บาร์บารา คาร์ทแลนด์
โดย : พงศกร
อ่านคลาสสิก โดย พงศกร อีกหนึ่งคอลัมน์ที่อ่านเอาภูมิใจนำเสนอกับการถ่ายทอดเรื่องราวของนักเขียนรุ่นเก่า ซึ่งมีผลงานเป็นตำนานและหาอ่านได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน เพื่อให้นักอ่านที่รักทุกเพศวัยจะได้สัมผัสกับความลึกซึ้งของงานเขียนและได้รับรู้เรื่องราวดีๆ มากมายในแวดวงวรรณกรรม
*************************
นักอ่านสุภาพสตรี (และบางครั้งสุภาพบุรุษ) จำนวนไม่น้อยชอบอ่านนวนิยายพาฝัน เพราะสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับผู้อ่าน โดยเฉพาะนวนิยายที่พระเอกเป็นท่านลอร์ดและนางเอกเป็นสาวน้อยไร้เดียงสา โชคชะตาพาให้เขาและเธอมาพบกัน และตกหลุมรักกันในที่สุด หลังจากฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย เรื่องราวกับจบลงด้วยความสมหวังและรอยยิ้ม
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบนวนิยายแนวโรแมนติกพาฝันแบบนั้น คุณต้องรู้จักเธอ… บาร์บารา คาร์ตแลนด์… ราชินีนวนิยายพาฝันชื่อดังระดับโลก เพราะตลอดชีวิตของเธอ บาร์บาราเขียนนวนิยายแนวโรแมนติกมากถึง 723 เรื่องในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ (หลังจากเธอเสียชีวิตไป มีการค้นพบต้นฉบับนวนิยายอีก 160 เรื่องถูกเก็บไว้ในห้องสมุด มัดรวมกันด้วยริบบิ้นสีชมพู คาดว่าเป็นต้นฉบับที่ถูกปฏิเสธจากสำนักพิมพ์ต่างๆ)
บาร์บาราเกิดในครอบครัวทหาร พ่อและน้องชายอีกสองคนของเธอก็เป็นทหาร และทั้งสามเสียชีวิตในสงครามโลก พ่อ – พ.อ. จอห์น เบอร์แธม คาร์ตแลนด์ เสียชีวิตในสมรภูมิสงครามโลกครั้งที่หนึ่งตอนบาบาร์ราอายุได้ 17 ปี อีกไม่นานต่อมา พ.อ. โรนัลด์ คาร์ตแลนด์ และ พ.อ. จอห์น แอนโธนี คาร์ตแลนด์ น้องชายทั้งสองของเธอก็มาเสียชีวิตไปในสมรภูมิดันเคิร์กในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
บาร์บารามีชีวิตที่มหัศจรรย์เหมือนกับนวนิยายที่เธอเขียน มีบันทึกเล่าว่าเธอเคยถูกชายหนุ่มขอแต่งงานมาไม่น้อยกว่า 49 ครั้ง จนกระทั่งเธอตัดสินใจเข้าพิธีวิวาห์กับ อเล็กซานเดอร์ จอร์จ แม็คคอร์โควเดล ผู้เป็นอดีตนายทหาร แต่แต่งกันได้เพียงสี่ปี เธอก็พบว่าเขามีพฤติกรรมนอกใจ ก็เลยหย่ากันในที่สุด หลังจากหย่าได้ไม่นาน บาร์บาราก็เข้าพิธีสมรสครั้งใหม่กับ ฮิวจ์ แม็คคอร์โควเดล ซึ่งเป็นหลานชายของสามีคนแรก… เอากับเธอสิ !
