยว ”

ผู้เป็นศิษย์จะพาข้ามถนนไปตลาด หากผู้เป็นครูยั้งไว้

“ อ้าว ไหนว่าจะไปวาดรูปช้างกัน ”

“ เพลานี้หรือขอรับ? ”

ฮุนท่าทางเกรงใจ

“ มิได้ ตอนเย็นๆ เขาจะเอาช้างเผือกจากในวัง ออกมาทางประตูวิเศษไชยศรี มาอาบน้ำที่ท่าช้าง ลื้อมันวาดท่าทางร่างกายแลหน้าตาคนแลสัตว์ ได้อย่างเห็นสีหน้า เห็นความคิดแลอารมณ์ได้ดีนัก เผื่อจะได้บันทึกอาการใหม่ๆของช้างเก็บไว้ใช้บ้าง ไม่เช่นนั้น ก็มีแต่ภาพช้างในตำรา ที่ใช้ลอกตามกันซ้ำๆมานานนม ”

ฮุนพลันรู้สึกสนุกสนาน มีชีวิตชีวาขึ้นมา

“ ดีสิขอรับ เช่นนั้น กระผมขอข้ามไปแวะหาอากงสักชั่วยาม แล้วจะข้ามกลับมาขอรับ ”

 

ทั้งสองเดินเลี้ยวเข้าทางทิศใต้ของตลาด

ในเวลาเดียวกับที่คุณพุ่ม ลำจวนกับแม่เต็มเดินออกมาทางทิศเหนือของตลาด คุณพุ่ม เดินนำ ทว่าหันกลับมาพูดจายิ้มแย้มกับลำจวนเดินเยื้องหลังเป็นระยะ

ครูพุดหันไป แล้วถึงกับหยุดชะงัก ยืนรอชะเง้อมองตาม

“ คุณพุ่ม บุษบาท่าเรือจ้าง ”

ครูพุดคราง

“ บุษบา..ท่าเรือจ้างหรือขอรับ??!! ”

ฮุนรู้สึกแปลกหู

ครูพุดลดเสียงเบา ราวกับกลัวคนรอบข้างจะได้ยิน

“สตรีผู้นั้นแล งามนัก ครั้งนึง..เคยว่าสักรวาเป็นบุษบา โต้กับเจ้าฟ้าพระองค์น้อย..ที่ทรงว่าบทอิเหนา เป็นที่เลื่องลือ ”

“ เจ้าฟ้าพระองค์น้อย? ”

“ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ”

ครูพุดเบาเสียงลงไปอีก เหลือแต่เสียงลม

“ คุณพุ่มเธอเคยเป็นนางเชิญพระแสงอยู่ในวังหลวงมาก่อน แต่แล้วก็กราบบังคมทูลลาออกมาอยู่ที่แพหน้าบ้านเจ้าคุณบิดาเธอ.. เขาจึงเรียกกันว่าบุษบาท่าเรือจ้าง..ได้ถวายตัวเข้าไปถวายรับใช้องค์อิเหนาของเธอนั่นแล..แต่เมื่อฝ่ายนั้นมีเจ้าจอมหม่อมห้ามเพิ่มเติมขึ้นทุกวัน เธอก็ไม่ขอทนเป็นนางบุษบาในวัง ทูลลาออกมาอยู่ที่แพตามลำพัง  กลายเป็นเพียงเป็นบุษบาท่าเรือจ้าง..มีอิสระแก่ตัว ไม่ง้อชายใด แปลกกว่าหญิงใดทั้งนั้น ”

“ แปลกกว่าหญิงใด..ทั้งนั้น..”

ฮุนทวน จิตประหวัดไปถึงลำจวนทันที มิพักต้องใช้ความคิดแม้สักอึดใจ

“ เจ้าคุณบิดาก็ใหญ่โต เป็นขุนนางที่ดีงามแลมีบารมีสูง อีกทั้ง..ตัวเธอ ก็เคยเป็นที่เสน่หาของสุดยอดบุรุษที่ไม่มีชายใดเทียบ แล้วผู้ใดเล่า จักกล้าอาจเอื้อม ”

ฮุนยังตาไว มองเห็นชายร่างเล็ก ที่ติดหน้าตามหลังสตรีผู้มีชื่อเสียงท่านนั้น

“ แต่..บุรุษหนุ่มผู้นั้น..ที่มาด้วยกัน ”

