Rocketman

Rocketman

โดย : ภาสกร ศรีศุข

Loading

นอกจากนวนิยายออนไลน์สนุกๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจากนักเขียนมากมายแล้ว อ่านเอายังมีเรื่องหนังมาเล่าให้อ่านในคอลัมน์  “อ่านเอาเล่าหนัง” โดย โอ่ง – ภาสกร ศรีศุข ผู้มีความสนใจในเรื่องภาพยนตร์และมีความรักในการอ่านการเขียน เขาจึงเขียนมาเล่าให้ชาวอ่านเอาได้อ่านออนไลน์

ผู้กำกับ : Dexter Fletcher
ผู้อำนวยการสร้าง : Adam Bohling, David Furnish, David Reid, Matthew Vaughn
ผู้เขียนบท : Lee Hall
นักแสดง : Taron Egerton, Jamie Bell, Richard Madden, Bryce Dallas Howard
ดนตรีประกอบ : Matthew Margeson
ผู้กำกับภาพ : George Richmond
ผู้ตัดต่อ : Chris Dickens

 

Rocketman ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางบนเส้นทางสายดนตรีของ เอลตัน จอห์น Rocketman เป็น Epic Musical Fantasy เกี่ยวกับเรื่องราวที่มีความเป็นมนุษย์อย่างเหลือเชื่อในช่วงเวลาแจ้งเกิดของ เอลตัน จอห์น ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ใจจาก เรจินัลด์ ดไวท์ อัจฉริยะทางดนตรีขี้อายตัวน้อยๆ ไปสู่การเป็น เอลตัน จอห์น ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก

เรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจนี้ที่ถ่ายทอดออกมาท่ามกลางเพลงที่เป็นที่รักของ เอลตัน จอห์น เป็นเรื่องราวสากลของเด็กชายจากเมืองเล็กๆ ซึ่งกลายเป็นบุคคลที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งใน Pop Culture นอกจากนี้ Rocketman ยังมี เบอร์นีย์ เทาปิน นักแต่งเนื้อเพลงและคู่หูนักแต่งเพลงที่ร่วมงานกันมานานของเอลตัน จอห์น, รี้ด ผู้จัดการคนแรกของเอลตัน และ ชีลา แฟร์บราเธอร์ แม่ของเอลตัน

อาจถือเป็นโชคดีของเฟลตเชอร์ที่บทเพลงของ เอลตัน จอห์น สามารถนำมาเชื่อมปะติดปะต่อเรื่องราวในชีวิตทั้งช่วงรุ่งโรจน์สุดขีดก็มีเพลงฮิตๆ อย่าง Crocodile Rock ช่วงเวลาอันโดดเดี่ยวก็มี Sorry Seems to be the Hardest Word มาคลอไปกับชีวิตช่วงนั้น แต่กระนั้นผู้กำกับก็ยังอุตส่าห์รังสรรค์ซีนมิวสิคัลสุดเหนือจริงมานำเสนอเรื่องราวชีวิตของ เอลตัน จอห์น ได้อย่างถึงอารมณ์ ในช่วงรุ่งโรจน์ของเขา เราก็ได้ประจักษ์พยานความเบ่งบานในตัว เอลตัน จอห์น รวมถึงช่วงตกอับที่ทุกอย่างดูมืดทึมผ่านงานออกแบบต่างๆ ที่นอกจากจะอ้างอิงชุดที่ เอลตัน จอห์น เคยใส่แล้ว มันยังกลายเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกสภาวะตัวละครได้อย่างชาญฉลาด ไปจนถึงงานกำกับศิลป์ที่สามารถจำลองฉากชีวิตสำคัญของ เอลตัน จอห์น ได้ราวพาเราย้อนเวลากลับไปในยุค 80s ตั้งแต่โชว์เปิดตัวที่ผับที่ชื่อว่าทรูบาดอร์ยันคอนเสิร์ตสำคัญต่างๆ เรื่อยไปถึงงานถ่ายภาพสุดวิจิตรที่มีการคัดเลือกบทบาทของสีและแสงเพื่อนำพาอารมณ์คนดูได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยส่วนตัวค่อนข้างประทับใจกับงานทุกส่วน และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือในส่วนของเพลงและดนตรีประกอบที่ได้มาเรียบเรียงใหม่ซึ่งความชาญฉลาดสำคัญคือการนำคณะประสานเสียงในโบสถ์มาร้องคอรัสที่ให้ความรู้สึกใหญ่โตมากๆ โดยเฉพาะ 2 เพลงดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นที่สามารถเขย่าหัวใจผู้ชมได้แม้ไม่ใช่แฟนเพลง เอลตัน จอห์น ก็ตาม

