ธามทศ ล่ากฎหลอน บทที่ 28 : อำนาจ

ธามทศ ล่ากฎหลอน บทที่ 28 : อำนาจ

โดย : ไข่เจียวหมูสับ

Loading

ธามทศ ล่ากฎหลอน โดย ไข่เจียวหมูสับ หรือ สรสิทธิ์ เลิศขจรสุข กับเรื่องราวของธามทศและเมืองสมมติที่เต็มไปด้วยกฎแปลกๆ ที่อันตรายถึงชีวิต เขาจะเอาชีวิตรอดจากกฎหลอนที่ว่าไหม ตัวแปรมากมายที่เข้ามาเกี่ยวข้องจะทำให้เขาต้องทิ้งลมหายใจในเมืองสมมติแห่งนี้หรือเปล่า อ่านนวนิยายออนไลน์จากอ่านเอาได้ใน anowl.co

ดิวาห์สูญเสียทุกสิ่งในวันที่ฤทธิ์จากไป เด็กน้อยที่เขารักเหมือนน้องชายหายตัวโดยไม่ร่ำลา เพื่อนร่วมโครงการล้มลงและไร้สตินับสิบปี พ่อเลี้ยงที่ตนรักและห่วงใยก็เข้าสู่สภาวะโคม่า

ไม่เหลืออะไรให้ยึดเหนี่ยวอีก นอกเสียจากตัวเอง

ดิวาห์ไม่อาจยอมแพ้ได้ เขามีครอบครัวต้องดูแล มีพนักงานในองค์กรที่ต้องรับผิดชอบ และห้อมล้อมด้วยกรรมการบริษัทที่จ้องจะยึดสินทรัพย์ทั้งหลายของธุพาณไป  เด็กชายวัยเพียงสิบเอ็ดต้องรับทุกอย่างมาไว้กับตัว และหาทางเอาตัวรอดทุกวิถีทาง ไม่ว่าจะชั่วร้ายปานใดก็ตาม

แม้ในปัจจุบันที่ทุกอย่างลงตัว ก็ยังมีหลายคนที่ตั้งใจจะฮุบกิจการของธุพาณ และเฉดเขาออกไปจากอำนาจชั่วคราวนี้ ไอ้พวกกรรมการกับผู้ถือหุ้นชั้นเลวที่ไม่เคยสร้างผลงานจริงจังและหวังแต่เงินปันผล

แต่เคราะห์ดีที่เขาประสบความสำเร็จในการส่งพวกมันไปเจอกับกฎที่ธุพาณสร้าง มันง่ายดีจริงๆ และกฎหมายก็ไม่สามารถเอาผิดใครได้ ผู้ต่อต้านก็แค่หายไปเฉยๆ หรือไม่ก็กลายเป็นศพที่ถูกบี้ติดกับกำแพง

ในวันที่ฤทธิ์ติดต่อเข้ามาทางอีเมลของธุพาณ เขาเป็นผู้เปิดอ่าน และได้รับรู้ถึงสาเหตุที่เพื่อนร่วมโครงการกับพ่อเลี้ยงต้องโคม่า มันเป็นผลมาจากกฎที่ฤทธิ์สร้างขึ้นนั่นเอง

อีพินธาคงเป่าหูฤทธิ์ให้ทำอย่างนี้สินะ นังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เอ๊ย

ดิวาห์ให้ความร่วมมือกับฤทธิ์ หรือต้องเรียกด้วยชื่อใหม่ว่าธามทศ เพื่อแก้ไขปัญหาและช่วยเพื่อนร่วมโครงการ แม้เขาจะไม่เห็นด้วยกับความคิดนั้นก็ตาม แต่จะปล่อยพวกน้องๆ ให้อยู่ในสภาพเช่นนั้นก็ทำใจไม่ลง หากตนไม่ช่วย ตัวธามทศเองก็คงดื้อดึงจะไปลุยกับกฎพวกนั้นเองอยู่ดี และคราวนี้คงตายแบบไม่พบศพแน่