 

ชายหนุ่มมองตามด้านหลังของชายหนุ่มวัยอ่อน ที่กำลังสนทนากับคุณพุ่มใกล้ชิดสนิทสนม ที่พากันเดินไกลออกไปทุกที พลางแกล้งแย้งยั่วล้อครู

“ ก็ดูจะ..สนิทชิดเชื้อกันมากอยู่นะขอรับ ”

ครูพุดหัวเราะเบาๆอย่างเศร้าๆ ยังพยายามเข้าข้างตัวเอง

“ คงเป็นญาติพี่น้องกระมัง ”

แต่แล้วก็ถอนใจใหญ่ เมื่อสำนึกรู้สึกเจียมกะลาหัวขึ้นมา

“ ไอ้เรามันชาวดิน เห็นชาวฟ้าเขาก็ได้แต่ชะเง้อมองห่างๆ ..ถ้าเป็นสมัยก่อน เธอคงออกมาเดินปะปนกับผู้คนบนถนนเช่นนี้ไม่ได้ดอก  แต่นี่..เพราะเป็นคุณพุ่ม ”

ครูหนุ่มใหญ่ถอนใจอีก

ฮุนอดขำไม่ได้

“ ครูถอนใจหลายคราแล้วนะขอรับ ”

ครูพุดหัวเราะปลงๆ

“ ก็ได้แต่ถอนใจนี่แล ”

ฮุนหัวเราะเอาใจ ขณะพากันเดินเลี้ยวเข้าไปในตลาด

 

เพราะมีของโปรดช่วยปลอบใจ ลำจวนจึงพุ่งเข้าครัวทันทีที่กลับถึงแพ  ลงมือโขลกปลาแห้งให้กลายเป็นปลาป่นอย่างละเอียด ขณะที่นางเต็มคั่วพริกแห้งอยู่ด้วยกระทะจีน

นางทองใบถือผักสดที่เก็บจากบริเวณชายน้ำเรือนท่านเจ้าคุณบิดาคุณพุ่ม เดินเข้าครัวมา จามพลาง แล้วหยุดมอง ‘ คุณเฉก ’ อย่างทึ่ง

“ คุณเฉก..ทำกับข้าวเป็นด้วยรือเจ้าคะ

ลำจวนและนางเต็มสะดุ้ง

ลำจวนร้อนตัว รีบบอก

“ เป็นสิ ที่..กรุงเก่า ผู้ชายทำกับข้าวเก่งทั้งนั้นแล ”

“ อิฉันไม่ค่อยเคยเห็นมูลนายผู้ชายเข้าครัว ถ้าพวกบ่าวไพร่ล่ะ ทำเป็นกันทั้งสิ้น ”

ทองใบกล่าวตามซื่อ

คุณพุ่มได้ยิน ต้องรีบเดินเข้ามาแก้

“ เช่นนั้นรือ ทองใบ ข้าเองเป็นหญิง ยังไม่ใคร่เข้าครัวสักเท่าใด นานๆนึกอยากกินของรสชาติเช่นคุณแม่ทำไม่อยากไปรบกวนท่าน ก็ลุกขึ้นทำเองสักที นอกนั้นมีแต่ใช้แม่เต็มเสมอ ”

เธอหันไปพยักหน้าให้หญิงสาวในคราบหนุ่ม

“ ลำจวน แม่ทองใบมาแล้ว ให้แม่ทองใบทำแทนเถิด อาจักพาเจ้าไปดูของแปลก ”

“ ของแปลกรือขอรับ ”

“ ใช่ ชาวบ้านเขามามุงกันทุกวัน เจ้าคงไม่เคยเห็นดอก ”

ลำจวนตาโต

 

ช้างเผือกสามสี่ช้าง  มีคชบาลแวดล้อมดูแลอาบน้ำให้ อยู่ที่ท่าช้างวังหลวง

รอบๆห่างๆ มีชาวบ้านชาวเมือง หญิง ชาย เด็กๆ พ่อแม่อุ้มลูกจูหลานมามุงดูเป็นความบันเทิงน่ารักๆ ประจำวัน

