ธามทศ ล่ากฎหลอน บทที่ 22 : เลี้ยงดู ผีเปรต และผีสาวห่มเลือด

ธามทศ ล่ากฎหลอน บทที่ 22 : เลี้ยงดู ผีเปรต และผีสาวห่มเลือด

โดย : ไข่เจียวหมูสับ

Loading

ธามทศ ล่ากฎหลอน โดย ไข่เจียวหมูสับ หรือ สรสิทธิ์ เลิศขจรสุข กับเรื่องราวของธามทศและเมืองสมมติที่เต็มไปด้วยกฎแปลกๆ ที่อันตรายถึงชีวิต เขาจะเอาชีวิตรอดจากกฎหลอนที่ว่าไหม ตัวแปรมากมายที่เข้ามาเกี่ยวข้องจะทำให้เขาต้องทิ้งลมหายใจในเมืองสมมติแห่งนี้หรือเปล่า อ่านนวนิยายออนไลน์จากอ่านเอาได้ใน anowl.co

กฎแห่งการเลี้ยงดูผีเปรตทมิฬและผีสาวห่มเลือด

ถึงท่านที่ต้องการเลี้ยงดูผีทั้งสองตนนี้ ขอแจ้งให้ทราบว่าแม้พวกมันจะสามารถบันดาลความเจริญและความสุขมาให้ท่านอย่างสุดจะเชื่อ แต่ก็ต้องแลกกับกฎบางอย่างที่ท่านต้องทำตามอย่างเคร่งครัด มิเช่นนั้นพวกมันจักเป็นภัยต่อตัวท่านเอง

ลักษณะโดยทั่วไป

๑. ผีเปรตทมิฬ

ผีเปรตจะมีลักษณะคล้ายมนุษย์ เพศสภาพเป็นชาย ร่างผอม ตัวสูงเกินธรรมชาติ บางครั้งอาจปรากฏในลักษณะที่สูงหลายสิบเมตร แต่ส่วนใหญ่จะมีความสูงที่ประมาณเจ็ดเมตรและอาจแปรผันตามความสูงของเพดานหรือฝ้าที่กันไว้ได้ ตัวสีคล้ำออกดำ ปากเล็กเท่ารูเข็มและชอบส่งเสียงโหยหวน ฝ่ามือใหญ่และหนา โดยทั่วไปจะมีความเร็วและกำลังกายไม่ต่างกับคนธรรมดามากนัก แต่หากโกรธหรือไม่พอใจจะสามารถฉีกกระดูกคนได้โดยไม่ลำบาก

๒. ผีหญิงห่มเลือด บ้างเรียกว่าผีสาวห่มเลือด เพศสภาพเป็นหญิงเปลือยกายแต่มีเลือดท่วมร่าง จึงดูเหมือนกำลังสวมชุดสีแดงอยู่ ตาข้างหนึ่ง (มักเป็นตาขวา) มีตะปูปักทะลุเข้าไปที่ลูกตาดำ ความสูงนั้นเท่ากับคนธรรมดา ผิวซีด มีผมสีดำ โดยทั่วไปจะมีความเร็วและกำลังกายสูงกว่าคนธรรมดาพอสมควร แต่หากโกรธหรือไม่พอใจจะสามารถฉีกกระดูกคนได้โดยไม่ลำบากเช่นเดียวกับผีเปรตทมิฬ

กฎที่ท่านต้องทำตาม

๑.ท่านสามารถรับผีทั้งสองตนไปใช้งานได้โดยการกรีดหลังฝ่ามือตนเอง เอ่ยนามของท่านออกมา และท่องคำสัญญาตามนี้

ข้าขอทำสัญญากับผีเปรตทมิฬและผีหญิงห่มเลือด ตามพันธะที่ถูกตราไว้ในกระดาษแห่งกฎที่ไม่อาจบิดพลิ้ว จงนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง และจงรับความหวาดกลัวเป็นเครื่องสังเวย

ทั้งนี้ท่านต้องกรีดด้วยของมีคมที่มิใช่สีแดง และกรีดในคืนที่ไร้ฝนตกในบริเวณที่ท่านทำพิธีเท่านั้น

