Exit

Exit

โดย : ภาสกร ศรีศุข

Loading

นอกจากนวนิยายออนไลน์สนุกๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจากนักเขียนมากมายแล้ว อ่านเอายังมีเรื่องหนังมาเล่าให้อ่านในคอลัมน์  “อ่านเอาเล่าหนัง” โดย โอ่ง – ภาสกร ศรีศุข ผู้มีความสนใจในเรื่องภาพยนตร์และมีความรักในการอ่านการเขียน เขาจึงเขียนมาเล่าให้ชาวอ่านเอาได้อ่านออนไลน์

ผู้กำกับ : Lee Sang-geun

นักแสดง : Jo Jung-suk, Im Yoon-ah

ภาพยนตร์ ‘EXIT’ เป็นภาพยนตร์แนวภัยพิบัติที่ว่าด้วยเรื่องราวของยงนัมและรุ่นน้องในมหาวิทยาลัย อึยจู พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อเกิดเหตุแก๊สพิษรั่วไหลปกคลุมไปทั่วเมือง พวกเขาจึงต้องหนีออกจากเมืองให้เร็วที่สุด

มีคนเปรียบเทียบความเจ๋งของหนังว่าบันเทิงไม่แพ้หนังอย่าง Train To Busan ของกงยูเลยทีเดียว แต่พูดกันตรงๆ นะ เทียบคุณภาพงานยังไงก็ยังไม่เท่าหนังกงยูที่ดูงานสร้างสูงกว่า ทว่าสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ขึ้นอันดับ 1 ถึง 2 สัปดาห์ซ้อน กวาดเงินในเกาหลีไปมหาศาล ก็ต้องบอกว่ามีจุดแข็งที่เด่นไปอีกทาง บันเทิงตลกน้ำตารื้นท่ามกลางวิกฤตขมุกขมัวชวนหวาดหวั่นได้อย่างที่หนังของกงยูไม่มีทางทำได้เช่นกัน

หนังยังเป็นการทดลองผสมหลากหลายแนวหนังเข้ามาในเรื่องเดียว ซึ่งก็ทำได้ชัดเจนหลายดอกด้วยนะ ที่ชัดที่สุดคงต้องเป็น 3 ตระกูลใหญ่ คือหนังแอ็กชันผจญภัยเอาตัวรอด หนังรอมคอมเล่นสถานการณ์ชวนขัน และหนังครอบครัว

โดยในส่วนของการเป็นหนังเอาตัวรอดต้องบอกว่าหนังทำได้ลุ้น น่าตื่นเต้นดี โดยเฉพาะการสร้างภาวะกดดันล้อมกรอบตัวละครให้พื้นที่จำกัดลงเรื่อยๆ และบังคับให้ต้องขึ้นที่สูงเพื่อหนีหมอกพิษที่ปกคลุมและลอยสูงขึ้นทีละนิด ซึ่งต้องอาศัยทักษะการเป็นนักกีฬาปีนหน้าผาที่พระเอกและนางเอกต่างเล่นสมัยมหาวิทยาลัยมาใช้ได้อย่างดี และเพราะทั้งคู่พ่ายแพ้ให้กับชีวิตจริงจึงแทบไม่ได้ฟื้นฝีมือมาก่อน จึงเป็นสิ่งที่น่าจะทำได้หรืออาจทำไม่ได้ให้ผู้ชมชวนเอาใจช่วยไปด้วย นอกจากการปีนป่าย หนังยังใส่ฉากที่บังคับให้ตัวละครหาทางรอดอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหนีคลื่นหมอกที่ถาโถม ไต่เชือกข้ามตึกสูงที่หมอกพิษกับความสูงและความเหนื่อยล้า ไม่รู้อย่างไหนจะฆ่าตัวเอกได้ก่อนกัน ตรงนี้ต้องชื่นชมในการคิดสถานการณ์ต่างๆ ได้สนุก แต่ข้อที่น่าติติงก็มีอยู่ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้น่าเชื่อหรือไม่น่าเชื่อในตัวหนังด้วย นั่นคือซีจีหมอกพิษนั้น บางฉากทำได้เหมือนมาก แต่บางฉากซีจีก็ดูลอยดูหลอกพอสมควร ยิ่งฉากการฆ่าฝูงชนเชือดไก่ให้ผู้ชมกลัวตอนแรกก็ไม่ได้สยดสยองจนเราเกรงกลัวหมอกในเรื่องมากนัก ไม่แน่ใจเพราะหนังต้องการได้เรตทั่วไปหรือเปล่า แต่ก็น่าเสียดายในจุดนี้เหมือนกัน