และเมื่อได้รับการสนับสนุน ธามทศก็ทำภารกิจได้เป็นอย่างดี

ทว่ามันต้องแลกมาด้วยอะไรล่ะ…ถึงบัดนี้เขาก็ยังไม่แน่ใจ

เมื่อธามทศเคลียร์ กฎการทำงานในห้องฝ่ายบัญชีและการเงินหลังเที่ยงคืน’ ได้ คืนนั้นธุพาณก็ได้สติ แถมกลับมาพร้อมกฎใหม่ที่น่าสะพรึงกลัวและยังฟื้นตัวอย่างรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ธามทศทำภารกิจสำเร็จ

บางทีการปล่อยให้ธุพาณนอนนิ่งอยู่อย่างนั้นอาจจะดีกว่า แต่ว่าเขาย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว

 

มุมขวาของหน้าจอแล็ปท็อปปรากฏกล่องข้อความจากเฟด แจ้งว่าอาการของวิคเตอร์ไม่สู้ดี ชีพจรเต้นแรงมาก ในฝันคงถูกทำร้ายอย่างสาหัสแน่

ดิวาห์ลุกขึ้น เดินไปหาธุพาณที่ห้องส่วนตัวหรูในโรงแรมริมทะเล ทั้งสองมาคุยธุรกิจกับคู่ค้าและถือโอกาสมาพักที่ต่างจังหวัดเป็นเวลาสองวัน พรุ่งนี้จึงจะกลับ

การคุยธุรกิจเคยเป็นงานของเขาคนเดียว

ในห้องสีขาว พ่อเลี้ยงกำลังทานเนื้อไก่สดๆ อย่างเอร็ดอร่อย ตามด้วยเลือดของสัตว์อะไรสักอย่างที่เป็นสีดำ ไม่แน่ใจว่าเป็นผลจากที่ของเข้าตัวอยู่นานหรือเป็นผลข้างเคียงจากการทำสัญญากับผีสองตัว

ปลายนิ้วของธุพาณบรรจงชี้ไปที่ผีหญิงห่มเลือดที่กำลังนั่งกอดเขาอยู่ที่มุมห้อง ท่าทางหวาดกลัว

“มันมาแจ้งเตือนภัยร้าย แต่ดูท่าเส้นเสียงจะฉีกไปแล้วจึงบอกอะไรไม่ได้ เอาเลือดเขียนใส่กำแพงก็ไม่ได้ความอะไร” พ่อเลี้ยงของเขาดูท่าไม่ยี่หระ แถมยังดูขบขันด้วยซ้ำ “ท่าทางจะเป็นแผลจากคัตเตอร์เวรนั่น”

“ร่างของพ่อเป็นแบบนี้ คงไม่ต้องกังวลเรื่องภัยถึงชีวิต ภัยที่กำลังเข้ามาคงเป็นเรื่องทรัพย์สินมากกว่า…ดูท่าธามทศคงพยายามจะเล่นงานธุรกิจของเราอยู่”

ผิดคาด คิดว่าหากพูดไปเช่นนี้ธุพาณจะดาลเดือดเลือดพล่าน แต่เปล่าเลย กลับดูใจเย็นกระทั่งน่าสยองจิต

“ฉันเกลียดขี้หน้ามันก็จริง แต่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะทำอะไรได้”

“แต่ว่า…” ดิวาห์พูดไม่ออก ความประมาทคือคำจำกัดความของธุพาณอยู่แล้ว

เขาแจ้งเรื่องของวิคเตอร์ และได้รับคำตอบกลับว่า “ลดยาลงให้มันฟื้นขึ้นสักพัก และค่อยฉีดเข้าไปใหม่ อย่าให้มันตายละกัน แม้สัญญาชุดใหม่ที่ทำจะส่งผลให้ฉันไม่ถูกของเข้าตัวอีกแม้ว่าพวกมันจะตายห่าไป แต่ฉันก็บอกกับพวกผีๆ ไว้ว่าจะเลี้ยงไปเรื่อยๆ ให้นานที่สุด ยิ่งช่วงนี้ยังไม่มีโอกาสหาคนมาใหม่เสียด้วย ดูท่าพินธามันจะเคยแจ้งเรื่องนี้กับทางหน่วยงานคุ้มครองเด็ก แม้จะไม่มีใครรับฟ้องก็เถอะ แต่ฉันก็ยังไม่อยากเคลื่อนไหวในเวลานี้”