๒. หลังจากที่พิธีดังกล่าวเสร็จสิ้น หากสัมผัสได้ว่ามีบางสิ่งที่หางตา ท่านต้องหันไปทางนั้นอย่างช้าๆ ห้ามรีบร้อน มิเช่นนั้นพวกมันอาจมองว่าท่านเป็นภัย เมื่อทำสำเร็จ ท่านจะพบผีทั้งสองตัวยืนอยู่ในระยะที่มองเห็น ยินดีด้วย พวกมันทั้งสองจะรับใช้ท่านและนำความสุขมาให้ไม่รู้จบ เงินทองและชื่อเสียงจะล้นเกินจะใช้หมดในภพชาตินี้

บางครั้งพวกมันจะคอยเตือนถึงอันตรายใกล้ตัว บางครั้งก็โผล่มาให้คนโดยรอบของท่านหวาดผวาโดยไร้เหตุผล อย่าได้ถือสาในพฤติกรรมของมัน

๓. วิธีการเลี้ยงดูผีทั้งสองตัวนั้นไม่ยาก พวกมันไม่ใช่ผีตามความเชื่อหรือเรื่องเล่า แต่ถูกสร้างขึ้นมาโดยบางสิ่งที่ต่างออกไป จึงจำเป็นต้องบริโภค ‘ความกลัว’ เป็นอาหาร โดยเฉพาะความกลัวจากเด็กหรือผู้เยาว์จะยิ่งเป็นแหล่งอาหารชั้นเลิศ

ท่านต้องหาเด็กมาอุปการะหรือดูแล ในรูปแบบใดก็ตามที่ท่านสะดวก เขียนชื่อและนามสกุลของเด็กคนนั้นใส่กระดาษจำนวนสองชุด และยัดเข้าปากผีทั้งสองตัว ภายในสิบวันหลังจากที่พิธีกรีดหลังฝ่ามือเสร็จสิ้น จะยัดรายชื่อสักกี่คนก็ได้ แต่แนะนำว่ายิ่งมากยิ่งมั่นคง ส่วนเหตุผลนั้นจะกล่าวในข้อถัดไป

แต่ห้ามมิให้นำผู้ที่มิใช่เด็กมาทำสัญญาเป็นอันขาด (ตัวตัดสินการเป็นเด็กนั้น ให้อิงตามกฎหมายผู้เยาว์ของถิ่นที่อยู่ท่านในช่วงเวลานั้นๆ)

และแม้เด็กที่ทำสัญญาผูกมัดนั้นจะเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลในภายหลัง ก็ล้วนไม่มีผลต่อสัญญานี้

๔. ผีทั้งสองจะตามรังควานเด็กที่ทำสัญญาผูกมัด มันจะกรีดร้อง ขู่ด้วยเสียง หรือแม้แต่เข้าฝันไปตามหลอกหลอนในยามที่จิตอ่อน แต่ไม่ถึงกับสร้างแผลฉกรรจ์หรือเอาชีวิต ท่านมิต้องกังวลว่าคนในความดูแลจะป่วยไข้หนักหนา พวกมันไม่ปล่อยให้แหล่งอาหารเป็นอะไรหรอก

นอกเสียจากว่าเด็กพวกนั้นจะจิตอ่อนและทนไม่ไหว อาจถึงขั้นทำร้ายตัวเองเพื่อหนีการหลอกหลอน ถ้าท่านมีความเห็นว่าเด็กคนดังกล่าวไม่สามารถแบกรับต่อไปได้ ขอให้ท่านรีบเขียนชื่อและนามสกุลของเด็กคนนั้น และขีดฆ่าด้วยปากกาสีดำ นำเข้าปากผีทั้งสองอีกครั้ง เพื่อเป็นการปลดปล่อยเด็กคนนั้นไปเสีย เชื่อเถอะว่าท่านควรทำ เพราะในกรณีที่เด็กเกิดเสียสติไปก่อนจะยกเลิกสัญญา ผลเสียจะย้อนกลับมาสู่ท่านเอง