บาร์บารายึดมั่นในแนวทางการเขียนนวนิยายของเธอมาก กล่าวคือ นางเอกต้องเป็นสาวน้อยแสนสวยผู้ไม่มีประสบการณ์ในชีวิตมากนัก ในขณะที่พระเอกทุกเรื่องรูปหล่อ Tall Dark and Handsome เป็นเศรษฐี ท่านดยุค ท่านลอร์ด ท่านนายพล เป็นต้น ทุกคนล้วนแต่เป็นชายหนุ่มวัยกลางคนที่น่าฝันใฝ่ถึง และที่สำคัญนางเอกทุกเรื่องของ บาร์บารา คาร์ตแลนด์ จะรักษาพรหมจรรย์ ความบริสุทธิ์ virgin เอาไว้จนกระทั่งถึงวันแต่งงาน
นวนิยายทุกเรื่องของเธอเป็นแบบนี้ แม้คนอ่านจะเดาได้ว่าเรื่องจะเริ่มต้นอย่างไร ดำเนินไปอย่างไรและจบลงอย่างไร ทุกคนก็ยังชื่นชอบและติดตามอย่างเหนียวแน่น แต่ในขณะเดียวกันนักอ่านรุ่นใหม่ๆ หลายคนก็ออกมาบ่นว่าน่าเบื่อ นักวิจารณ์หลายคนก็สับนวนิยายของเธอเสียเละ แต่บาร์บาราก็โนสนโนแคร์ ฉันจะเขียนของฉันแบบนี้ ใครชอบก็อ่าน ใครไม่ชอบก็ช่วยไม่ได้
จะว่าไปยิ่งด่าก็ยิ่งดัง แม้นักอ่านส่วนหนึ่งอาจไม่ชอบงานของบาร์บารา แต่นักอ่านส่วนใหญ่ชอบ ส่งผลให้นวนิยายทุกเรื่องของบาร์บาราขายดีมาก และได้รับการแปลไปมากมายหลายภาษา รวมถึงนำไปสร้างเป็นซีรีส์และภาพยนตร์
วิธีการเขียนงานของบาร์บาราก็แปลกไม่เหมือนใคร
ทุกๆ เช้าเธอจะบรรจงแต่งตัวด้วยชุดสีชมพู แล้วมานอนเอนกายบนโซฟายาวในห้องทำงาน อุ้มน้องหมาตัวเล็กๆ ไว้บนตัก จากนั้นก็เริ่มพูดนวนิยายออกมาเป็นประโยคๆ เลขานุการของบาร์บารามีหน้าที่ฟังคำเหล่านั้น แล้วพิมพ์ออกมาจนนวนิยายจบเป็นเล่มๆ เธอทำงานแบบนี้มาตลอดชีวิต และด้วยวิธีการทำงานที่ไม่เหมือนใคร บาร์บาราจะเขียนนวนิยายเล่มใหม่จบในทุกๆ 2-3 สัปดาห์
บาร์บารามีชีวิตที่หรูหราเหมือนกับตัวละครในนวนิยายของเธอ ตลอดชีวิตเธอจะสวมแต่เสื้อผ้าสีชมพู บาร์บาราเคยให้สัมภาษณ์นิตยสารฉบับหนึ่งเอาไว้ว่า ‘สีชมพูทำให้สมองของฉันปลอดโปร่ง’ เธอชอบเดินทางไปรอบโลก และหลายครั้งก็เอามาเป็นฉากในนวนิยายอีกด้วย
บาร์บาราชอบเมืองไทย ทุกครั้งที่เดินทางมาจะต้องพักที่โรงแรมโอเรียนเต็ล ซึ่งทางโรงแรมจะเตรียมทุกอย่างในห้องเป็นสีชมพูไว้ให้เธอเสมอ ความชื่นชอบประเทศไทย บาร์บาราเลยเขียนนวนิยายที่มีฉากในประเทศไทยเอาไว้ถึงสองเรื่องคือ Sapphires in Siam และ Journey to a Star ดูเหมือนทั้งสองเรื่องเคยมีคนแปลเป็นภาษาไทยเอาไว้แล้วด้วยครับ
เส้นทางชีวิตของบาร์บาราเฉียดเข้าใกล้ราชวงศ์อังกฤษ เมื่อบุตรสาวของเธอได้เข้าพิธีสมรสกับเอิร์ลแห่งสเปนเซอร์… เอ๊ะ… คุ้นๆ ไหมครับ
