I Kill Giants

I Kill Giants

โดย : ภาสกร ศรีศุข

Loading

นอกจากนวนิยายออนไลน์สนุกๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจากนักเขียนมากมายแล้ว อ่านเอายังมีเรื่องหนังมาเล่าให้อ่านในคอลัมน์  “อ่านเอาเล่าหนัง” โดย โอ่ง – ภาสกร ศรีศุข ผู้มีความสนใจในเรื่องภาพยนตร์และมีความรักในการอ่านการเขียน เขาจึงเขียนมาเล่าให้ชาวอ่านเอาได้อ่านออนไลน์

************************

ผู้กำกับ : Anders Walter

ผู้อำนวยการสร้าง : Chris Columbus, Michael Barnathan, Joe Kelly, Nick Spicer, Kyle Franke, Kim Magnusson, Adrian Politowski, Martin Metz

ผู้เขียนบท : Joe Kelly

ดัดแปลงจาก I Kill Giants โดย Joe Kelly, Ken Niimura

นักแสดง : Madison Wolfe, Imogen Poots, Sydney Wade, Rory Jackson, Zoe Saldana

ดนตรีประกอบ : Laurent Perez Del Mar

ผู้กำกับภาพ : Rasmus Heise

ผู้ตัดต่อ : Lars Wissing

I Kill Giants เป็นเรื่องราวของเด็กสาวที่มุ่งมั่นจะฆ่ายักษ์ให้ได้เพื่อปกป้องเมืองที่เธอรัก แต่ปัญหาก็คือยักษ์คือสิ่งที่เธอคิดไปเอง หรือว่ามีอยู่จริง และไม่มีใครเชื่อเธอ

แต่แล้วเมื่อเธอได้พบกับ ‘มอลลี่’ อาจารย์ที่ปรึกษาคนใหม่ของโรงเรียนที่ทำให้เธอได้เรียนรู้ถึงความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับบางอย่างที่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล

ก่อนดูหนังนั้น ก็ได้เสพตัวอย่างหนังเรื่องนี้มาบ้าง ทำให้รับรู้ได้ประมาณหนึ่งว่านี่เป็นหนังแฟนตาซีของเด็กสาวที่ตามล่าและฆ่ายักษ์ มีความแฟนตาซีลอยมาเลย

ซึ่งแตกต่างจากเมื่อตอนที่ได้ดูหนังจริงๆ ประมาณหนึ่ง หนังเริ่มเรื่องมาอย่างน่าสนใจ เปิดเรื่องมาด้วยการเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กสาวที่ชื่อบาร์บารา ที่มีชีวิตอยู่กับการหาวิธีต่างๆ ในการล่ายักษ์ที่แทบจะไม่เผยตัวให้เห็นแบบเต็มๆ

ก่อนที่หนังจะหันไปเล่าเรื่องราวของครอบครัวที่มีแต่พี่น้องที่ไม่ค่อยลงรอยกัน บทและการกระทำของบาร์บาราทำให้รู้สึกได้ถึงความเนิร์ด เธอเชื่อมั่นว่ากำลังช่วยเหลือผู้คนในเมืองนี้อยู่ แต่ในสายตาของคนอื่น ทุกการกระทำของเธอมันแสนแปลกประหลาดและผิดจากผู้คนทั่วไป แม้กระนั้น เธอก็ยังมีใครสักคนที่อยากเป็นเพื่อนอยู่

หนังเรื่องนี้มีทั้งนักแสดงที่เล่นเป็นพี่สาวอย่าง Imogen Poots และคนที่เล่นเป็นเพื่อนคนเดียวของบาร์บารา อย่าง Sydney Wade แต่ละคนนั้นสวมบทบาทกันได้ดีนะ รวมทั้ง Madison Wolfe นางเอกเองก็น่ารักดี เหมาะกับการเป็นสาวแว่นมาก แถมที่คาดผมรูปกระต่ายนั่นก็ชวนให้ดูแบ๊วเพิ่มเข้าไปอีกนิดหน่อย

แต่เหมือนหนังพยายามจะพายอยู่ในอ่าง เดินเรื่องไม่ไปไหน จากเดิมที่เคยสงสัย อะไรจริง ไม่จริงในหนัง กลับกลายเป็นความต้องอดทนรอให้หนังมันเดินไปถึงจุดคลี่คลายสักที เพราะเริ่มเค้าลางแล้วว่าอะไรเป็นอะไร

สิ่งที่เป็นจุดดีของหนังอยู่ที่ช่วงท้าย เพราะช่วงเวลาตรงนั้น การตัดต่อ เสียงดนตรีประกอบ และเสียงบทบรรยาย ดูมันเข้ากันได้ดี จนคนดูอย่างเราๆ ต้องหม่นหมองประคองอารมณ์กันเต็มที่ คล้อยตามจนน้ำตามันซึมออกมา ทำให้รู้ว่าการเดินทางมาทั้งเรื่องเพื่อจะได้ซึมซับความตื้นตันและรับพลังใจในการใช้ชีวิต

‘สาวน้อย ผู้ล้มยักษ์’ เป็นหนัง Coming-of-age เสริมสร้างกำลังใจเรื่องหนึ่ง ที่จะพาคนดูก้าวพ้นข้ามผ่านสิ่งเลวร้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต  มันเหมาะสมกว่าถ้าจะทำเป็นแอนิเมชัน หรือเป็นหนังสั้นที่น่าจะทำให้เล่าเรื่องได้กระชับ น่าเสียดายที่หนังต้องให้เราต้องอดทนรอเนิ่นนานไปหน่อยนั่นเอง

 

Don`t copy text!