๕. จงระวังไว้ ว่าหากเด็กที่พวกมันคอยดูดกลืนความกลัวนั้นเสียชีวิต หรืออยู่ในสภาพที่ไม่อาจรู้สึกถึงความกลัวได้ เช่น เสียสติโดยสิ้นเชิง หรือมีอาการปางตาย โดยมิใช่ผลจากพวกผีทั้งสอง นั่นเท่ากับว่าพวกมันจะเสียแหล่งอาหารไป และจะส่งผลให้พวกมันโกรธและทำร้ายตัวท่านอย่างน่าสยดสยอง จะเรียกว่าของเข้าตัวก็คงไม่ผิด และท่านไม่อยากรู้หรอกว่ามันเป็นอย่างไร

นั่นคือเหตุผลที่เราแนะนำให้ท่านเลี้ยงเด็กไว้ในความดูแลมากกว่าหนึ่งคน เพราะหากมีจำนวนเด็กผู้ทำสัญญามากพอ แม้จะมีสักคนที่ตกอยู่ในสภาพไม่อาจรู้สึกกลัวได้ แต่ผลร้ายที่ย้อนเข้ามาก็จะน้อยลง หรืออาจไม่เกิดผลร้ายขึ้นเลยก็เป็นได้

๖. แม้เด็กที่เป็นแหล่งอาหารเติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ท่านก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรายชื่อแต่อย่างใด ผีทั้งสองจะยังดูดกลืนความกลัวได้ตามปกติ  ไม่ถือว่าผิดกฎข้อ ๓ แต่อย่างใด

๗. ท่านสามารถเปลี่ยนแปลงรายละเอียดพันธะระหว่างท่านกับผีทั้งสองตนได้ แต่เราไม่แนะนำให้ทำ เพราะเดิมทีท่านกับพวกมันถือว่าอยู่คนละภพภูมิกัน การติดต่อโดยตรงนั้นอาจผิดพลาดได้ง่าย และพวกมันมิได้มีเหตุผลมากนัก

แต่หากจะทำเช่นนั้นจริงๆ ควรมีค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกันและ/หรือ อยู่ในระดับที่พวกมันยอมรับได้

สุดท้ายแล้วขอให้ท่านมีความโชคดีและเจริญจากการเลี้ยงดูผีเปรตทมิฬและผีสาวห่มเลือด และภาวนาให้ท่านมิกระทำการใดอันเป็นการฝ่าฝืนกฎ

 

ชั้นบนของบ้านแห่งความรักอันเต็มไปด้วยความทรงจำ ธุพาณนั่งมองผีห่มเลือดที่กำลังกัดหัวไหล่ของพินธาอย่างเอร็ดอร่อย เสียงกรีดร้องของน้องสาวนั้นดังกว่าเสียงกร้วม กร้วม ของผีเปรตเล็กน้อย

“ทำไมถึงทำแบบนี้กับฉัน…” เสียงนั้นวิงวอน ไม่มีท่าทีโอหังเหมือนเวลาข่มลูกน้องในกลุ่มเฮลป์เปอร์แล้ว

“โดยเฉลี่ยคือห้าสิบแปดวินาทีต่อวัน…”

“หมายความว่าอะไร ฉันไม่เข้าใจ”

“เวลาเฉลี่ยที่กล้องวงจรปิดห้องพักของฉันจะถูกรบกวนในหนึ่งปี” ธุพาณชี้ไปยังด้านขวามือ ไกลออกไปจากห้องทรมานนี้ มันคือห้องส่วนตัวของเขา สำหรับทำงานและนอนหลับ แน่นอนว่าสมัยก่อนจะป่วยหนัก เขาไม่ค่อยได้กลับไปห้องนั้นหรอก

“ห้าสิบแปดวินาทีคือเวลาโดยรวม มันอาจจะแบ่งเป็นสองครั้ง ครั้งละยี่สิบเก้าวินาที หรืออาจจะสี่ครั้งก็ได้ ซึ่งเวลาที่ดับก็อาจจะนานกว่านี้ได้ แต่โดยเฉลี่ยแล้วคือวันละห้าสิบแปดวินาที”

