คำพูน บุญทวี

คำพูน บุญทวี

โดย : พงศกร

Loading

อ่านคลาสสิก โดย พงศกร อีกหนึ่งคอลัมน์ที่อ่านเอาภูมิใจนำเสนอกับการถ่ายทอดเรื่องราวของนักเขียนรุ่นเก่า ซึ่งมีผลงานเป็นตำนานและหาอ่านได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน  เพื่อให้นักอ่านที่รักทุกเพศวัยจะได้สัมผัสกับความลึกซึ้งของงานเขียนและได้รับรู้เรื่องราวดีๆ มากมายในแวดวงวรรณกรรม

*************************

เขาคือซีไรต์คนแรกของประเทศไทย จากนวนิยายเรื่อง ‘ลูกอีสาน’

เขาเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ มีสำนักพิมพ์เป็นของตัวเอง และมีผลงานเขียนทั้งเรื่องสั้นและนวนิยายมากมาย

คำพูน บุญทวี เป็นนักเขียนที่มีเอกลักษณ์และลายเซ็นของงานเขียนที่โดดเด่น ยากจะหาใครเทียบ

ในวันที่โลกยังไม่หมุนเร็วอย่างวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาคอีสานเป็นดินแดนที่ห่างไกลจากความรับรู้ของผู้คน ส่วนมากแล้วในช่วงปีพ.ศ. ๒๕๑๐-๒๕๒๐ เมื่อเอ่ยถึงอีสาน ผู้คนส่วนมากจะนึกถึงภาพความแห้งแล้งและความยากลำบากเป็นส่วนใหญ่ หากงานเขียนของ คำพูน บุญทวี ทำให้คนไทยรู้จักอีสาน ผู้คน และวัฒนธรรมในหลากหลายแง่มุมขึ้น

คำพูนเป็นคนยโสธร มีชีวิตที่ผ่านความยากลำบากมามาก

คำพูนเป็นคนยโสธร ชื่อเดิมว่า ‘คูน’  ชื่อเดียวกับตัวเอกในลูกอีสาน

ใช่… บักคูนในลูกอีสาน ก็คือภาพจำลองในวัยเยาว์ของ คำพูน บุญทวี นั่นเอง

คำพูนรับรางวัลซีไรต์พระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่ประเทศฟิลิปปินส์

หลังจากล้มลุกคลุกคลาน สู้ชีวิต เคยเป็นครู กรรมกร ถีบสาม้อ เลี้ยงม้าแข่ง ขายผลไม้ รีดนมวัว สุดท้ายเขาได้เข้ารับราชการที่กรมราชทัณฑ์ เป็นผู้คุมนักโทษ และเริ่มต้นงานเขียนขึ้นอย่างมุ่งมั่น

คำพูนส่ง ‘ความรักในเหวลึก’ เรื่องสั้นเรื่องแรกในชีวิตไปที่นิตยสาร ฟ้าเมืองไทย และ อาจินต์ ปัญจพรรค์ เปลี่ยนชื่อเสียใหม่เป็น ‘นิทานลูกทุ่ง’ และลงตีพิมพ์ให้ หลังจากนั้นคำพูนก็ลงมือเขียนนวนิยายเรื่องแรกในชีวิตคือ ‘มนุษย์ร้อยคุก’ และเป็นที่นิยมชมชอบของนักอ่านในทันที

คำพูนเขียนทั้งเรื่องสั้นและเรื่องยาวลงในฟ้าเมืองไทยและนิตยสารอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง

ครั้งหนึ่ง คุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ ได้แนะนำให้คำพูนลองอ่าน บ้านเล็กในป่าใหญ่ ผลงานการแปลของ ‘สุคนธรส’ ดู เพราะเห็นว่าอาจจะสร้างแรงบันดาลใจให้ลองหยิบเอาเรื่องราววิถีชีวิตของชาวอีสานมาเล่าดูบ้าง

