พระนางเธอลักษมีลาวัณ
โดย : พงศกร
อ่านคลาสสิก โดย พงศกร อีกหนึ่งคอลัมน์ที่อ่านเอาภูมิใจนำเสนอกับการถ่ายทอดเรื่องราวของนักเขียนรุ่นเก่า ซึ่งมีผลงานเป็นตำนานและหาอ่านได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน เพื่อให้นักอ่านที่รักทุกเพศวัยจะได้สัมผัสกับความลึกซึ้งของงานเขียนและได้รับรู้เรื่องราวดีๆ มากมายในแวดวงวรรณกรรม
*************************
คนไทยส่วนมากรู้จักพระนาม ‘พระนางเธอลักษมีลาวัณ’ ในฐานะพระมเหสีของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่มีน้อยคนมากที่รู้ว่านอกจากพระสิริโฉมที่งดงามแล้ว พระองค์ยังมีพระอัจฉริยภาพในด้านการประพันธ์เป็นอย่างมาก มีผลงานเขียนทั้งบทละคร โคลงกลอน รวมถึงนวนิยายเป็นจำนวนมาก
ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจแต่อย่างใด เพราะพระองค์คือพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ กับ หม่อมหลวงตาด วรวรรณ ผู้ทรงก่อตั้งละครคณะปรีดาลัยขึ้นมาเมื่อช่วงปลายรัชกาลที่ 5
ปรีดาลัยเป็นคณะละครที่โด่งดังมาก ละครทุกเรื่องที่จัดแสดงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เรื่องที่โด่งดังที่สุดก็คือ สาวเครือฟ้า คณะละครปรีดาลัยมาเฟื่องฟูที่สุดในช่วงรัชกาลที่ 6 ค่อยๆ เสื่อมความนิยมลงไปในช่วงรัชกาลที่ 7 ก่อนที่พระนางเธอลักษมีลาวัณจะทรงฟื้นฟูโรงละครขึ้นใหม่อีกครั้งในช่วงรัชกาลที่ 8
พระนางเธอลักษมีลาวัณ เป็นสตรีที่มีชะตาชีวิตผกผันราวกับนวนิยาย ยามขึ้นก็ขึ้นสูงสุด ยามลงก็ลงจนถึงที่สุดเช่นกัน
พระองค์มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าหญิงวรรณพิมล วรวรรณ หรือท่านหญิงติ๋ว ต่อมาได้รับพระราชทานพระนามใหม่จากรัชกาลที่ 6 เป็นหม่อมเจ้าหญิงลักษมีลาวัณ
เพราะมีสายเลือดศิลปิน หม่อมเจ้าหญิงลักษมีลาวัณจึงมีความสามารถในเรื่องการประพันธ์ พระองค์สนพระทัยด้านวรรณกรรม และทรงพระนิพนธ์โคลงกลอนมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
เมื่อชันษา 21 ปี พระองค์มีโอกาสได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในงานประกวดภาพเขียน ณ โรงละครวังพญาไท ครั้งนั้นพระนางเธอเสด็จไปพรอมกับเจ้าพี่เจ้าน้องหลายองค์ จะว่าไปแล้วงานที่จัดขึ้นในครั้งนั้นก็คืองานที่ในหลวงจะทรงหาคู่ครองที่เหมาะสมนั่นเอง
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงชักชวนให้ท่านหญิงไปแสดงละครในวังหลวง และโปรดให้แสดงเป็นนางเอกในพระราชนิพนธ์หลายเรื่อง เช่น เป็นเจ้าหญิงอันโดเมดราในเรื่อง วิวาหพระสมุท นับเป็นสตรีท่านแรกที่ได้รับบทนางเอกในละครพูด
หลังจากงานเลี้ยงที่วังพญาไทไม่นาน พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสถาปนาหม่อมเจ้าวัลลภาเทวี ซึ่งเป็นพระภคินีของหม่อมเจ้าหญิงวรณพิมลขึ้นเป็นพระวรกัญญาปทาน พระองค์เจ้าวัลลภาเทวี ในฐานะพระคู่หมั้น แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็ทรงถอนหมั้นพระวรกัญญาปทาน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาหม่อมเจ้าหญิงลักษมีลาวัณเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลักษมีลาวัณ พร้อมกับทรงหมั้น และมีพระราชวินิจฉัยว่าจะได้ทรงทำการราชาภิเษกสมรสด้วย
แต่แล้วโชคชะตาก็พลิกผันอีกครั้ง เพราะเมื่อเฉลิมพระยศได้เพียงหนึ่งเดือนสิบเก้าวัน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวก็เปลี่ยนพระทัย ไปทรงอภิเษกสมรสกับพระสุจริตสุดา ธิดาของเจ้าพระยาสุธรรมมนตรี (ปลื้ม สุจริตกุล) แทน ทรง ‘แยกกันอยู่’ กับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลักษมีลาวัณซึ่งยังไม่ทันได้อภิเษกสมรสกัน ต่อมาพระองค์เจ้าลักษมีลาวัณก็ได้รับโปรดเกล้าสถาปนาขึ้นเป็น พระนางเธอลักษมีลาวัณ