ห่างออกไป ที่คันเขื่อนริมตลิ่ง ฮุน นั่งที่มุมเหมาะ ไม่มีคนบัง ในมือมีสมุดไทย พู่กันเล็ก และขวดหมึก กำลังวาดหน้าตา อวัยวะ ส่วนต่างๆเฉพาะส่วน ไปจนถึงภาพร่างท่าทางต่างๆของช้างอย่างคร่าวๆ รวดเร็ว แม่นยำ

ใกล้ๆกัน ครูพุด ก็กำลังนั่งเขียนช้างในสมุดประจำตัวของตนไปอย่างเพลิดเพลินเช่นกัน

อีกด้านนึง ซึ่งมีเหล่าช้างเผือกขวางกลาง คุณพุ่ม เดินนำลำจวนเข้ามายืนออกับพวกชาวบ้าน

ที่แท้ของแปลกที่เธอชวนหญิงสาวมาดู ก็คือช้างเผือกของหลวงเล่นน้ำนั่นเอง

ทั้งสองไม่ได้มากันลำพัง หากมีนายหมายเดินมาทำหน้าที่ดูแลนายหญิง วางท่ากร่างอย่างสำคัญตนยิ่ง

ช้างเผือกเหล่านี้ เป็นช้างที่ฝึกมาอย่างดี มีสง่า เรียบร้อย คุ้นคน จึงเล่นหยอกล้อกับ

คชบาลอย่างรักสนิท

“ น่าเอ็นดูจริงขอรับ ”

ลำจวนยิ้ม หัวเราะไปกับมุกของคนกับช้าง

“ ช้างเหล่านี้เชื่อง อุปนิสัยอ่อนโยน บ้างก็ขี้เล่น  ดูนั่น งาเดียว ”

คุณพุ่มชี้ เธอมองลำจวนเหมือนเด็กเล็กๆ ที่ต้องหาสิ่งสนุกเพลิดเพลินมาปลอบใจ ให้คลายเศร้า

นายหมายแนะนำ ชี้ให้ดูแต่ละช้าง

“นั่นพระบรมเอกทันต์ขอรับ  ช้างพังเผือกก็มี โน่นพังหงษาสวรรค์ ”

ทางฝั่งฮุนเอง ก็เขียนพลายงาเดียว และช้างพังที่ไม่มีงา ในท่าต่างๆไว้หลายภาพ

“ ชื่อไพเราะจริง

“ ใหญ่ที่สุด  คือพระบรมคชลักษณ์ ”

นายหมายบรรยายอย่างภาคภูมิ

ภาพบนสมุดของฮุน ก็มีภาพท่านช้างใหญ่ ในท่าสง่างามเหนือช้างอื่น

“ นายหมายรู้ชื่อทั้งหมดหรือ ”

ลำจวนเลื่อมใส

“ เป็นบางตัวขอรับ ตัวที่โดดเด่น กระผมจึงจำได้ ”

คุณพุ่มหันมามองนายหมาย มีแววติติงนิดๆ ก่อนจะออกปากสอนทุกคน

“ ลักษณะนามเรียกช้าง ถ้าเป็นช้างป่า เรียก..ตัว  หนึ่งตัว ห้าตัว  ถ้าช้างบ้าน ที่เราไปคล้องมาเลี้ยงไว้ใช้งาน ทำนาเอย ลากซุงเอย  เรียกว่าเชือก เช่นท่านเจ้าคุณมีช้างกี่เชือก แต่ช้างเผือก ช้างทรง ช้างต้น เรียกว่าช้าง เช่น มีช้างอาบน้ำอยู่สิบช้าง ”

นายหมาย รวมทั้งลำจวนด้วย พยักหน้ารับรู้ ต่างพึมพำขอรับๆเบาๆ

 

เมื่อครูพุดเขียนภาพหลังขดหลังแข็งจนเมื่อย  จึงเงยหน้าขึ้นมา พร้อมกับเหยียดแขนบิดหลังบิดเอว เมื่อมองรอบๆ สายตาก็พลันกวาดผ่านเห็นคณะของคุณพุ่มพอดี

ครูพุดกระโดดยืน เริงร่า ตาพราว

“ อ้าว วันนี้วาสนาดีแท้ นางฟ้าลอยลงมาให้ยลอีกรอบ คราวนี้เต็มๆตาเลยเจียว ”