“อีกอย่าง”  ธุพาณทำท่าราวกับเพิ่งนึกอะไรออก “ฉันเพิ่งคุยกับดีไซเนอร์คนใหม่ชื่อชาลส์ จะให้มาแทนหัวหน้าทีมคนเก่าที่มันเสือกนินทาฉัน”

กำลังจะอ้าปากโต้กลับไปว่าหัวหน้าทีมออกแบบคนเดิมนั้นมีความสามารถเหมาะสม แถมยังเป็นที่เชื่อใจของลูกค้า แต่ก็เลือกเงียบไว้ดีกว่า เพราะสายตาที่ธุพาณส่งมาถือเป็นคำตัดสินสูงสุด

ดิวาห์ทำได้เพียงพยักหน้าแล้วส่งข้อความไปที่สมาร์ตโฟนของเฟด แต่เหมือนธุพาณยังไม่หมดเรื่องคุย

“อย่าลืมส่งวิธีควบคุมระบบ ‘เครือข่าย’ งานทั้งหมดให้ฉันด้วย จะได้ไม่ต้องสั่งงานผ่านแก และหลังจากนี้ก็เตรียมตัวกับฝ่ายโฆษณาด้วย ฉันกะจะออกรายการออนไลน์เสียหน่อย ว่าจะสอนพวกเด็กรุ่นใหม่ว่าทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จเหมือนธุพาณ คอนเนอร์” นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ธุพาณกล่าวกับดิวาห์ ก่อนจะหันไปทานอาหารดิบต่อ

“ได้ครับ ขอเวลาสักสามสัปดาห์ในการเคลียร์กับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง”

ธุพาณโบกมือไล่โดยไม่มองหน้า

แม้จะตื่นจากโคม่าก็ยังถูกบังคับให้หลับเพื่อโดนทรมานต่อ ในสายตาของธุพาณแล้ว คนอื่นๆ คงเป็นแค่เครื่องมือสู่ความยิ่งใหญ่ รวมถึงตัวเขาเองด้วย

“พ่อเลี้ยงครับ…” เขาเรียกด้วยน้ำเสียงเจือความหวังดี “กฎการลองดีในห้างสรรพสินค้า รูล แอนด์ รอส นั้นยากกว่าทุกกฎที่ธามทศเจอมา เขาคนเดียวไม่มีทางรอดหรอกครับ”

ธุพาณกระแอมหนึ่งครั้ง เป็นสัญญาณว่ารู้แล้ว และอย่าพูดอะไรอีก

ดิวาห์ผงกหัวและหันกลับไป เดินออกจากห้อง เขาทำหน้าที่ของพี่ชายอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องกวนใจที่สุดในเวลานี้หรอก…

ไร้อำนาจ นั่นคืออารมณ์ที่กำลังรู้สึก การกลับมาของธุพาณลิดรอนอำนาจในกิจการไปเรื่อยๆ

ภารกิจของธามทศต้องแลกด้วยอะไรงั้นหรือ คำตอบนั้นชัดเจนมาตั้งแต่แรกแล้ว ‘อำนาจยังไงล่ะ’

 

วินิมัยนัดพบกับกานต์และริลนาที่ร้านกาแฟซึ่งจัดเป็นสวนหย่อมกลางแจ้ง แสงแดดและกลุ่มวัยรุ่นที่คอยถ่ายรูปเซลฟีช่วยให้เบาใจลงได้หน่อย ผีสองตัวคงไม่โผล่มาในที่แบบนี้

เธอนั่งเหม่อลอยสองสามนาที กังวลว่าธามทศคงไปที่ห้างร้างตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้เลย ไม่ทราบว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง แต่รู้ดีว่าคิดไปก็ไม่ช่วยอะไรจึงเริ่มสนใจเรื่องตรงหน้าก่อน พลางหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมาสแกนสั่งอาหาร ถ้าท้องหิวก็ทำงานใหญ่ไม่ได้

