โดโรธี อีเดน

อ่านคลาสสิก โดย พงศกร อีกหนึ่งคอลัมน์ที่อ่านเอาภูมิใจนำเสนอกับการถ่ายทอดเรื่องราวของนักเขียนรุ่นเก่า ซึ่งมีผลงานเป็นตำนานและหาอ่านได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน  เพื่อให้นักอ่านที่รักทุกเพศวัยจะได้สัมผัสกับความลึกซึ้งของงานเขียนและได้รับรู้เรื่องราวดีๆ มากมายในแวดวงวรรณกรรม

*************************

ถ้าคุณเป็นนักอ่านที่นิยมเรื่องลึกลับ โดยเฉพาะเรื่องในแนวโกธิก คือ เรื่องราวที่ตัวเอก (ซึ่งส่วนมากเป็นสุภาพสตรี) จะเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ประหลาด ในสถานที่ปิดตาย เช่น ปราสาท คฤหาสน์ อยู่บนเกาะ แล้วเจอกับปริศนาให้ต้องสงสัย ให้ได้ขบคิด เช่น มีคนหายตัวไป มีเสียงร้องประหลาดในยามค่ำคืน เรื่องราวของมรดกที่ซ่อนเร้น ถ้าชื่นชอบนวนิยายแนวนี้ล่ะก็ คุณต้องเคยได้ยินชื่อ โดโรธี อีเดน มาบ้างไม่มากก็น้อย

โดโรธี อีเดน เป็นนักเขียนนวนิยายแนวลึกลับชั้นแนวหน้าคนหนึ่ง มีผลงานไม่ต่ำกว่า 40 เรื่อง ทุกเรื่องล้วนเป็นแนวโกธิกทั้งสิ้น นักอ่านชาวไทยรู้จักงานเขียนของเธอผ่านฝีมือการแปลของ ‘นิดา’ และ ‘มนันยา’ เป็นส่วนใหญ่ เรื่องที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่ติดอกติดใจของนักอ่าน เช่น เหยื่อมายา (Cat’s Prey), ปราสาทแสงจันทร์ (The Shadow Wife), เวนิศพิศวาส (Winterwood), ตุ๊กตาอาถรรพณ์ (The Voice of the Dolls) เป็นต้น

โดโรธี อีเดน เป็นนามปากกาของ โดโรธี เอนิด อีเดน เธอเป็นคนนิวซีแลนด์ เกิดที่แคนเทอบูรีเพลนส์ เมืองชนบทเล็กๆ ที่ไม่ไกลจากเมืองหลวงนัก เมื่อปี พ.ศ. 2455 หรือสมัยต้นรัชกาลที่ 6

ในวัยเด็ก โดโรธีร่ำเรียนหนังสือที่โรงเรียนในเมืองเกิดของเธอ เมื่อจบการศึกษาชั้นอนุปริญญา เธอก็เข้าทำงานเป็นเลขานุการของสำนักงานกฏหมายแห่งหนึ่งในเมืองไครซ์เชิร์ช

โดโรธีเป็นนักอ่าน เธอมักใช้เวลาว่างจากงานประจำลองเขียนหนังสือดูบ้าง จนกระทั่ง The Singing Shadow นวนิยายเรื่องแรกของโดโรธีได้รับการตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2484 โดโรธีจึงรู้สึกว่า เธอได้ก้าวเข้าสู่อาชีพนักเขียนเต็มตัวแล้ว

งานประจำทำให้โดโรธีไม่มีเวลามากนัก หลังจากเขียนนวนิยายจบอีกสองเรื่อง เธอคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะออกมาทำงานเขียนแบบเต็มตัว

โดโรธีลาออกจากงานเมื่อปี พ.ศ. 2490 เพื่อเขียนหนังสือ หลังจากนั้นเป็นต้นมา โดโรธีก็เขียนงานออกมาได้มากขึ้น เธอมีนวนิยายลึกลับตีพิมพ์เป็นเล่มออกจำหน่าย ปีละ 2-3 เรื่อง ทุกเรื่องประสบความสำเร็จ เป็นที่ชื่นชอบของนักอ่าน ขายดีจนต้องพิมพ์ซ้ำเป็นจำนวนมาก

หลังออกจากงานมาเป็นนักเขียนเต็มตัว โดโรธีบริหารเวลาได้ดีขึ้น เธอทำตามความฝันที่ฝันอยากทำมานาน นั่นก็คือเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก

อาชีพนักเขียนไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางแม้แต่น้อย โดโรธีพบว่าเธอสามารถเขียนงานและส่งต้นฉบับได้จากทั่วทุกมุมโลก

หลังจากเดินทางท่องเที่ยวไปหลายสิบประเทศ เป็นเวลาหลายปี โดโรธีพบว่า เธอชอบประเทศอังกฤษมาก และตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่อังกฤษเป็นการถาวร

งานเขียนของโดโรธีได้รับการแปลออกไปหลายภาษา แม้แต่ภาษาฮีบรูและภาษาตุรกี ในปี พ.ศ. 2523 โดโรธีได้รับการยกย่องจากสมาคมห้องสมุดของประเทศอังกฤษว่าเป็นนักเขียนที่มียอดขายสูงสุด ติดอันดับหนึ่งในสิบนักเขียนของประเทศ

นอกจากนวนิยายแล้ว โดโรธียังเขียนเรื่องสั้นเอาไว้อีกมาก แน่นอน ทุกเรื่องเป็นงานเขียนแนวลึกลับ โกธิก และตื่นเต้นสืบสวนสอบสวน

โดโรธียังทำนิตยสารร่วมกับบรรดาเพื่อนนักเขียนอีกสองฉบับ คือ Good Housekeeping และ Redbook ซึ่งเป็นนิตยสารแนวแม่บ้าน อ่านสบายๆ มีเรื่องราวปกิณกะและสูตรอาหาร

จากประวัติที่เปิดเผย ไม่ปรากฏว่าโดโรธีสมรสมีครอบครัว เธออยู่ลำพังคนเดียว มีน้องและหลานจากนิวซีแลนด์มาอยู่ด้วยเพื่อคอยดูแล

ในช่วงบั้นปลายของชีวิต โดโรธีล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็งเต้านม หลังจากเข้ารับการผ่าตัด ให้ยาเคมีบำบัดและรักษาอยู่เป็นเวลานาน เธอเสียชีวิตลงเมื่อปี พ.ศ. 2525 อายุได้ 69 ปี

ขณะป่วย โดโรธีก็ยังคงเขียนหนังสือ เพราะนั่นคือสิ่งที่เธอรักที่สุด

An Important Family นวนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่องสุดท้ายในชีวิต ได้รับการตีพิมพ์หลังจากเธอเสียชีวิตไปแล้ว บอกเล่าเรื่องราวของนางเอกผู้เป็นชาวเมารี ชนเผ่าพื้นเมืองของนิวซีแลนด์ ที่ประสบกับความเปลี่ยนแปลงเมื่ออังกฤษเข้ามารุกราน เป็นผลงานที่นักอ่านทุกคนล้วนกล่าวตรงกันว่า เป็นนวนิยายที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของ โดโรธี อีเดน…