แขไข เทวินทร์

อ่านคลาสสิก โดย พงศกร อีกหนึ่งคอลัมน์ที่อ่านเอาภูมิใจนำเสนอกับการถ่ายทอดเรื่องราวของนักเขียนรุ่นเก่า ซึ่งมีผลงานเป็นตำนานและหาอ่านได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน  เพื่อให้นักอ่านที่รักทุกเพศวัยจะได้สัมผัสกับความลึกซึ้งของงานเขียนและได้รับรู้เรื่องราวดีๆ มากมายในแวดวงวรรณกรรม

*************************

ถ้าเอ่ยถึง ‘สายสวาทยังไม่สิ้น’ นักอ่านชาวไทยและผู้ชมภาพยนตร์เมื่อช่วงสามสิบกว่าปีก่อนคงจะจำกันได้ดี สายสวาทยังไม่สิ้น โด่งดังได้รับการสร้างถึงสองครั้ง และในการสร้างครั้งที่สอง ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังแจ้งเกิดนักแสดงคุณภาพอย่าง ‘สินจัย หงษ์ไทย’ อีกด้วย

สายสวาทยังไม่สิ้น สร้างมาจากบทประพันธ์ของ แขไข เทวินทร์ นักเขียนชื่อดังในห้วงเวลานั้น นอกจากนวนิยายเรื่องนี้แล้ว แขไข เทวินทร์ ยังเขียนนวนิยายเอาไว้อีกหลายเรื่อง เช่น ทุ่งรวงทอง, เยี่ยมวิมานรัก, ราชาวดีสีทอง, บุหลันแดง, ห้วงมารยา, วสันต์สั่ง, ขอบฟ้าสีเงิน, สายขิม, ขวัญชีวา และอีกมากมาย ทุกเรื่องล้วนแต่มีชื่อเสียงโด่งดัง เมื่อไปเป็นละครหรือภาพยนตร์ก็โด่งดังไม่แพ้กัน

แขไข เทวินทร์ เป็นนามปากกาของ จงกลณี พุทธิแพทย์ เธอเป็นธิดาของขุนจักรวิจารณ์บดี เกิดที่เชียงใหม่ เข้าเรียนที่มาแตร์เดอี และเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่แรกตั้งใจจะเรียนนิติศาสตร์ แต่เรียนไม่จบเนื่องจากปัญหาสุขภาพ

ความที่บิดาของเธอรับราชการเป็นนายช่างของแขวงการทาง ในวัยเด็ก แขไข เทวินทร์ จึงย้ายติดตามบิดาไปหลายจังหวัด และเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอคือหนังสือ

แขไข เทวินทร์ เป็นนักอ่านมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก นักเขียนคนโปรดคือ ก.สุรางคนางค์ เธอเคยให้สัมภาษณ์ในนิตยสารฉบับหนึ่งว่า นวนิยายที่เธอชอบที่สุดคือ ‘ลูกรักลูกชัง’ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธออยากเป็นนักเขียนบ้าง

แขไข เทวินทร์ เริ่มเขียนงานเมื่อเข้ารับราชการที่กระทรวงคมนาคม แขไขเขียนทั้งเรื่องสั้น เรื่องยาวและบทกวี แต่ในช่วงแรกมักได้รับการปฏิเสธจากนิตยสารต่างๆ เสมอ แต่แขไขก็ไม่ท้อใจ เธอยังคงเขียนงานที่เธอรักต่อไปจนกระทั่งปี พ.ศ. 2495 นวนิยายเรื่อง ‘ชีวิตมืด’ ของเธอได้รับการตีพิมพ์ แขไขจึงมีกำลังใจเขียนนวนิยายเรื่องอื่นๆ ต่อมาอีกมากมาย

ด้วยความที่นวนิยายของเธอเป็นแนวรักดราม่า มีความสะเทือนใจสูง หลายเรื่องมีความลึกลับเหนือจริงผสมผสาน เช่น บุหลันแดง ทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และหลายเรื่องได้ไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ประสบความสำเร็จ มีรายได้ถล่มทลาย

แขไขมาถึงจุดสูงสุดในชีวิตการประพันธ์ เมื่อนวนิยายเรื่อง ‘เกล็ดแก้ว’ ของเธอได้ไปสร้งเป็นภาพยนตร์ และบทประพันธ์ของเธอได้รับรางวัลพระราชทานตุ๊กตาทองในปีนั้น ทำให้งานเขียนของแขไขยิ่งโด่งดัง และเป็นที่ต้องการของนิตยสารต่างๆ ว่ากันว่าในช่วงเวลานั้นแขไขต้องเขียนนวนิยายพร้อมๆ กันไม่ต่ำกว่าห้าถึงเจ็ดเรื่อง

แม้จะเขียนนวนิยายแนวรักมากมาย หากเรื่องที่ถูกกล่าวขวัญถึงมากที่สุดคือ ‘คนข่าวตะวันออก’ ที่เธอเปลี่ยนแนวมาเขียนนวนิยายสะท้อนสังคมเป็นเรื่องแรก เป็นเรื่องราวของนักข่าวที่เสนอความจริงในสังคม แต่กลับต้องมาเผชิญหน้ากับผู้มีอิทธิพลที่ไม่พอใจที่เขาเอามาเขียนเป็นข่าวตีแผ่ให้สังคมรับรู้ ว่ากันว่า หากแขไขเอาจริงเอาจังกับนวนิยายแนวนี้ เราจะมีผลงานนวนิยายที่เข้มข้นสะท้อนสังคมให้อ่านกันอีกหลายเรื่องทีเดียว

แขไข เทวินทร์ มีหลายนามปากกา ใช้เขียนงานในแนวที่แตกต่างกัน จงกลณี ราชนิมิตร ใช้เขียนเรื่องสั้นและบทโทรทัศน์, อัจฉริยา ใช้เขียนบทความ, จันทร์เจ้า ใช้เขียนเรื่องสั้น และพิมพ์พัตรา ใช้เขียนบรรยายภาพ

แม้จะประสบความสำเร็จในด้านงานเขียน แต่สำหรับชีวิตครอบครัวของ แขไข เทวินทร์ นั้นกลับไม่ราบรื่น

เธอสมรสสองครั้ง มีบุตรสาวหนึ่งคนจากสามีคนแรก ด้วยปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นและรุมเร้ารอบกาย แขไข เทวินทร์ จึงมีปัญหาสุขภาพจิตเป็นอย่างมาก เธอล้มเจ็บลงด้วยอาการของโรคหัวใจ และเสียชีวิตในวัยเพียง ๓๓ ปีเท่านั้น

ปัจจุบันนี้ งานเขียนของ แขไข เทวินทร์ หาอ่านยากแล้ว และยังไม่มีการพิมพ์ใหม่ นักอ่านที่สนใจอาจจะต้องติดตามหาจากหอสมุดแห่งชาติหรือแหล่งหนังสือเก่าอื่นๆ เพื่อจะได้ทำความรู้จักกับนักเขียนสตรีผู้มีชื่อเสียงท่านนี้ว่ามีความสามารถสูงมากเพียงใด…