ใช่แล้วครับ เอิร์ลแห่งสเปนเซอร์ก็คือบิดาของ เลดี้ไดอานา สเปนเซอร์ ที่ต่อมาเป็นพระชายาของเจ้าฟ้าชายชาร์ลนั่นเอง ว่ากันว่าเจ้าหญิงไม่ค่อยโปรดคุณยายบาร์บารานัก เพราะไม่ชอบมารดาเลี้ยงเป็นทุน เลยพลอยไม่ชอบมาถึงคุณแม่ของมารดาเลี้ยงด้วย จึงไม่น่าแปลกอะไรที่ในพระราชพิธีอภิเษกสมรสอันยิ่งใหญ่ตระการตา เจ้าหญิงไดอาน่าไม่ได้เชิญบาร์บาราเข้าร่วมพิธี ยังความเสียใจให้กับคุณยายเลี้ยงเป็นอย่างมาก
บาร์บารายังคงใช้ชีวิตที่สุดแสนจะมหัศจรรย์ราวเทพนิยายของเธอตราบจนบั้นปลายของชีวิต ในปีพ.ศ. 2544 เธอได้รับ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ Order of the British Empire (OBE) จากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และมีบรรดาศักดิ์เป็น ‘Dame’ หรือท่านผู้หญิง
ผ่านจากวันเกิดครบรอบอายุ 99 ปีได้ไม่กี่วัน บาร์บารา คาร์ตแลนด์ เข้านอนและไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย เป็นการปิดฉากราชินีนิยายพาฝันลงตลอดกาล…
- READ ชินจิ วาดะ
- READ ชาร์ลส ดิกเกนส์
- READ แขไข เทวินทร์
- READ โรอัลด์ ดาห์ล
- READ ร.จันทพิมพะ
- READ กาญจนา นาคนันทน์
- READ เจน ออสเตน
- READ คำพูน บุญทวี
- READ เอ เอ มิลน์
- READ โกวเล้ง
- READ ดวงดาว
- READ สุริยฉัตร ชัยมงคล
- READ อกาธา คริสตี้
- READ บาร์บารา คาร์ทแลนด์
- READ บุษยมาส
- READ สรจักร
- READ เบียทริกซ์ พอตเตอร์
- READ วาณิช จรุงกิจอนันต์
- READ ริชาร์ด อดัมส์
- READ เจ้าฟ้ากุ้ง
- READ น้ำอบ
- READ เจ้าฟ้ากุณฑล – เจ้าฟ้ามงกุฎ
- READ เท็ตสุกะ โอซามุ
- READ ฟรานเซส ฮอดจ์สัน เบอร์เนตต์
- READ เพ็ญพิมล ธัมมรัคคิต
- READ ท. เลียงพิบูลย์
- READ อี. บี. ไวต์
- READ ลพบุรี
- READ โดโรธี ดานีลส์
- READ คุณพุ่ม
- READ โดโรธี อีเดน
- READ จรัสพร
- READ ริชาร์ด แมทธีสัน
- READ สุภาว์ เทวกุลฯ
- READ วิลเลียม เชคสเปียร์
- READ กิมย้ง
- READ สุวรรณี สุคนธา
- READ เหม เวชกร
- READ ลิวอิส แครอล
- READ เพิร์ล เอส บั๊ค
- READ ศรีฟ้า ลดาวัลย์
- READ รัดยาร์ด คิปลิง
- READ พระนางเธอลักษมีลาวัณ
- READ ซี. เอส. ลิวอิส
- READ พิมล กาฬสีห์
- READ จินตนา ปิ่นเฉลียว
- READ มากาเร็ต มิตเชลล์
- READ สันต์ เทวรักษ์
- READ เอมิลี่ บรองเต้
- READ อ.ไชยวรศิลป์
- READ บรรจบ พันธุเมธา
- READ มารี คอเรลลี
- READ แอล แฟรงค์ โบห์ม
- READ ดอกไม้สด
- READ เอโดงาวะ รันโป
- READ น.ม.ส
- READ วิกตอเรีย โฮลต์
- READ อ็องตวน เดอ แซ็งเต็กซูว์เปรี
- READ อ.สนิทวงศ์
- READ จันตรี ศิริบุญรอด
- READ ลอรา อิงกัลส์ ไวล์เดอร์
- READ น้อย ชลานุเคราะห์
- READ ไอแซก ไดนีเสน
- READ ศุภร บุนนาค