ซี. เอส. ลิวอิส
โดย : พงศกร
อ่านคลาสสิก โดย พงศกร อีกหนึ่งคอลัมน์ที่อ่านเอาภูมิใจนำเสนอกับการถ่ายทอดเรื่องราวของนักเขียนรุ่นเก่า ซึ่งมีผลงานเป็นตำนานและหาอ่านได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน เพื่อให้นักอ่านที่รักทุกเพศวัยจะได้สัมผัสกับความลึกซึ้งของงานเขียนและได้รับรู้เรื่องราวดีๆ มากมายในแวดวงวรรณกรรม
*************************
ใครจะเชื่อว่าแท้จริงแล้วยังมีดินแดนมหัศจรรย์ซ่อนอยู่หลังตู้เสื้อผ้า
นั่นสิครับ เป็นไปไม่ได้หรอก เรื่องแบบนี้มีอยู่แต่ในนิยายหลอกเด็กเท่านั้น
แน่นอน สี่พี่น้อง ปีเตอร์ ซูซาน เอ็ดมันด์ และลูซี ก็ไม่เชื่อเรื่องหลอกเด็กแบบนี้เช่นกัน
แต่แล้ว ในวันหนึ่งที่ลูซีเข้าไปในตู้เสื้อผ้า แล้วพบว่าตู้ใบนั้นเป็นประตูเชื่อมต่อระหว่างโลกของเธอกับอาณาจักรนาร์เนีย การผจญภัยอันสุดแสนมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น
สี่พี่น้องได้เดินทางเข้าไปในโลกที่พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่จริง ได้ไปต่อสู้กับเหล่าแม่มดและตัวร้าย จนในที่สุดก็ได้รับการยกย่องให้เป็นพระราชาและพระราชินีปกครองดินแดนนาร์เนียอยู่เป็นเวลานาน จนกระทั่งวันหนึ่งพวกเขาได้หวนกลับคืนมาสู่โลกปัจจุบันอีกครั้ง
The Lion, the Witch and the Wardrobe หรือ เมืองในตู้เสื้อผ้า (ฉบับแปลโดยสุธัชริน, สำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพาณิช) หรือ ตู้พิศวง (ฉบับแปลโดย สุมนา บุณยะรัตเวช, สำนักพิมพ์ผีเสื้อ) คือหนังสือเล่มแรกในชุดผจญภัยในดินแดนนาร์เนีย ซึ่งมีทั้งหมดเจ็ดเล่มด้วยกัน ผู้เขียนคือ ซี. เอส. ลิวอิส พิมพ์ออกเผยแพร่สู่สายตานักอ่านครั้งแรกในปี พ.ศ. 2493 และประสบความสำเร็จในทันที
ซี. เอส. ลิวอิส หรือ ไคลฟ์ สเตเปิลส์ ลิวอิส เป็นคนไอริช เขาเป็นนักอ่านมาตั้งแต่เด็กๆ นอกจากนี้ พี่เลี้ยงชาวไอริชก็ชอบเล่าเทพนิยาย และนิทานเกี่ยวกับเทพปกรณัมต่างๆ ให้ฟัง แรงบันดาลใจในการเขียน เมืองในตู้เสื้อผ้า นั้น ชัดเจนอยู่ในสมองของเขาตั้งแต่อายุสิบหก
ในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อเด็กในกรุงลอนดอนต้องอพยพลี้ภัยไปยังชนบท มีเด็ก 4 คนได้ถูกจัดให้มาพักอยู่ในบ้านของเขา
บรรยากาศช่วงสงครามเต็มไปด้วยความหดหู่และทำให้เด็กๆ เกิดความเครียด ลิวอิสจึงเริ่มเขียนนิทานให้เด็กทั้งสี่อ่าน เรื่องราวของเด็กๆ ชื่อ แอนน์ มาร์ติน โรส และปีเตอร์ ซึ่งถูกส่งออกจากเมืองหลวง เพราะต้องหลบภัยทางอากาศ และมีเรื่องสนุกๆ เกิดขึ้นในเมืองชนบท
หลังจากนั้น ลิวอิสจึงนำเรื่องมาปรับปรุงใหม่ เปลี่ยนชื่อเด็ก 4 คน เป็น ปีเตอร์ ซูซาน เอ็ดมันด์ และลูซี เพิ่มความแฟนตาซีให้เด็กทั้ง 4 คน เดินทางผ่านตู้เสื้อผ้าเข้าไปในอีกโลกที่มีชื่อว่านาร์เนีย
หลังจาก เมืองในตู้เสื้อผ้า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ผู้อ่านเรียกร้อง อยากอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับนาร์เนียอีก ลิวอิสจึงเขียนเรื่องในชุดนี้ออกมาอีกรวมทั้งหมดเจ็ดเล่ม โดยมีตัวละครใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาเยอะมาก หนึ่งในตัวเอกที่ปรากฏตัวอยู่ในทุกเล่มก็คือ อัสลัน สิงโตที่เป็นผู้ปกครองนาร์เนียโดยแท้จริง
ลิวอิสเป็นคริสตศาสนิกชนที่เคร่งครัด ในนวนิยายและวรรณกรรมทุกเรื่องของเขาจะมีคติทางคริสต์ศาสนาผสมผสานเข้าไปอย่างแนบเนียน
ลิวอิสเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด สอนหนังสือคณะเดียวกันกับ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน เจ้าของผลงาน ลอร์ดออฟเดอะริง อันลือลั่น ทั้งสองสนิทกันมาก มีการตั้งชมรมนักเขียนและพบกันเป็นประจำทุกสัปดาห์