สีหน้าของน้องสาวหวาดกลัว ไม่คิดสินะว่าเขาจะรู้แล้ว

“ถ้าดิวาห์ไม่กลับมาดูบันทึกของกล้องย้อนหลัง ก็คงไม่มีทางรู้ ดีจริงๆ ที่มันยอมดูแลกิจการให้ในช่วงที่ฉันไม่สะดวก นับว่าไม่เลว”

เขาย้อนกลับมาที่เรื่องกล้อง

“มันดับลงทุกวันที่แกเข้ามาเยี่ยมเด็กๆ ในโครงการของฉัน เด็กๆ ล็อตสุดท้าย!

แกมีโดรนรุ่นทดสอบที่ได้รับจากฉัน คงใช้มันในการก่อกวนสัญญาณ โดยเล็งวันที่ฉันไม่ว่าง จากนั้นก็ลอบเข้ามาขโมยสิ่งนั้นไปให้พวกเด็กๆ เล่น!”

พินธาหยุดร้อง ก้มหน้าลงต่อหน้าเขาราวกับยอมรับความพ่ายแพ้

 

ทีแรกชีวิตที่หวานหอม ถูกพี่ชายช่วงชิงไปพร้อมกับพ่อและแม่ เธอรอดชีวิตมาได้พร้อมอาการป่วยทางจิต

พินธาในวัยสาวทาสีห้องนอนให้เป็นสีเขียวเพื่อปลอมประโลมใจ สติกลับมานานแล้วแต่ยังแกล้งแสร้งพูดไม่รู้ความ เธอทราบว่ามีคนปองร้าย และสงสัยพี่ชายเป็นอันดับหนึ่ง

เงินกว่าครึ่งที่มีถูกใช้ไปกับการจ่ายให้กับลูกน้องและคนที่มาเฝ้าไข้ เคราะห์ดีที่ไม่มีลูกน้องคนใดที่เคารพรักธุพาณเลย ข้อมูลจึงได้มาง่ายๆ สืบไปมาจึงทราบว่ามันเป็นคนหลอกให้พ่อและแม่เข้าไปยังบ้านร้างแห่งนั้น เพื่อตามหาตัวเธอที่ถูกลักพาตัวไปก่อนหน้า

ตัวพินธาที่ถูกวางยานอนหลับ มารู้สึกตัวอีกทีก็ในบ้านที่เต็มไปด้วยกฎสยอง รอรับพ่อและแม่เข้ามาพบกับชะตากรรมเดียวกัน

ล้างแค้น ต้องล้างแค้น แต่จะทำไงได้เล่า…

แม้จะทราบว่ากิจการที่ธุพาณยึดไปนั้นเริ่มสั่นคลอน แต่ต่อให้พังพินาศมันก็ยังมีเงินพอจะสบายไปทั้งชาติ นั่นไม่เลวร้ายเท่าที่เธอต้องการ

ต้องฆ่ามัน ต้องฆ่า ต้องวางแผนให้ดี

เธอพยายามอย่างหนักในการวางแผน แล้วมันก็สำเร็จผลตามปรารถนา เครื่องบินของมันร่วงลงสู่ผืนป่ากว้างใหญ่ ไม่มีทางหวนกลับ

 

หญิงงามวางดอกปักษาหวนรังไว้ที่โต๊ะทำงานของพี่ชาย ไม่ได้คิดจะครอบครองกิจการ และวางใจให้กรรมการคนอื่นดูแลมรดกของพ่อแม่ต่อไป เธอพอใจแล้ว

‘แต่มันก็กลับมา’ดูท่าว่าพี่น้องเชี่ยๆ คู่นี้จะมีดวงที่แข็งแกร่งมิต่างกัน

ธุพาณกลับมาพร้อมความงอกงาม กระดาษสิบสี่แผ่นดลบันดาลทั้งเงินทองและอำนาจ

แน่นอนว่าพี่ชายยังไม่ทราบว่าพินธาวางยาเครื่องบินส่วนตัวของมัน นั่นเพราะเธอมิได้วางแผนอย่างลวกๆ เหมือนพี่ชาย แต่จะไปต่อต้านการใช้กฎชั่วๆ ของมันในเวลานั้นก็มีแต่ตายห่าเท่านั้น

พินธาจึงแสร้งเป็นน้องสาวที่ดี หลังฟื้นเต็มสติก็รับดูแลเด็กในโครงการของพี่ชายในยามที่เขางานยุ่ง

เฝ้ารอเวลาจะขโมยของล้ำค่าของมันมาย่ำยี!

