สุวรรณี สุคนธา
โดย : พงศกร
อ่านคลาสสิก โดย พงศกร อีกหนึ่งคอลัมน์ที่อ่านเอาภูมิใจนำเสนอกับการถ่ายทอดเรื่องราวของนักเขียนรุ่นเก่า ซึ่งมีผลงานเป็นตำนานและหาอ่านได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน เพื่อให้นักอ่านที่รักทุกเพศวัยจะได้สัมผัสกับความลึกซึ้งของงานเขียนและได้รับรู้เรื่องราวดีๆ มากมายในแวดวงวรรณกรรม
*************************
ศิลปินหลายคนมีความสามารถหลากหลายด้าน ครูเหม เวชกร นอกจากวาดภาพเก่งแล้วยังเล่นดนตรีเก่งไม่แพ้กัน, ครูเอื้อ อัจฉริยะกุล เล่นดนตรีเก่งและยังแต่งกลอนเก่ง, ‘รงค์ วงษ์สวรรค์ นอกจากเขียนหนังสือได้ดีเยี่ยม ทุกคนล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทำอาหารเก่งมาก
เช่นเดียวกับศิลปินหญิงแห่งละแวกหน้าพระลานคนนี้ สุวรรณี สุคนธ์เที่ยง ไม่เพียงแต่วาดภาพเก่ง ไม่นับเรื่องฝีมือทำอาหารที่เป็นเลิศ เธอยังเขียนหนังสือได้อย่างยอดเยี่ยม นับเป็นหนึ่งในตำนานของนักเขียนแถวหน้าของเมืองไทย
สุวรรณีเกิดปี พ.ศ. 2475 หากเธอยังมีชีวิตอยู่ ในวันนี้จะมีอายุเท่ากับประชาธิปไตยของประเทศ
สุวรรณีเป็นคนพิษณุโลก เรียนจบด้านจิตรกรรมและประติมากรรมจากมหาวิทยาลัยศิลปากร มีโอกาสได้เป็นลูกศิษย์ของ อ.ศิลป์ พีระศรี จึงไม่ต้องสงสัยเรื่องฝีมือด้านจิตรกรรมของเธอว่าจะฉกาจฉกรรจ์เพียงใด หลังเรียนจบเธอเป็นครู สอนวิชาศิลปะที่โรงเรียนศิลปศึกษาอยู่ราวสามปี ก่อนจะไปเป็นอาจารย์ประจำที่มหาวิทยาลัยศิลปากร
สุวรรณีเริ่มเขียนเรื่องสั้น เรื่องแรกคือ ‘จดหมายถึงปุก’ ในราวปี พ.ศ. 2508
จดหมายถึงปุก ได้ลงตีพิมพ์ในนิตยสาร สตรีสาร ตามมาด้วยเรื่องสั้นอีกจำนวนหนึ่ง ก่อนที่สุวรรณีจะเริ่มเขียนนวนิยายเรื่องแรก ชื่อ ‘สายบ่หยุดเสน่ห์หาย’ ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักอ่านเป็นอย่างดีมาก
งานเขียนของสุวรรณีมีเสน่ห์ หลายคนบอกว่าอ่านงานของเธอแล้วเหมือนได้ชมภาพศิลปะสวยๆ เพราะถ้อยคำที่สุวรรณีบรรยายในนวนิยายนั้นชัดเจน หากขณะเดียวกันก็อ่อนไหวราวกับภาพเขียน ทำให้คนอ่านคล้อยตาม และเห็นภาพของเรื่องราวและความเป็นไปของตัวละครได้อย่างชัดเจน หลายเรื่องเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่พบเห็นกันทั่วไป แต่พอผ่านการบอกเล่าจากปลายปากกาของเธอแล้ว เรื่องราวเหล่านั้นก็จะดูพิเศษขึ้นมาทันที และนี่คือพรสวรรค์ของเธอ
