แอล แฟรงค์ โบห์ม

แอล แฟรงค์ โบห์ม

โดย : พงศกร

Loading

อ่านคลาสสิก โดย พงศกร อีกหนึ่งคอลัมน์ที่อ่านเอาภูมิใจนำเสนอกับการถ่ายทอดเรื่องราวของนักเขียนรุ่นเก่า ซึ่งมีผลงานเป็นตำนานและหาอ่านได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน  เพื่อให้นักอ่านที่รักทุกเพศวัยจะได้สัมผัสกับความลึกซึ้งของงานเขียนและได้รับรู้เรื่องราวดีๆ มากมายในแวดวงวรรณกรรม

*************************

สนับสนุนอ่านเอาด้วยการสั่งซื้อหนังสือ “ในสวนอักษร” คลิกที่นี่

The Wonderful Wizard of Oz หรือ พ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ เล่าเรื่องราวของหนูน้อยโดโรธีที่ถูกทอร์นาโดหอบจากบ้านที่แคนซัสจนไปตกลงบนดินแดนมหัศจรรย์ชื่อ ‘ออซ’ เป็นวรรณกรมอมตะที่อยู่ในใจของคนทั้งโลก ภาพยนตร์ที่สร้างจากบทประพันธ์ชื่อเดียวกัน ส่งให้ จูดี้ การ์แลนด์ ขึ้นแท่นกลายเป็นดาราขวัญใจของชาวอเมริกัน ตัวภาพยนตร์ติดอันดับคลาสสิกตลอดกาลมาจนถึงทุกวันนี้ ความสำเร็จของออซ เกิดจากปลายปากกาของชายที่มีชื่อว่า แอล. แฟรงก์ โบห์ม

โบห์มในวัยหนุ่ม

แท้จริงแล้วแอล แฟรงค์ โบห์มเป็นนามปากกาของ ไลแมน แฟรงก์ โบห์ม (Lyman frank Baum) ชาวอเมริกันเชื้อสายเยอรมันและไอริช ครอบครัวของเขามีฐานะเข้าขั้นมหาเศรษฐี และในช่วงวัยหนุ่ม โบห์มเป็นเจ้าของโรงละครที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากใน Syracuse เปิดแสดงละครเวทีมากมายหลายเรื่อง และบางเรื่องก็เป็นผลงานเขียนบทของเขา

เด็กชายโบห์ม เกิดในครอบครัวที่มีฐานะดี

หลังจากเกิดไฟไหม้โรงละครจนธุรกิจเสียหาย โบห์มสูญเสียธุรกิจหลักของเขาและครอบครัวไปอย่างน่าเสียดาย รวมถึงบทละครที่เขาเขียนอีกหลายสิบเรื่องก็ไหม้ไปในกองเพลิงด้วย

หลังเหตุการณ์ในครั้งนั้น โบห์มและภรรยาตัดสินใจย้ายครอบครัวไปตั้งหลักแหล่งใหม่ที่รัฐเซาท์ดาโคตา ที่นั่นเขาเปลี่ยนไลน์ทำอาชีพใหม่ คือเปิดร้านค้าสะดวกซื้อและทำหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นชื่อ The Aberdeen Saturday Pioneer แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด หลังจากนั้นเพียงสามปี สภาวะเศรษฐกิจทำให้หนังสือพิมพ์ของเขาต้องปิดตัวลงและโบห์มกับครอบครัวก็ย้ายบ้านกันอีกครั้ง

นิทานเรื่อง Father Goose

คราวนี้พวกเขาย้ายไปอยู่ที่ชิคาโก โบห์มทำงานอีกหลายอย่าง สุดท้ายเขาค้นพบว่า งานที่รักมากที่สุดก็คืองานเขียน เขาจึงได้ลงทุนกับเพื่อนซึ่งเป็นนักวาดภาพชื่อ W. W. Denslow ทำหนังสือนิทานเด็กขึ้นมาเล่มหนึ่ง ชื่อ Father Goose : His Story เป็นนิทานคำกลอนขำๆ ปรากฏว่าหนังสือเล่มนั้นกลายเป็นที่ชื่นชอบของนักอ่านเป็นอย่างมาก นิทานพ่อห่านติดอับดับขายดีภายในเวลาไม่กี่เดือน และได้รับรางวัลหนังสือเยาวชนมากมาย นั่นทำให้โบห์มกลับมามีกำลังใจและมีแรงฮึดขึ้นอีกครั้ง รวมถึงรายได้จากหนังสือนิทานพ่อห่านทำให้โบห์มสามารถนำไปต่อยอดทำอย่างอื่นได้อีกมากมาย