ส่วนของหนังตลกและหนังรักนั้น ก็ต้องชื่นชมเหล่านักแสดงก่อนที่ลงตัวกับบทบาทสมมติในการสร้างความฮากับผู้ชมได้อย่างมากๆ ตั้งแต่พระนางที่อยู่บนจอแทบทั้งเรื่องซึ่งมีปมอดีตว่าพระเอกเคยถูกนางเอกปฏิเสธสมัยเรียน และฝังใจจนไม่กล้าบอกว่าตัวเองยังไร้งานทำเป็นไอ้ขี้แพ้เกาะที่บ้านกิน อันเป็นจุดเริ่มต้นของคำโกหกที่ขับเคลื่อนเรื่องในเวลาต่อมา แล้วยังมีเหล่าตัวละครสมทบที่เป็นครอบครัวใหญ่ของพระเอกที่มีความวายป่วงไม่แพ้หมอกพิษเลยทีเดียว เหล่านี้ก็เป็นกลุ่มตัวละครที่บุคลิกชัดเจนและส่งเสริมให้ใส่สถานการณ์สนุกๆ ฮาๆ ได้ไม่อั้นเลยทีเดียว ในส่วนของความรักก็อย่างที่เกริ่นว่าเริ่มก็ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เราก็ต้องเอาใจช่วยพระเอกว่าอย่าทำตัวเห่ยนัก ถ้ารอดนางเอกสุดน่ารักอาจเปลี่ยนสายตาที่มองมาก็ได้ แล้วมันก็มีมุกน่ารักๆ ให้เราอมยิ้มได้จริงๆ ล่ะ ดีไม่ดีเล่นมาทั้งเรื่องเพื่อมุกจีบมุกสุดท้ายมุกเดียวก็ว่าได้นะ

และส่วนสุดท้าย หนังครอบครัวเป็นสิ่งที่อยากพูดถึงมากที่สุดเลย เพราะภายใต้ซับพลอตต่างๆ การเป็นครอบครัวอาจไม่เด่นเด้งเท่ามุมผจญภัยหรือตลกหรือหนังรัก แต่ทว่ามันกลับเป็นซับพลอตที่พยุงหนังให้มีหัวใจมีชีพจร โอบอุ้มให้ความพยายามรอดชีวิตมีมากกว่าแค่ความรักหนุ่มสาวอันเบาหวิว แล้วการแสดงของพ่อ แม่ พี่สาว พี่เขย หลานๆ คือมันเห็นความตั้งใจ ใส่รายละเอียดพวกนี้เข้ามาจริงๆ ดีไม่ดีโจทย์ใหญ่ที่หนังต้องการอาจไม่ใช่แนวหนังหวือหวาใดๆ แต่หากเป็นหนังครอบครัวที่ทุกคนในบ้านสามารถไปดูด้วยกันได้ ใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกันได้ และออกจากโรงหนังทางประตู Exit ด้วยความรู้สึกที่รับรู้ความรักของกันและกันมากยิ่งขึ้น นี่ล่ะคือสุดยอดจุดประสงค์ของหนังเรื่องนี้แล้วล่ะ

 

Don`t copy text!