หลังจากนั้นพระองค์ก็เริ่มเก็บพระองค์ ลดบทบาทต่างๆ ลง พร้อมกับแยกพระตำหนักไปประทับอยู่ตามลำพัง ทรงประทับอยู่อย่างสันโดษ และเพื่อเลี่ยงความเงียบเหงา พระองค์จึงให้เวลากับการนิพนธ์หนังสือและบทละคร รวมถึงการรื้อฟื้นคณะละครปรีดาลัยของพระบิดาขึ้นมาอีกครั้ง
ในช่วงนั้นเอง ทรงเขียนนิพนธ์นวนิยายออกมามากมายหลายเรื่อง ในนามปากกา ‘ปัมทะ’ ‘วรรณพิมล’ และ ‘พระนางเธอลักษมีลาวัณ’
นวนิยายแทบทุกเรื่องของพระองค์เป็นที่นิยมของผู้อ่านในเวลานั้นเป็นอย่างมาก เพราะโครงเรื่องแปลกใหม่ หลายเรื่องเป็นเรื่องแปล เช่น ชีวิตหวาม ที่ทรงแปลมาจาก The Reflections of Ambrosine ของ Elinor Glyn เป็นต้น
นวนิยายเรื่องที่สร้างชื่อเสียงให้กับพระองค์มากที่สุดคือ เรือนใจที่ไร้ค่า ซึ่งเป็นเรื่องราวของสุภาพสตรีในสังคมชั้นสูงของสยามที่ต้องประสบกับชะตากรรมอันโลดโผน รันทด และความรักที่พลิกผัน เรื่องนี้นักอ่านหลายคนลงความเห็นว่า มีเค้าโครงชีวิตของพระองค์ปะปนอยู่ด้วยไม่น้อย เรือนใจที่ไร้ค่าได้รับความนิยมสูงมากจนต้องมีภาคสองตามมา
แต่อย่างที่เราทราบกันดีว่าชีวิตของคนเรานั้นได้ถูกกำหนดมาแล้ว วันหนึ่งในปี พ.ศ. 2504 พระนางเธอลักษมีลาวัณถูกคนร้ายที่เข้ามาขโมยทรัพย์สินปลงพระชนม์ พระศพของพระนางถูกอำพรางไว้ จนหลายวันต่อมาจึงถูกพบ และได้รับพระราชทานเพลิงอย่างสมพระเกียรติตามโบราณราชประเพณี
ปัจจุบันนี้ พระนิพนธ์ของพระนางเธอลักษมีลาวัณ กลายเป็นบทประพันธ์คลาสสิกที่หายาก ในตลาดหนังสือเก่ามีราคาแพงมาก และไม่มีใครรู้ว่าจะมีโอกาสได้นำมาพิมพ์ซ้ำเพื่อเผยแพร่อีกหรือไม่
- READ ชินจิ วาดะ
- READ ชาร์ลส ดิกเกนส์
- READ แขไข เทวินทร์
- READ โรอัลด์ ดาห์ล
- READ ร.จันทพิมพะ
- READ กาญจนา นาคนันทน์
- READ เจน ออสเตน
- READ คำพูน บุญทวี
- READ เอ เอ มิลน์
- READ โกวเล้ง
- READ ดวงดาว
- READ สุริยฉัตร ชัยมงคล
- READ อกาธา คริสตี้
- READ บาร์บารา คาร์ทแลนด์
- READ บุษยมาส
- READ สรจักร
- READ เบียทริกซ์ พอตเตอร์
- READ วาณิช จรุงกิจอนันต์
- READ ริชาร์ด อดัมส์
- READ เจ้าฟ้ากุ้ง
- READ น้ำอบ
- READ เจ้าฟ้ากุณฑล – เจ้าฟ้ามงกุฎ
- READ เท็ตสุกะ โอซามุ
- READ ฟรานเซส ฮอดจ์สัน เบอร์เนตต์
- READ เพ็ญพิมล ธัมมรัคคิต
- READ ท. เลียงพิบูลย์
- READ อี. บี. ไวต์
- READ ลพบุรี
- READ โดโรธี ดานีลส์
- READ คุณพุ่ม
- READ โดโรธี อีเดน
- READ จรัสพร
- READ ริชาร์ด แมทธีสัน
- READ สุภาว์ เทวกุลฯ
- READ วิลเลียม เชคสเปียร์
- READ กิมย้ง
- READ สุวรรณี สุคนธา
- READ เหม เวชกร
- READ ลิวอิส แครอล
- READ เพิร์ล เอส บั๊ค
- READ ศรีฟ้า ลดาวัลย์
- READ รัดยาร์ด คิปลิง
- READ พระนางเธอลักษมีลาวัณ
- READ ซี. เอส. ลิวอิส
- READ พิมล กาฬสีห์
- READ จินตนา ปิ่นเฉลียว
- READ มากาเร็ต มิตเชลล์
- READ สันต์ เทวรักษ์
- READ เอมิลี่ บรองเต้
- READ อ.ไชยวรศิลป์
- READ บรรจบ พันธุเมธา
- READ มารี คอเรลลี
- READ แอล แฟรงค์ โบห์ม
- READ ดอกไม้สด
- READ เอโดงาวะ รันโป
- READ น.ม.ส
- READ วิกตอเรีย โฮลต์
- READ อ็องตวน เดอ แซ็งเต็กซูว์เปรี
- READ อ.สนิทวงศ์
- READ จันตรี ศิริบุญรอด
- READ ลอรา อิงกัลส์ ไวล์เดอร์
- READ น้อย ชลานุเคราะห์
- READ ไอแซก ไดนีเสน
- READ ศุภร บุนนาค