นอกจากวรรณกรรมชุดนาร์เนียแล้ว ลิวอิสยังเขียนหนังสืออีกมากมายหลายเล่ม ส่วนมากเกี่ยวข้องกับศาสนา และยังมีบทกวีอีกส่วนหนึ่ง
ด้านชีวิตครอบครัว ลิวอิสเป็นโสดไม่ได้แต่งงาน เขามีเพื่อนสนิทเป็นทหาร ชื่อ เอ็ดเวิร์ด มัวร์ พวกเขาทั้งสองออกรบร่วมกัน และสัญญาว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นใรระหว่างสงคราม มีใครต้องตายไปก่อนละก็ คนที่เหลือจะต้องดูแลครอบครัวของอีกคน
หลังจากสัญญาแบบนั้นได้ไม่กี่วัน เอ็ดเวิร์ดก็เสียชีวิตลงจากการรบ ลิวอิสรักษาคำสัญญาของเขา เมื่อสงครามสงบลง ลิวอิสก็เดินทางไปพบกับ แจนนี มัวร์ มารดาของเอ็ดเวิร์ด และดูแลเธอราวกับเป็นมารดาแท้ๆ ของตัวเอง จนกระทั่งวาระสุดท้าย
ในช่วงปลายของชีวิต ลิวอิสรับบุตรบุญธรรมสองคน เป็นบุตรของเพื่อนสนิทที่กำลังป่วยหนักด้วยโรคมะเร็งกระดูก ลิวอิสเริ่มป่วยด้วยโรคไตในช่วงปี พ.ศ. 2504 อาการของเขาแย่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเสียชีวิตลงในปี พ.ศ.2506 ในวัย 64 ปี
วันที่ลิวอิสเสียชีวิต เป็นวันเดียวกับที่ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี ถูกลอบสังหาร ทั้งสองรู้จักกันและเคยออกรายการโทรทัศน์ด้วยกันหลายครั้ง นักข่าวชาวไอริชบอกว่า ข่าวการเสียชีวิตของประธานาธิบดีเคนเนดีเป็นข่าวใหญ่เสียจนกลบข่าวการตายของลิวอิสไปเสียสนิท ไม่มีใครรู้ว่านักเขียนผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งได้จากโลกนี้ไปแล้ว เพราะมัวแต่สนใจติดตามข่าวว่าใครคือคนร้ายฆ่าเคนเนดี
ศพของเขาถูกฝังที่สุสานเมือง Headington ซึ่งเป็นสุสานของครอบครัวลิวอิส ทุกวันนี้ก็ยังมีแฟนนักอ่านจากทั่วทุกมุมโลกแวะไปเยี่ยมเยียนหลุมศพของลิวอิสที่ไม่ขาดสายสานแห่งนั้น
- READ ชินจิ วาดะ
- READ ชาร์ลส ดิกเกนส์
- READ แขไข เทวินทร์
- READ โรอัลด์ ดาห์ล
- READ ร.จันทพิมพะ
- READ กาญจนา นาคนันทน์
- READ เจน ออสเตน
- READ คำพูน บุญทวี
- READ เอ เอ มิลน์
- READ โกวเล้ง
- READ ดวงดาว
- READ สุริยฉัตร ชัยมงคล
- READ อกาธา คริสตี้
- READ บาร์บารา คาร์ทแลนด์
- READ บุษยมาส
- READ สรจักร
- READ เบียทริกซ์ พอตเตอร์
- READ วาณิช จรุงกิจอนันต์
- READ ริชาร์ด อดัมส์
- READ เจ้าฟ้ากุ้ง
- READ น้ำอบ
- READ เจ้าฟ้ากุณฑล – เจ้าฟ้ามงกุฎ
- READ เท็ตสุกะ โอซามุ
- READ ฟรานเซส ฮอดจ์สัน เบอร์เนตต์
- READ เพ็ญพิมล ธัมมรัคคิต
- READ ท. เลียงพิบูลย์
- READ อี. บี. ไวต์
- READ ลพบุรี
- READ โดโรธี ดานีลส์
- READ คุณพุ่ม
- READ โดโรธี อีเดน
- READ จรัสพร
- READ ริชาร์ด แมทธีสัน
- READ สุภาว์ เทวกุลฯ
- READ วิลเลียม เชคสเปียร์
- READ กิมย้ง
- READ สุวรรณี สุคนธา
- READ เหม เวชกร
- READ ลิวอิส แครอล
- READ เพิร์ล เอส บั๊ค
- READ ศรีฟ้า ลดาวัลย์
- READ รัดยาร์ด คิปลิง
- READ พระนางเธอลักษมีลาวัณ
- READ ซี. เอส. ลิวอิส
- READ พิมล กาฬสีห์
- READ จินตนา ปิ่นเฉลียว
- READ มากาเร็ต มิตเชลล์
- READ สันต์ เทวรักษ์
- READ เอมิลี่ บรองเต้
- READ อ.ไชยวรศิลป์
- READ บรรจบ พันธุเมธา
- READ มารี คอเรลลี
- READ แอล แฟรงค์ โบห์ม
- READ ดอกไม้สด
- READ เอโดงาวะ รันโป
- READ น.ม.ส
- READ วิกตอเรีย โฮลต์
- READ อ็องตวน เดอ แซ็งเต็กซูว์เปรี
- READ อ.สนิทวงศ์
- READ จันตรี ศิริบุญรอด
- READ ลอรา อิงกัลส์ ไวล์เดอร์
- READ น้อย ชลานุเคราะห์
- READ ไอแซก ไดนีเสน
- READ ศุภร บุนนาค