ลูกอีสานฉบับพิมพ์ครั้งแรกปีพ.ศ. ๒๕๑๙

ซึ่งก็ได้ผล เพราะหลังจากอ่าน บ้านเล็กในป่าใหญ่ จบลง คำพูนเกิดแรงบันดาลใจหยิบเอาเรื่องราวของเด็กชายชาวอีสาน กับวิถีชีวิตกับวัฒนธรรมท้องถิ่นมาเล่าเป็นนวนิยายชื่อ ‘ชีวิตของลูกผู้ชายชื่อคำพูน บุญทวี’

ลูกอีสานฉบับภาพยนตร์

หลังจาก อาจินต์ ปัญจพรรค์ ได้รับต้นฉบับและอ่านจบ เขาเสนอให้เปลี่ยนชื่อเป็น ‘ลูกอีสาน’ และลงพิมพ์ในนิตยสาร ฟ้าเมืองไทย ระหว่างปี ๒๕๑๘-๒๕๑๙

ลูกอีสาน สร้างปรากฏการณ์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากให้กับโลกวรรณกรรม เพราะไม่มีใครหยิบเอาเรื่องของคนอีสานมาบอกเล่าในแง่มุมที่น่ารักและน่าสนใจเช่นนี้มาก่อน

ภาพยนตร์เรื่องลูกอีสานถ่ายทอดชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนในภาคอีสานเอาไว้อย่างสง่างาม

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่ ‘ลูกอีสาน’ จะได้รับรางวัลนวนิยายดีเด่นจากการประกวดในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๑๙ และได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน  หรือซีไรต์ในอีก ๓ ปีต่อมา อีกทั้งยังได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศอีกหลายภาษา เช่น ญี่ปุ่น อังกฤษและฝรั่งเศส เป็นต้น

นายฮ้อยทมิฬคืออีกหนึ่งนวนิยายที่มีชื่อเสียงของคำพูน บุญทวี

ความสำเร็จของลูกอีสาน ทำให้นวนิยายเรื่องต่อๆ มาของคำพูนได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เกือบทุกเรื่องจะมีเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมอีสาน เรื่องเล่า ความเชื่อในพื้นถิ่นเป็นแกนหลัก เช่น เลือดอีสาน, อีสานพเนจร, ลูกลำน้ำโขง, แผนชั่วเชือดอีสาน, นายฮ้อยทมิฬ เป็นต้น

นายฮ้อยทมิฬเคยเป็นละครและภาพยนตร์หลายครั้ง ครั้งล่าสุดโดยสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง ๗
แผนชั่วเชือดอีสาน นวนิยายอิงประวัติศาสตร์บอกเล่าเรื่องกบฏผีบุญช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์

คำพูน บุญทวี เป็นนักเขียนคนแรกๆ ที่ลุกขึ้นมาตั้งสำนักพิมพ์เอง เพราะรู้สึกว่าถูกเอารัดเอาเปรียบจากสำนักพิมพ์หลายแห่งที่เคยร่วมงานด้วย เขาเป็นนักเขียนคนแรกที่ลุกขึ้นมาทวงความยุติธรรม ด้วยการฟ้องร้องสำนักพิมพ์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์นวนิยายเรื่อง ‘ลูกอีสาน’ ด้วยการพิมพ์ขายไปเรื่อยๆ หนังสือไม่หมดเสียที แม้ว่าจะเลยระยะเวลาที่ระบุในสัญญาไปนานแล้วก็ตาม

ลูกอีสานได้รับการแปลออกไปหลายภาษา

คำพูนชนะคดีในที่สุด และต่อมาคดีนี้ได้กลายมาเป็นบรรทัดฐานสำคัญให้กับนักเขียนในยุคหลัง

คำพูน บุญทวี เป็นนักเขียนอารมณ์ดี ฝากผลงานทิ้งให้วงการวรรณกรรมมากมายหลายสิบเรื่อง

เมื่อหมดห่วงเรื่องงานเขียนถูกละเมิด หลังจากนั้นไม่นาน คำพูน บุญทวี ก็จากไปอย่างสงบในวัย ๗๔ ปี ทิ้งให้บักคูนโลดแล่นอยู่ในนวนิยาย เป็นตัวแทนของผู้เขียนไปอีกนานแสนนาน…

Don`t copy text!