สุวรรณีเขียนนวนิยายเอาไว้หลายสิบเรื่อง เช่น คนเริงเมือง, เก้าอี้ขาวในห้องแดง, ทองประกายแสด, จามร, ทะเลฤๅอิ่ม, ความรักครั้งสุดท้าย, พระจันทร์สีน้ำเงิน และอีกมากมาย แต่ที่โด่งดังและคนไทยรู้จักมากที่สุดคือ เรื่องของน้ำพุ ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่นวนิยาย แต่เป็นหนังสืองานศพของน้ำพุ หรือ วงศ์เมือง นันทขว้าง บุตรชายของคุณสุวรรณี ที่เสียชีวิตจากยาเสพติด
การจากไปของน้ำพุ สร้างความโศกเศร้าให้ครอบครัวนันทขว้างเป็นอย่างมาก คุณสุวรรณีเสียศูนย์ไปพักใหญ่ หลังจากตั้งหลักได้เธอเปลี่ยนความเศร้าเป็นพลัง จึงลงมือรวบรวมจดหมายทั้งสิบฉบับของน้ำพุ พิมพ์เป็นหนังสือ โดยหวังว่าจะไม่มีครอบครัวไหนต้องสูญเสียลูกหรือบุคคลในครอบครัวไปจากยาเสพติดเหมือนกับเธอ
หนังสือ เรื่องของน้ำพุ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะในเวลานั้นไม่มีหนังสือหรือเรื่องราวทำนองนี้ออกมาให้อ่านกันมากนัก ครอบครัวไหนมีลูกติดยาเสพติด เหมือนจะเป็นเรื่องน่าอับอาย ไม่มีใครอยากพูดถึง แต่เมื่อคุณสุวรรณีนำมาเล่าตรงๆ แบบนี้ จึงน่าสนใจมาก ถึงขนาดกระทรวงศึกษาธิการบรรจุ ‘เรื่องของน้ำพุ’ ไว้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยม และอ่านมาจนถึงทุกวันนี้
นอกจากเป็นหนังสือ เรื่องของน้ำพุ ยังได้รับการถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ นักแสดงที่รับบทน้ำพุมักจะได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นอย่างมาก
นวนิยายเกือบทุกเรื่องของคุณสุวรรณีมีประเด็นที่น่าสนใจ สะท้อนภาพตัวละครที่เป็นชนชั้นกลางในสังคม การก่อร่างสร้างตัว ปัญหาชีวิตและสภาพสังคมไทยในช่วงปี พ.ศ. 2520-2530 ตัวละครเอกโดยเฉพาะนางเอก เป็นผู้หญิงที่มีมิติ มีทั้งมุมดีและมุมไม่ดีอยู่ในตัว มีความเป็นปุถุชนสูง ไม่แบนราบเหมือนอย่างในนวนิยายเรื่องอื่นๆ บางเรื่องนางเอกมีสามีถึงเจ็ดคน นับเป็นเรื่องที่ท้าทายสังคมในห้วงเวลานั้นเป็นอย่างมาก
งานเขียนของคุณสุวรรณีเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดที่สามารถเป็นรายได้หลักเลี้ยงตัวเอง สุวรรณีจึงลาออกจากราชการ มาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในปี พ.ศ. 2515 เธอทำนิตยสารของตัวเองชื่อ ‘ลลนา’ นับเป็นนิตยสารที่มีความทันสมัย แปลก และต่างจากทุกเล่มในเวลานั้น
ลลนา จะมีนางแบบและนายแบบขึ้นปกในชุดเสื้อผ้าที่นำสมัย เป็นนิตยสารรุ่นแรกๆ ที่จะมีคอลเลกชันชุดว่ายน้ำในฉบับซัมเมอร์ และเริ่มมีภาพประกอบนวนิยายที่วาดโดยศิลปินชื่อดัง