ร้านค่อนข้างสวย โต๊ะเก้าอี้เป็นสีขาวที่สะอาดเกินคาด ทีแรกคิดว่าจะมีเศษขี้นกเปื้อนอยู่เสียอีก เธอสั่งชาร้อนและพายทูน่า นั่งทานไปรอไปพักหนึ่งทั้งสองคนก็มาถึง

“ดีใจที่คุณทั้งสองคนไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร” เธอส่งเสียง ไม่กล้าทักว่ากานต์ซูบไปนะ ชายหนุ่มน่าจะผอมลงไปสักสามกิโลได้แล้ว

กานต์ขยับเก้าอี้ให้ริลนานั่ง จากนั้นจึงหย่อนตัวลงเก้าอี้ข้างๆ อย่างอ่อนล้า “ดูท่าว่าทางผมจะยังสืบไม่ถึงส่วนสำคัญ แต่ทางคุณมัยดูท่าจะหนักอยู่” เขาชี้ที่แผลตรงไหปลาร้าซึ่งมีพลาสเตอร์สีขาวแปะอยู่ สายตานั้นโคตรห่วงใย

นอกจากแจ็กเก็ตไหมพรมแล้ว เธอสวมสายเดี่ยวสีแดงกับกางเกงขาบานสีขาว ไม่ได้รู้สึกอยากจะปิดปังแผลอะไร

“คัตเตอร์ใช้ได้ผลดี เลยไม่เป็นอะไรมาก”

“คุณภาณะแจ้งมาว่าตอนนี้ที่เฮลป์เปอร์กำลังวุ่นกว่าเดิมอีกครับ พอไม่มีประธานมาคุมก็แทบไม่มีใครสั่งการได้”

เธอฟังแล้วกุมขมับแม้จะทราบอยู่แล้วก็ตาม “นั่นสิ ยังมีคนที่ดวงซวยไปเจอกฎสยองอยู่ทุกวัน กฎใหม่ๆ ก็ปรากฏขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรเสียเฮลป์เปอร์ก็ยังเป็นหน่วยงานที่จำเป็นกับสังคมอยู่”

ถ้าเป็นไปได้ก็ควรรีบหาพินธาให้เจอ รวมถึงต้องหยุดธุพาณด้วย แต่ต้องทำอย่างไรล่ะ

ทั้งสองคนเริ่มสั่งอาหารและเครื่องดื่ม จากนั้นจึงคุยธุระกันต่อ

“อาเนีย ฮัมมิง งั้นหรือครับ”

“ใช่ ฉันลงทุนหาข้อมูลในห้องทำงานกลางดึก เพื่อรอดูว่าจะมีผีตนไหนมาเล่นงานบ้าง และก็มีจริงๆ ด้วย”

“เลยพิสูจน์ได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงพิสูจน์ได้ด้วยว่ามีดคัตเตอร์ของธามทศทำร้ายพวกมันได้” กานต์กล่าว

วินิมัยยังมีเรื่องที่สงสัย “ทั้งที่พวกมันควรจะคาบข่าวไปบอกธุพาณตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้เรากลับยังไม่ตายห่า นั่นแสดงว่าที่เสียบคอไปได้ผล แผลนั่นทำให้ผีหญิงสาวไม่อาจสื่อสารได้ ผีเปรตเองก็พูดไม่ได้อยู่แล้ว หรือไม่อย่างนั้น ตัวธุพาณเองคงมองว่าเรายังไม่เป็นภัย”

“บางทีอาจเกี่ยวข้องกับดิวาห์ก็ได้ครับ อาจจะบอกธุพาณว่าเรายังจำเป็นกับภารกิจของธามทศอยู่ แต่นั่นผมก็แค่เดาเอาเองนะ” กานต์กล่าวเสียงขรึม

“งั้นถ้าลองติดต่อหาผู้หญิงคนนี้ เราก็อาจจะได้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับธุพาณมาสินะ” ริลนาดูลังเล “แต่นั่นก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับการหาจุดอ่อนของเขาเจอเลย”

