The Babadook

The Babadook

โดย : ภาสกร ศรีศุข

Loading

นอกจากนวนิยายออนไลน์สนุกๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจากนักเขียนมากมายแล้ว อ่านเอายังมีเรื่องหนังมาเล่าให้อ่านในคอลัมน์  “อ่านเอาเล่าหนัง” โดย โอ่ง – ภาสกร ศรีศุข ผู้มีความสนใจในเรื่องภาพยนตร์และมีความรักในการอ่านการเขียน เขาจึงเขียนมาเล่าให้ชาวอ่านเอาได้อ่านออนไลน์

ผู้กำกับ : Jennifer Kent

ผู้อำนวยการสร้าง : Kristina Ceyton, Kristian Moliere

ผู้เขียนบท : Jennifer Kent

อ้างอิงจากนวนิยายเรื่อง Monster โดย Jennifer Kent

นักแสดง : Essie Davis, Noah Wiseman, Hayley McElhinney, Daniel Henshall, Barbara West, Ben Winspear

ดนตรีประกอบ : Jed Kurzel

ผู้กำกับภาพ : Radek Ładczuk

ผู้ตัดต่อ : Simon Njoo

6 ปีภายหลังจากการเสียชีวิตของสามี ทำให้เอมิเลียต้องเลี้ยงดูซามูเอล ลูกชายวัย 6 ปีของเธอเพียงลำพังอย่างยากลำบาก ทุกคืนเด็กชายมักจะถูกหลอกหลอนด้วยปีศาจในฝันร้ายที่เขาเชื่อว่าตั้งใจจะทำร้ายและมุ่งเอาชีวิตของตัวเองและแม่

วันหนี่งหลังจากได้อ่านนิทานก่อนนอนที่มีชื่อว่า ‘The Babadook’ ซามูเอลก็มั่นว่าใจสิ่งมีชีวิตที่แสนน่ากลัวในเนื้อเรื่องคือปีศาจที่เขาฝันถึงทุกคืน…

จากเรื่องไร้สาระที่ดูเหมือนจะเป็นแค่จินตนาการของเด็กชายตัวน้อยกลับกลายเป็นประสบการณ์หลอนคาบ้าน เมื่อสองแม่ลูกพบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้ลำพังอีกต่อไป!

ตัวแม่ก็พอกัน แรกๆ ก็ดูนิ่งๆ ทนๆ ดี จากนั้นเธอก็เกิดฟิวส์ขาด นอตหลุด แสดงอารมณ์ออกมาได้สมบทบาทดีแท้ อยากจะปรบมือให้กับการแสดงจริงๆ เก่งมากๆ ผมเผ้ารุงรังได้ที่ การแสดงออกทางสีหน้า กระทั่งผิวหน้ามีการกระตุกๆ บ้างดูแล้วสมบทบาทของคนที่อยู่ให้ภาวะเครียดจริงๆ ผู้เขียนให้คะแนนเต็มด้านการแสดงของแม่ลูกคู่นี้เลย

ครึ่งหลังจะออกแนวจัดเต็ม ผู้เขียนบอกรายละเอียดไม่ได้หรอก เดี๋ยวจะเป็นการสปอยล์ซะเปล่าๆ เอาเป็นว่ามีความมันส์ในช่วงท้ายๆ พอสมควรทีเดียว แต่หนังไม่ได้โหดนะ แค่ทำให้เรากลัวและมีขนลุกในบางช่วง ไม่ใช่แนวตุ้งแช่ แต่ผู้เขียนใช้คำว่า ‘จัดเต็ม’ ดีกว่า ส่วนจะจัดมากน้อยแค่ไหน ก็เเล้วแต่ว่ามุมมองของแต่ละคน สำหรับผู้เขียน คิดว่าเท่านี้ก็เพียงพอละ

การที่หนังไม่ได้เน้นความเป็นแฟนตาซีเหนือจริงทำให้หนังยังพอเดินอยู่บนความสมเหตุสมผล นั่นทำให้หนังดูน่าเชื่อถือมากขึ้น ดูน่ากลัวแต่ไม่ได้หลอนมากมายอะไร ทำให้เรายังรู้สึกถึงความคุ้มค่าพอประมาณ

ความที่หนังไม่ได้สาธยายหรือบอกที่มาของ The Babadook ว่าเป็นมายังไง เป็นจุดอ่อนหนึ่งที่ทำให้ความคล้อยตามกับตัวหนังยังไม่ถึงที่สุด ถ้าหากสามารถเล่าที่มาของ The Babadook ได้ ผู้เขียนว่าหนังเรื่ิองนี้จะน่ากลัวมากกว่านี้อีกเยอะ

ข้อดีของหนังคือแม้ว่าจะไม่ได้เล่าที่มาของ The Babadook แต่การดำเนินเรื่อง การนำเสนอของหนัง ความเป็นศิลปะในการถ่ายทำ มุมกล้อง เสียงประกอบต่างๆ ผู้เขียนว่าทำได้ดีเลย คือดูแล้วคิดตาม น่าติดตามตลอด ไม่มีสมาธิหลุด ไม่มีช่วงที่เบื่อเลย… อีกอย่างคือความบ้าและอารมณ์ขันบางส่วนของหนังทำให้ผู้เขียนหลุดหัวเราะมาหลายครั้ง จะกลัวรึจะฮากันแน่ บางทีมันก็ทำให้หนังน่าสนใจขึ้นเยอะ

สำหรับข้อคิดสำหรับหนังเรื่องนี้ยังจับอะไรไม่ได้ชัดเจน ที่เห็นก็แค่ความรักของแม่ที่มีต่อลูก อย่างเช่นตอนที่คนอื่นพูดถึงลูกตนว่า “เด็กคนนี้” แม่ก็จะสวนกลับไปว่า “เขามีชื่อนะ” ที่เหลือผู้เขียนยังมองไม่เห็นข้อคิดใด นอกจากความบันเทิงจากการนำเสนอที่ดูไม่เบื่อจากต้นจนจบเรื่อง… แต่บางคนเขาไม่ชอบหนังแนวนี้หรือหนังที่ต้องคิดตาม บอกว่าเบื่อ… แต่ละคนก็มองต่างกัน

ด้วยความบ้าและความกล้าของการนำเสนอหนังสยองแนวนี้ที่พยายามฉีกตัวเองให้แยกออกห่างจากหนังแนวเดียวกัน ถือว่าน่าสนใจและก็ทำออกมาได้ดีใช้ได้ ไม่ถึงกับสุดยอด แต่มีช่วงที่ดึงอารมณ์คนดูให้ลากมาสุดได้หลายช่วง… ผู้เขียนว่าใช้ได้เลยนะ

คุณล่ะ ปิดประตูบ้านรึยัง ระวัง The Babadook จะไปหาที่บ้านนะ

Don`t copy text!