ฮุนเงยมา มองตามสายตาครูพุด

เขาเห็นคุณพุ่ม และ..ชายหนุ่มน้อยที่ยืนเคียงกัน

ครูพุดกระซิบกระซาบ

“ คุณพุ่ม ก็มาดูช้างเผือกเหมือนกัน

ครูพุดนั่งลงใหม่ พลิกหน้าสมุด ลงมือร่างรูปคุณพุ่มปราดๆ

แต่ฮุนยังตะลึงมองดูหนุ่มน้อยผู้นั้นตาไม่กระพริบ

พ่อหนุ่มนั้นกำลังคุยจ้อกับคุณพุ่ม ชี้ชวนดูช้างที่ร่าเริง พ่นน้ำแกล้งคชบาล

เขาผู้นั้นกำลังหัวเราะขำ เห็นฟันขาวสะอาด..ไม่เหมือนผู้ใดเลย

“ คล้าย..คล้ายเหลือเกิน ”

ฮุนรำพึงดัง

ครูพุดยิ้มดีใจ ยื่นสมุดที่ตนวาดคุณพุ่มคร่าวๆ มาอวดตรงหน้า ให้ฮุนดูถนัดๆ

“ เหมือนมากจริงไหม พิศถ้วนอรลักษณ์พักตรา ดังหยาดฟ้ามาแต่กระยาหงัน ”

ฮุนดูรูป งง เพราะพูดกันคนละเรื่อง เขากระพริบตา ตั้งใจดูภาพนั้นเอาใจครู

“ ครูวาดใครหรือขอรับ ”

“ อ้าว ก็บุษบาท่าเรือจ้างอย่างไรเล่า งามดุจดวงจันทร์บนฟากฟ้า ส่วนข้าก็ได้แต่ชมภาพ..ดุจจรกา..ซึ่งเป็นเพียงกระต่ายที่แหงนหน้าชะเง้อมองจากป่าละเมาะสักแห่งบนผืนพิภพนี้ ”

ครูพุดเพ้อ

แต่ฮุนวางสมุดและพู่กันลง ลุก และเดินรี่ไปหาเป้าหมายทันที

ครูพุดตกใจ

“ บ๊ะ  อ้ายเด็กนี่  ไม่รู้ที่ควรไม่ควรเสียแล้ว ”

ฮุนเดินลัดเลาะฝ่าไปหลังขบวนเหล่าช้าง แหวกผู้คน เพื่อเข้าไปดูชายหนุ่มที่อยู่กับคุณพุ่มใกล้ๆ

ลำจวนหันมา เห็นฮุนที่เดินอ้อมหลบหลีกช้าง ตรงเข้ามา หญิงสาวผงะ ตกใจแทบสิ้นสติ นิ่งขึงตะลึงงัน ยืนตัวแข็งทื่อ

ฮุนมองตรงมาที่ลำจวน เดินใกล้เข้าไปทุกทีๆ

ลำจวนตั้งตัวไม่ทัน ทำอะไรไม่ถูก จะวิ่งหนีไปเสียเฉยๆ ก็จะอาจจะทำให้เขาจับได้ว่าเป็นเธอจริงๆ

ฮุนสบตาลำจวน เห็นแววตาแตกตื่น ก็ยิ่งฉงน ร้อนใจ ยิ่งอยากรู้ความจริง  นั่นลำจวนชัดๆ ลำจวนแน่ๆ ไม่เป็นอื่นไปได้

ลำจวนหันหลัง อยากจะวิ่งไปเสียทันที แต่ก็หยุดเพียงนั้น จะทำอย่างไรดีๆ สมองของหญิงสาวคิดหาหนทางอย่างเร่งด่วน

เธอหันกลับมามองเขา พบว่ายังมีกลุ่มคนขวางอยู่ระหว่างเธอกับฮุน หรือว่า..