ประโยคนั้นถูกต้องโดนใจ วินิมัยไม่อาจเถียง “แต่เราก็ไม่มีทางเลือกแล้วค่ะ จะถูกธุพาณฆ่าปิดปากเมื่อไรก็ไม่แปลกแล้ว มีดกับแสงแดดอาจช่วยให้ปลอดภัยก็จริง แต่ถ้ามาระหว่างขับรถหรือเวลาหลับก็คงตายแน่นอน”

และเรื่องนั้นก็เป็นสาเหตุให้วินิมัยนอนไม่หลับในช่วงหลายวันนี้ เมื่อดูจากสีหน้าอิดโรยของกานต์และริลนาแล้ว คงไม่ต่างกับเธอหรอก

“แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็หาวิธีติดต่อไม่ได้เลย ผู้บริหารระดับนี้คงไม่ให้เบอร์ส่วนตัวกับใครง่ายๆ ถ้าจะรอให้เจ้าหน้าที่ส่งเรื่องไปถึงคงไม่มีวันได้คุยหรอก”

น่าสงสัยที่กานต์ไม่ได้แสดงความวิตก แต่กลับหยิบสมาร์ตโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกง มันเป็นเครื่องของพินธา จากนั้นจึงลองค้นหาเบอร์โทรที่ถูกบันทึกไว้

“ผมเคยสำรองข้อมูลทั้งหมดของเครื่องนี้ เลยเห็นอะไรผ่านสายตามาบ้าง แล้วเมื่อคืนพอได้ชื่อมาจากคุณมัยก็ว่าคุ้นอยู่ แต่ผมเกรงเรื่องผีสองตัว จึงยังไม่ได้ลองค้นดูอีกที” กานต์เลื่อนไปถึงส่วนที่ต้องการให้ดู แล้วยื่นมาตรงหน้าวินิมัย มันคือเบอร์ติดต่อถึงใครคนหนึ่งซึ่งถูกตั้งชื่อว่า ‘อาเนีย ฮัมมิง บริษัท ไนน์ อดอร์’

“ก่อนที่จะหายตัวไป ประธานต้องเคยติดต่อไปหาผู้หญิงคนนี้ หรือไม่ก็อาจจะกำลังติดต่อไปก็เป็นได้ครับ

กานต์เห็นปฎิกิริยาของทั้งสองแล้วก็กังวล ตนพูดอะไรผิดไปหรือเปล่านะ แต่แล้ววินิมัยก็บอกว่า “รีบโทรไปเลย”

“แล้วเราจะคุยกับเธอยังไงดีคะ” ริลนายังดูลังเลไม่หาย แต่กานต์ทราบดีว่าวินิมัยจัดการได้ พอหันไปถามด้วยสายตา หญิงที่แอบรักก็ยิ้มและพยักหน้า พลางหยิบสมาร์ตโฟนไปจากมือเขาอย่างนุ่มนวล รู้สึกไปเองมั้งว่าเธอจงใจแตะถูกฝ่ามือเขาเบาๆ

วินิมัยกดเบอร์ติดต่อ พร้อมเปิดสปีกเกอร์โดยไม่กลัวว่าคนในร้านจะได้ยินไปด้วย และปลายสายกดรับแทบจะในทันที กานต์ที่ยังไม่ทันได้ใจเต้นถึงกับต้องรีบเขยิบตัวเข้ามาใกล้โต๊ะ

มีเสียงกระซิกนำหน้ามา

“…ไหนทางคุณแจ้งว่าฉันยังมีเวลาอีกสองอาทิตย์ไง อย่างนี้มันผิดสัญญานะ” เสียงที่เหมือนพวกหยิ่งยโสกำลังร่ำไห้ของอาเนีย ฮัมมิงทำให้วินิมัยหลุดยิ้มออกมา แม้ปลายสายจะทวงถามสัญญาอะไรสักอย่าง แต่ดูแล้วไม่น่ามีอำนาจต่อรองอะไร

เมื่อเห็นว่าได้เปรียบ แม้ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร วินิมัยก็เริ่มเนียนในทันที “ทางคุณพินธาไม่ประสงค์จะต่อรองแล้วค่ะ อย่าลืมว่าเราไม่จำเป็นต้องพึ่งคุณคนเดียว”

“คุณเป็นใครกัน อะไรน่ะ คุณพินธาไม่สนเรื่องของฉันแล้วงั้นหรือ!”

