เอ เอ มิลน์

อ่านคลาสสิก โดย พงศกร อีกหนึ่งคอลัมน์ที่อ่านเอาภูมิใจนำเสนอกับการถ่ายทอดเรื่องราวของนักเขียนรุ่นเก่า ซึ่งมีผลงานเป็นตำนานและหาอ่านได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน  เพื่อให้นักอ่านที่รักทุกเพศวัยจะได้สัมผัสกับความลึกซึ้งของงานเขียนและได้รับรู้เรื่องราวดีๆ มากมายในแวดวงวรรณกรรม

*************************

หมีพูห์และผองเพื่อนของเขาอันได้แก่ พิกเล็ต ทิกเกอร์ อียอร์ และอีกมากมายหลายตัวอาศัยอยู่ในป่า Ash Wood ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของลอนดอน และเรารู้จักกับพวกเขาผ่านหนูน้อย คริสโตเฟอร์ โรบิน ผู้ซึ่งในชีวิตจริงก็คือลูกชายของ เอ. เอ. มิลน์ ผู้เขียนวรรณกรรมเยาวชนเรื่องนี้นั่นเอง

เอ. เอ. มิลน์ เป็นนามปากกาของ อลัน อเล็กซานเดอร์ มิลน์ เขาเกิดที่ลอนดอน เรียนหนังสือที่โรงเรียน Henley House ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนเล็กๆ ที่พ่อของเขาเป็นผู้บริหาร ที่น่าสนใจคือครูคนหนึ่งของ เอ เอ มิลน์ คือ H.G. Wells ซึ่งเป็นนักเขียนนวนิยายวิทยาศาสตร์ที่โด่งดัง

หลังเรียนจบปริญญาตรีคณิตศาสตร์ เขาร่วมกับพี่ชายทำงานเขียนบทความให้กับนิตยสารและหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ต่อมาเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เอ. เอ. มิลน์ ได้เข้าร่วมรบในกองทัพอังกฤษ และสงครามครั้งนั้นเอง ที่ส่งผลกับบุคลิกภาพของ เอ. เอ. มิลน์ ในเวลาต่อมา

ความโหดร้ายของสงคราม ทำให้ เอ. เอ. มิลน์ เกิดสภาวะที่เรียกว่า Post Traumatic Stress Disorder หรืออาการผิดปกติที่เกิดเนื่องจากความเครียดหลังประสบกับภาวะสะเทือนอารมณ์

เอ. เอ. มิลน์ เก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แม้แต่ คริสโตเฟอร์ โรบิน ที่เป็นลูกชาย ในขณะที่โดโรธี ดาฟนี มิลน์ ภรรยาของเขาเป็นสาวสังคมที่ชอบความหรูหรา และชอบไปงานสังคม เธออยากได้ลูกสาวมากกว่าลูกชาย คริสโตเฟอร์จึงเติบโตมากับพี่เลี้ยงเป็นส่วนใหญ่ และเพื่อนสนิทที่เขาพูดคุยได้ทุกเรื่องก็คือตุ๊กตาสัตว์ต่างๆ นั่นเอง

แน่นอน พวกมันชื่อพูห์ พิกเล็ต ทิกเกอร์ อียอร์ และอีกมากมายหลายตัว

ในจินตนาการของเด็กน้อย พวกมันมีชีวิตจิตใจ พูดคุยและเล่นสนุก คริสโตเฟอร์เชื่อว่าพวกมันเคลื่อนไหวและขยับตัวได้ เพื่อนสัตว์เหล่านั้นเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเด็กน้อย

เอ. เอ. มิลน์ สังเหตเห็นจินตนาการของลูกชาย เลยหยิบมาเขียนเป็นเรื่องสำหรับเด็ก

วินนี เดอะ พูห์ โด่งดังเป็นอย่างมาก เด็กๆ ทั่วโลกชื่นชอบหมีพูห์ และบรรดาเพื่อนๆ ของเขา คริสโตเฟอร์ โรบิน กลายมาเป็นคนดังโดยไม่ได้ตั้งตัว เขาออกเดินทางไปหลายแห่งทั่วประเทศพร้อมกับพ่อของเขาเพื่อโชว์ตัว เดินพาเหรดกับเพื่อนๆ หมีพูห์ และนั่งอ่านบางบทบางตอนของหนังสือในงาน Book Fair เป็นต้น คริสโตเฟอร์ โรบิน รู้สึกมีความสุขกับการมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก จนกระทั่งเมื่อเข้าโรงเรียนในช่วงวัยรุ่น คริสโตเฟอร์ โรบิน ถูกล้อเลียนจากบรรดาเพื่อนๆ อย่างหนักหน่วง จนะกระทั่งเขาเริ่มรู้สึกเกลียดวินนี เดอะ พูห์ และเกลียดพ่อที่เขียนวรรณกรรมชุดนี้ขึ้นมา

อันที่จริง ผู้อ่านทั้งหลายเข้าใจผิด

‘คริสโตเฟอร์ โรบิน’ ในเรื่องชุดนี้ กับ ‘คริสโตเฟอร์ โรบิน’ ตัวจริงคือคนละคนกันโดยสิ้นเชิง เอ. เอ. มิลน์ ไม่ได้เอาบุคลิกของลูกชายมาเขียน สิ่งเดียวที่เขาหยิบเอามาก็คือชื่อของเด็กชายเท่านั้น และในชีวิตจริง เขากับภรรยาก็ไม่เคยเรียกลูกชายว่า ‘คริสโตเฟอร์ โรบิน’ แต่เรียกว่า ‘บิลลี มูน’

สิ่งที่เกิดขึ้นกับคริสโตเฟอร์ เป็นเรื่องที่ เอ. เอ. มิลน์ เห็นและรับรู้เช่นกัน เขาไม่ได้คิดเลยว่าวรรณกรรมที่เขาตั้งใจถ่ายทอด และสร้างความสุขให้กับเด็กๆ ทั้งโลก กลับกลายมาเป็นอาวุธที่ย้อนมาทิ่มแทงลูกชายของเขาเอง

ดังนั้น ในปี พ.ศ. ๒๔๗๒ ซึ่งเป็นปีที่ วินนี เดอะ พูห์ โด่งดังสุดขีด เอ. เอ. มิลน์ ตัดสินใจยุติเรื่องราวของหมีพูห์และผองเพื่อนลง นอกจากเหตุผลที่ว่าลูกชายถูกล้อเลียนเป็นอย่างมากแล้ว มีเสียงลือว่าอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เอ. เอ. มิลน์ เกิดอิจฉาที่ ‘คริสโตเฟอร์ โรบิน’ เกิดมีชื่อเสียงที่โด่งดังกว่าคนเขียนที่สร้างสรรค์ตัวละครเหล่านี้ขึ้นมา

เขาบันทึกถึงความทรงจำในช่วงนี้ว่า “ผมคิดว่า คริสโตเฟอร์ โรบิน ต้องอยู่กับชื่อเสียงมานานเกินพอแล้ว ผมไม่อยากให้เขาต้องภาวนาว่าขอให้ตัวเองเกิดมาในชื่ออื่น”

เอ. เอ. มิลน์ ป่วยด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก และได้รับการผ่าตัด หลังจากผ่าตัด สุขภาพของเขาก็ทรุดโทรมลงเรื่อยๆ และลาจากหมีพูห์กับผองเพื่อนที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นมา เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๔๙๙ ในวัย ๗๔ ปี

หมีพูห์ พิกเล็ต ทิกเกอร์ อียอร์และสัตว์ทั้งหลาย ยังคงอาศัยอยู่ในป่า Ash wood มาจนทุกวันนี้…