และสำหรับ ทารอน อีเกอร์ตัน ก็พิสูจน์ตัวเองกับบท เอลตัน จอห์น ได้อย่างไม่เสียดายของ เมื่อถึงซีเควนซ์ที่ทารอนปรากฎตัว เขาสามารถถ่ายทอดทั้งความขี้อายที่ต่อเนื่องมาจากส่วนของนักแสดงเด็กมาได้อย่างไม่ตกหล่น และจำลองช่วงชีวิตทั้งรุ่งโรจน์และตกอับของยอดศิลปินดังได้อย่างน่าปรบมือให้ทุกฉากจริงๆ ยังมิพักพูดถึงเสียงร้องที่สามารถถ่ายทอดเพลงดังๆของ เอลตัน จอห์น ในแบบฉบับมิวสิคัลด้วยเอกลักษณ์ของตัวเองได้โดยไม่ต้องเลียนแบบเสียงของศิลปินต้นฉบับด้วยซ้ำ และคงไม่เกินเลยถ้าจะบอกว่าการแสดงของเหล่านักแสดงสมทบเองก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรมองข้ามเช่นเดียวกัน

คนแรกที่แม้บทบาทอาจดูเป็นตัวประกอบ แต่น่าจะสร้างความประหลาดใจให้ใครหลายคนคงหนีไม้พ้น ไบรซ์ ดัลลัส โฮเวิร์ด ที่คราวนี้มาแปลกตาด้วยรูปลักษณ์ดูเจ้าเนื้อและมีอายุในบทชีล่า แม่ของ เอลตัน จอห์น ซึ่งเธอก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง และเธอก็มอบการแสดงที่น่าจดจำในบทแม่ผู้มีทั้งความรักและความชิงชังในตัวลูกชายแบบสุดขั้ว และทุกซีนที่เธอปรากฏตัวคือทำให้คนดูหัวเราะหรือขมวดคิ้วตามได้ตลอด ด้าน เจมี่ เบลล์ ก็ยังให้การแสดงที่หายห่วงได้เสมอในบทนักแต่งเพลงคู่บุญที่เป็นเพื่อนแท้ของเอลตัน รวมไปถึง ริชาร์ด แมดเดน ที่สาวๆ ต่างหลงไหลก็มารับบทผู้จัดการส่วนตัวของ เอลตัน จอห์น ที่ทั้งเย้ายวนและซ่อนความร้ายกาจไว้ได้อย่างมีเสน่ห์ชวนติดตาม และแน่นอนว่าหนังที่มีทีมนักแสดงที่ดีก็ย่อมทำให้ภาพรวมการแสดงของหนังออกมายอดเยี่ยมและทำผู้ชมคล้อยตามได้ไม่ยาก

คงไม่เกินเลยนักหากจะบอกว่า Rocketman น่าจะเป็นหนังเพลงเปิดปี 2019 ที่พร้อมจะเข้าไปอยู่ในลิสต์หนังดีประจำปีได้ไม่ยาก ด้วยบทที่ร้อยเรียงชีวิตได้อย่างสร้างสรรค์ งานดีไซน์ทั้งชุดทั้งฉาก ไปจนถึงเพลงประกอบที่ช่วยยกระดับการคัฟเวอร์เพลงของ เอลตัน จอห์น ได้อย่างมีรสนิยมผ่านการกำกับที่แม่นยำ ผลลัพธ์เลยกลายเป็นความประทับใจแบบแทบจะรอดูซ้ำอีกหลายๆ รอบไม่ไหวเลยล่ะ

 

Don`t copy text!