ในช่วงนั้นคุณสุวรรณีจะเขียนนวนิยายลงใน ลลนา เพียงเล่มเดียว ใครอยากอ่านงานของเธอต้องอ่านที่ ลลนา เท่านั้น
นวนิยายเรื่องสุดท้ายที่คุณสุวรรณีเขียนลงในลลนาชื่อ ‘วันวาร’ ที่ คุณกฤษณา อโศกสิน อ่านแล้วรู้สึกว่าเศร้ามาก คุณสุวรรณีเล่าให้คุณกฤษณาฟังว่าเป็นเรื่องของตัวเอง เขียนใกล้จบแล้ว นางเอกที่ชื่อ ‘สวัสดี’ ก็คือเงาของ ‘สุวรรณี สุคนธา’ และตอนจบของเรื่อง ‘วันวาร’ นั้น ทุกคนจะทิ้งนางเอกไป ปล่อยให้นางเอกอยู่คนเดียวตามลำพัง กับหนังสือที่เธอรัก
หากนั่นเป็นเพียงเรื่องในนวนิยาย เพราะชีวิตจริงนั้น คุณสุวรรณีออกไปจ่ายตลาดในตอนเช้าของปีพ.ศ. 2527 แล้วถูกชิงทรัพย์ ปลายมีดของคนร้าย… ได้พรากชีวิตของ ‘สวัสดี’ ไปจากนักอ่านตลอดกาล…
- READ ชินจิ วาดะ
- READ ชาร์ลส ดิกเกนส์
- READ แขไข เทวินทร์
- READ โรอัลด์ ดาห์ล
- READ ร.จันทพิมพะ
- READ กาญจนา นาคนันทน์
- READ เจน ออสเตน
- READ คำพูน บุญทวี
- READ เอ เอ มิลน์
- READ โกวเล้ง
- READ ดวงดาว
- READ สุริยฉัตร ชัยมงคล
- READ อกาธา คริสตี้
- READ บาร์บารา คาร์ทแลนด์
- READ บุษยมาส
- READ สรจักร
- READ เบียทริกซ์ พอตเตอร์
- READ วาณิช จรุงกิจอนันต์
- READ ริชาร์ด อดัมส์
- READ เจ้าฟ้ากุ้ง
- READ น้ำอบ
- READ เจ้าฟ้ากุณฑล – เจ้าฟ้ามงกุฎ
- READ เท็ตสุกะ โอซามุ
- READ ฟรานเซส ฮอดจ์สัน เบอร์เนตต์
- READ เพ็ญพิมล ธัมมรัคคิต
- READ ท. เลียงพิบูลย์
- READ อี. บี. ไวต์
- READ ลพบุรี
- READ โดโรธี ดานีลส์
- READ คุณพุ่ม
- READ โดโรธี อีเดน
- READ จรัสพร
- READ ริชาร์ด แมทธีสัน
- READ สุภาว์ เทวกุลฯ
- READ วิลเลียม เชคสเปียร์
- READ กิมย้ง
- READ สุวรรณี สุคนธา
- READ เหม เวชกร
- READ ลิวอิส แครอล
- READ เพิร์ล เอส บั๊ค
- READ ศรีฟ้า ลดาวัลย์
- READ รัดยาร์ด คิปลิง
- READ พระนางเธอลักษมีลาวัณ
- READ ซี. เอส. ลิวอิส
- READ พิมล กาฬสีห์
- READ จินตนา ปิ่นเฉลียว
- READ มากาเร็ต มิตเชลล์
- READ สันต์ เทวรักษ์
- READ เอมิลี่ บรองเต้
- READ อ.ไชยวรศิลป์
- READ บรรจบ พันธุเมธา
- READ มารี คอเรลลี
- READ แอล แฟรงค์ โบห์ม
- READ ดอกไม้สด
- READ เอโดงาวะ รันโป
- READ น.ม.ส
- READ วิกตอเรีย โฮลต์
- READ อ็องตวน เดอ แซ็งเต็กซูว์เปรี
- READ อ.สนิทวงศ์
- READ จันตรี ศิริบุญรอด
- READ ลอรา อิงกัลส์ ไวล์เดอร์
- READ น้อย ชลานุเคราะห์
- READ ไอแซก ไดนีเสน
- READ ศุภร บุนนาค