บิงโก เขาแอบปรบมือครั้งหนึ่งแบบไร้เสียง

“ถ้าคุณไม่รีบจัดการ ถือว่าเรื่องที่เราเคยคุยเป็นอันยกเลิก” วินิมัยเสี่ยงอีกครั้ง

แล้วก็ได้ผล ปลายสายกรีดร้องฟูมฟาย เล่นเอาวินิมัยรีบกดลดเสียงแทบไม่ทัน ยังดีที่ร้านนี้ตกแต่งสวยงามกระทั่งดึงความสนใจของผู้ใช้บริการรายอื่นไปหมด

“ได้โปรด อย่าเอาเรื่องนั้นไปบอกใครเลย ฉันรักลูกจริงๆ ฉันจะลาออกอยู่แล้ว ถ้าเรื่องนั้นถูกปล่อยสู่ภายนอก ไอ้สามีชั่วนั่นจะได้ลูกฉันไป คุณพินธาเองก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกนี้ไม่ใช่หรือคะ”

คราวนี้ทั้งสามคนสลดลงทันที

งั้นหรือ ประธานพินธาคงใช้เรื่องสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกในการต่อรองสินะ

สลดได้เพียงไม่นาน อาเนียก็เงียบปากไปพร้อมมีเสียงอะไรเล็กน้อยจากอีกฝั่ง ไม่นานหน้าจอสมาร์ตโฟนก็แจ้งว่ามีข้อความถูกส่งเข้ามา และมันเป็นลิงก์เข้าสู่เว็บไซต์ ‘dsun.horrorlive.com’

“รหัสและชื่อสำหรับล็อกอินคือเบอร์โทรนี้ ฉันทำตามสัญญาแล้ว ได้โปรดเวทนาฉันหน่อยนะ” อาเนียส่งท้ายแล้ววางสายไป

วินิมัยเอาลิงก์ให้เขาและริลนาดู

ริลนาที่คุ้นเคยกับพวกนี้น้อยสุดในสามคนถึงกับหน้าซีด “เว็บต้องสาปอีกแล้วหรือคะ’

“ไม่น่าใช่ครับ…มันเป็นลิงก์ที่เชื่อมต่อเครือข่ายของกล้องวงจรปิดหรือกล้องถ่ายทำรายการ” กานต์จำได้เพราะมันมีลักษณะคล้ายลิงก์ที่ทางฝ่ายไอทีชอบใช้

“กดเข้าไปเลย” วินิมัยกล่าว “ถ้ามันอันตรายจริง ทางอาเนียคงเตือนไปแล้ว”

นั่นฟังเหมือนเข้าข้างตัวเอง แถมยังเสี่ยงมากด้วย กานต์แอบแย้งในใจ แต่ก็เห็นว่าที่เงาของต้นไม้ซึ่งอยู่นอกร้าน มีบางสิ่งกำลังหลบอยู่อย่างเงียบเชียบ

ผีหญิงห่มเลือด! กำลังคว่ำกายลงบนพื้น เล็บมือเท้าจิกดิน เงยหน้ามองมาอย่างดุดัน ท่าทีเหมือนสัตว์ป่าคอยเวลาขยุ้มเหยื่อ ไกลออกไปด้านหลังคือผีเปรตทมิฬ ทำท่ากินเลือดเนื้อ แต่ยังฝ่าแสงแดดเขามาไม่ได้

ไม่นานทั้งสองตัวก็จางหายไป

แต่ถ้าธุพาณฟื้นเต็มที่แล้ว แดดแค่นี้คงไม่ใช่ปัญหา กานต์คิดแล้วก็เสียวไส้ หันไปทางวินิมัยเพื่อถามทางสายตา

“ฉันก็เห็นเหมือนกัน นั่นแสดงว่าลิงก์นี้เป็นภัยกับธุพาณแบบสุดๆ เลยละ”

 



Don`t copy text!