ลำจวนค่อยๆถอย ช้าๆ

คุณพุ่มสังเกตเห็นอาการหันรีหันขวางพิกลของหญิงสาว เธอมองหน้าลำจวน แล้วหันไปมองตามสายตาลำจวน

ชายหนุ่มจีนผมเปีย ท่าทางองอาจ ผ่าเผย และร้อนรน เดินเข้ามาหาลำจวน

ลำจวนขยับเข้าใกล้คุณพุ่ม ตั้งสติ ตัดสินใจปักหลักยืน แล้วหันไปมองฮุนใหม่ ด้วยดวงตาและสีหน้าว่างเปล่า มีความสงสัย งุนงงนิดหน่อย

ไม่น่าเชื่อ ว่าการแสดงเช่นนั้น กลับทำให้ฮุนชะงัก ลังเล ไม่มั่นใจขึ้นมา

“ คุณ.. ”

ลำจวนทำเสียงแข็ง

“ มีอันใด ”

เธอมองเขาหัวจรดเท้า

“ เจ้าต้องการอันใด มองหน้าข้า ไม่เคยเห็นผู้คนรือ? ”

คุณพุ่มออกจะตกใจกับท่าทีแข็งกร้าวของหญิงสาวผู้นี้ ที่เธอไม่เคยเห็น

เธอเดาไว้ก่อน ว่าลำจวนอาจจะไม่อยากถูกจดจำได้ในฐานะลำจวน จากชายจีนนี้

“ รู้จักกันหรือ เจ้าเฉก? ”

คุณพุ่มตั้งใจ  ที่จะเรียกชื่อใหม่ของหญิงสาวเสียงดัง ชัดถ้อยชัดคำ ฟังดูเป็นการเป็นงานให้อีกฝ่ายได้ยิน

“ มิได้ขอรับ คุณอา ”

ลำจวนรับมุก เชิดหน้า ทำสายตาเหยียดหยามรังเกียจ

“ หลานไม่เคยรู้จักมักจี่จีนผมเปียที่ไหนดอก ”

ฮุนหน้าเสีย แน่นอน ที่ลำจวน ย่อมไม่มีวันมองเขาด้วยลักษณาการเช่นนั้น

“ ขออภัย กระผมนึกว่า..เป็น คนที่กระผมรู้จัก ”

ชายหนุ่มทำเสียงผิดหวังขื่นขม

“ แต่ไม่ยักใช่.. ”

ลำจวนหวั่นไหว ทว่ายิ่งต้องกัดฟัน ฝืนตีหน้าหยิ่งเข้าไว้

โชคดี ที่นายหมายก้าวอาดๆมาขวางทันที

“ ก็มิใช่ล่ะซี ถอยไป นี่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงรือ ”

นายหมายเงยมองฮุน เพราะฮุนตัวสูงกว่ามาก แต่บ่าวผู้ภักดีเบ่งตัวขยายพร้อมรบ ดุจปูก้ามดาบ

พอดี ครูพุดตามมาถึง รีบเข้ามาจับแขนฮุน

“ เจ้าฮุน  ระวังตัว มีมารยาทหน่อย ”

ครูช่างเขียนหนุ่มใหญ่ มองคุณพุ่ม กวีสาวใหญ่ ด้วยแววตานิยมชมชื่น แล้วก้มหัว แสดงความเคารพนับถืออย่างเจียมใจ

“ ขออภัยเถิดขอรับ  เจ้าเด็กจีนนี้ มันไม่มีมารยาทเอาเสียเลย ”

ฮุนยังคงพยายาม

“ นายท่านนี้..มีญาติ..เป็นหญิง ชื่อลำจวนหรือไม่ ”

ลำจวนสะท้านใจ แต่ตอบออกไปอย่างมะนาวไม่มีน้ำ

“ ไม่มี! ”

ครูพุดแอบพินิจพิจารณาลำจวน ในการมองปราดเดียว แต่ปากพูดไปอีกอย่าง

“ ชะดีชะร้าย เจ้าฮุนคงจำคนผิด ไป ฮุน เดี๋ยวก็โดนหวายลงหลังจนได้ ”

เขารีบดึงลูกศิษย์หนุ่มไป

ลำจวนมองตามไป ใจหนึ่งนั้นดีใจที่ได้พบกัน อีกใจหนึ่งเสียใจที่ต้องทำร้ายจิตใจเขา

หญิงสาวสับสนวุ่นวายใจอย่างหนัก

คุณพุ่มมองลำจวน เห้นความผิดสังเกตไปเสียทุกสีทุกอย่าง

 



Don`t copy text!