เดนสโลว์ นักวาดภาพประกอบคู่บุญของโบห์ม ทั้งสองทำงานด้วยกันมานานหลายสิบปี

หลังจากนิทานเรื่องพ่อห่านประสบความสำเร็จอย่างสูง โบห์มก็ลงมือเขียนหนังสือเรื่องใหม่ โดยมีเดนสโลว์วาดภาพประกอบ ทั้งสองลงทุนพิมพ์หนังสือด้วยกันและถือลิขสิทธิ์ร่วมกัน ทันทีที่ พ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ ออกวางจำหน่าย หนังสือขายหมดเกลี้ยงภายในเวลากไม่ถึงเดือน ต้องพิมพ์ซ้ำครั้งที่สองและสามอย่างรวดเร็ว รวมถึงได้ติดอันดับขายดีอยู่นานถึงสองปี ทำให้โบห์มซึ่งตอนแรกไม่ได้คิดเรื่องภาคต่อของพ่อมดออซ ต้องเขียนงานในชุดนี้ออกมาอีก 13 เล่ม

งานในชุดออซนี้มีความน่าสนใจมาก นอกจากความสนุกสนานมหัศจรรย์ของเนื้องเรื่องแล้ว นักวิจารณ์หลายคนยังวิเคราะห์ว่า เรื่องเล่าของโบห์มสะท้อนภาพสังคมอเมริกาเอาไว้อย่างเนียบเนียน ถึงกับมีวิชา ‘ออซวิทยา’ ในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง หยิบยกเอาเรื่องราวที่โบห์มเขียนมาเรียนกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เพื่อหา Hidden Message ที่โบห์มซ่อนเอาไว้

พ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ ฉบับพิมพ์ครั้งแรก
ฉบับภาษาไทยของเจ้าหญิงออซมา แปลโดยอ.สนิทวงศ์

น่าเสียดายที่คนไทยเราส่วนมากรู้จักกันเฉพาะเรื่อง พ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ ที่จริงยังมีนักแปลได้แปลผลงานเรื่องอื่นๆในชุดออซออกมาอีกหลายเล่ม เช่น เจ้าหญิงออซมา (แปลโดย อ.สนิทวงศ์), ดินแดนอัศจรรย์แห่งออซ (แปลโดย น้ำค้าง), สาวน้อยเศษผ้าแห่งออซ  (แปลโดย แก้วคำทิพย์ ไชย) เป็นต้น

ฉบับภาษาไทยของดินแดนอัศจรรย์แห่งออซ แปลโดยน้ำค้าง
ภาพยนตร์เรื่อง The Wizard of Oz ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ส่งให้จูดี้ การ์แลนด์ขึ้นแท่นดาราดังตลอดกาล

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงจากผลงานชุดพ่อมดออซ โบห์มมีโอกาสได้ทำตามความฝันของเขาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อได้นำเอาบทประพันธ์เรื่อง พ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ ไปดัดแปลงเป็นละครเพลง และออกแสดงที่บรอดเวย์ แน่นอนว่ามีผู้คนรอดูกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ละครประสบความสำเร็จจนต้องเพิ่มรอบแสดงอีกหลายร้อยรอบ

โบห์มรายล้อมด้วยตัวละครจากละครเวทีเรื่องพ่อมมดมหัศจรรย์แห่งออซที่เขาภาคภูมิใจ

โบห์มเสียชีวิตในวัย 62 ปี ด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตกในปี พ.ศ. 2462 ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผลงานเรื่องสุดท้ายของเขาคือ กลินดาแห่งออซ (Glinda of Oz) ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในปีต่อมาหลังจากเขาเสียชีวิต

ลายเซ็นของโบห์ม ซึ่งปัจจุบันหนังสือเล่มที่มีลายเซ็นของโบห์มมีราคาแพงมากหลายหมื่นดอลล่าร์
หลุมฝังศพของโบห์ม ที่แคลิฟอร์เนีย

และเรื่องราวของโบห์มก็เป็นกำลังใจให้กับผู้คนอีกมากมายได้เป็นอย่างดีว่า หากมีความฝัน ก็อย่ายอมทิ้งฝันของคุณ แม้จะมีอุปสรรคมากมาย สักวันฝันของคุณก็จะเป็นจริง ดังบทเพลงที่ในภาพยนตร์ที่ จูดี้ การ์แลนด์ ซึ่งแสดงเป็นหนูน้อยโดโรธีร้องเอาไว้ว่า…

Somewhere over the rainbow, bluebirds fly. Birds fly over the rainbow. Why then, oh, why can’t I?

 

Don`t copy text!