 

เธอทราบจากแหล่งข่าววงในว่าพี่ชายยังมีกระดาษสำหรับเขียนกฎอยู่อีกหกแผ่นและวางแผนจะขโมยออกมา

จะเขียนเองก็กระไรอยู่ ไม่ทราบว่าจะมีผลเสียตามมาหรือไม่ จึงหลอกให้ ‘เด็กพวกนี้’ เขียนลงไป ระเริงใจทุกครั้งเมื่อจินตนาการว่าพี่โง่ๆ เกิดมาพบว่ากระดาษแสนรักถูกขีดเขียนโดยเด็กที่มันเอามาเป็นเชื้อเพลิงสร้างทรัพย์สิน

ก็นั่นแหละ ในเวลานั้นเธอเตรียมตัวจะถูกล้างแค้นอยู่แล้ว ตัวเองโชคดีได้แต่งงาน แต่ไม่นานก็หย่าขาดและเสียสิทธิ์การเลี้ยงดูลูก เวลานั้นคิดเพียงว่าจะตายห่าก็ช่างแม่ง….

ทว่าก็เป็นดั่งโชคเข้าข้าง ธุพาณผู้เป็นพี่ชายไม่ใช่คนรอบคอบและไม่ใช่คนที่เรียนรู้จากความผิดพลาด ตามดวงที่พ่อแม่ได้รับคำทำนายไว้ หลายครั้งหลายคราที่เธอนำกระดาษแห่งกฎมาให้พวกเด็กๆ ขีดเขียนเล่น เจ้าตัวก็ยังไม่รับรู้อะไรด้วยซ้ำ ดูท่าว่าคงกะจะเก็บไว้ในตู้เซฟไปตลอดชีวิต และตัวเองก็คงจะไปมัวเมากับสุราเลิศรสและเรื่องทางกามา ไอ้ผีสองตัวนั่น พอมิใช่อันตรายถึงชีวิตของธุพาณก็จะไม่ปรากฏตัว อะไรก็เลยง่ายไปหมด

กับพวกเด็กๆ ยิ่งแล้วใหญ่ เพียงแค่มอบขนมกับของเล่นให้ ทั้งห้าคนก็พร้อมจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับจากพ่อเลี้ยงใจโหด ดูท่าว่าหลักสูตรอบรมที่มันยัดใส่สมองเด็กพวกนี้จะล้มเหลวสินะ คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็คงมีแต่เด็กที่ชื่อดิวาห์เท่านั้น

ไม่กี่สัปดาห์ พวกเด็กๆ ก็ออกแบบกฎสยองของตัวเองสำเร็จ น่ากลัวจริงๆ ทั้งที่ถูกผีเปรตตามทำร้าย แต่เด็กพวกนี้กลับยังหมกหมุ่นกับเรื่องลี้ลับอยู่อีก มิน่าเล่าเด็กล็อตนี้ถึงถูกใจพี่ธุพาณนัก ตัวพินธาเองมีโอกาสได้อ่านคร่าวๆ แค่สองกฎ นั่นคือกฎการเดินชมสวนแสงหวนรัง และกฎลิฟต์ประตูสนิม เพียงเท่านั้นก็หวาดกลัวจับไข้แล้ว

แม้จะแสนสะใจปนสังเวชตัวเองที่ต้องมาตอดเล็กตอดน้อย แต่ก็ถือเป็นการเอาคืนที่แรงที่สุดที่จะทำได้แล้ว

หากจะมีสิ่งใดผิดพลาด ก็คงเป็นเด็กน้อยที่ชื่อฤทธิ์ กับกระดาษแห่งกฎที่เหลืออีกสองแผ่น

 



Don`t copy text!