Pain and Glory

Pain and Glory

โดย : ภาสกร ศรีศุข

Loading

นอกจากนวนิยายออนไลน์สนุกๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจากนักเขียนมากมายแล้ว อ่านเอายังมีเรื่องหนังมาเล่าให้อ่านในคอลัมน์  “อ่านเอาเล่าหนัง” โดย โอ่ง – ภาสกร ศรีศุข ผู้มีความสนใจในเรื่องภาพยนตร์และมีความรักในการอ่านการเขียน เขาจึงเขียนมาเล่าให้ชาวอ่านเอาได้อ่านออนไลน์

ผู้กำกับ : Pedro Almodóvar

ผู้อำนวยการสร้าง : Agustín Almodóvar

ผู้เขียนบท : Pedro Almodóvar

นักแสดง : Antonio Banderas, Asier Etxeandia, Leonardo Sbaraglia, Nora Navas, Julieta Serrano, Penélope Cruz

ดนตรีประกอบ : Alberto Iglesias

ผู้กำกับภาพ : José Luis Alcaine

ผู้ตัดต่อ : Teresa Font

Pain and Glory คือหนังที่ผู้กำกับ เปโดร อัลโมโดวาร์ หยิบยกเรื่องราวชีวิตในอดีตของตัวเองมาถ่ายทอดผ่านประสบการณ์ชีวิตของ ซัลวาดอร์ มัลโล ผู้กำกับภาพยนตร์เจ้าของผลงานชื่อดังในอดีตที่กำลังประสบปัญหาความว่างเปล่าในชีวิตส่วนตัวจนนำไปสู่ภาวะหมดไฟในการทำงาน ความสามารถในการสร้างภาพยนตร์ถดถอยลง รวมไปถึงปัญหาทางสุขภาพกายที่กำลังย่ำแย่ ก่อนจะพบหนทางสว่างที่สร้างแรงบันดาลใจให้กลับมามีไฟอีกครั้ง

โดยเรื่องราวนั้นถูกเล่าตั้งแต่ในวัยเด็กในช่วงทศวรรษที่ 1960s ครอบครัวอพยพไปอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่เมืองบาเลนเซีย การออกตามหาความสำเร็จ ความปรารถนา และรักครั้งแรกที่เกิดขึ้นในกรุงมาดริดช่วงทศวรรษที่ 1980s และความเจ็บปวดจากรักแรกครั้งที่ยังคงอยู่ไม่หายไป และการรักษาเพียงหนทางเดียวคือการลืมในสิ่งที่เขาไม่อาจลืม เขาต้องพยายามหาสาเหตุเพื่อกำจัดความเจ็บปวดออกจากชีวิตของตัวเองด้วยการฟื้นฟูความทรงจำในอดีต และพยายามค้นพบวิธีในการเอาชีวิตรอดเพื่อเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

สิ่งหนึ่งที่ผู้ชมอาจต้องทำความเข้าใจเวลาเห็นชื่อของผู้กำกับ เปโดร อัลโมโดวาร์ ในหนังเรื่องไหนคือการเล่าเรื่องราวของมันมักไม่ใช่การดำเนินเรื่องแบบ 1 2 3 4 เรียงลำดับเหตุการณ์หรือมีปมประเด็นหลักให้ยึดเกาะ มากเท่ากับการที่มันพาไปสำรวจชีวิตตัวละครแบบทั้งกว้าง ยาว ลึก และกับ Pain and Glory นี่ยิ่งหนักข้อเลยเพราะต้นเรื่องเราจะได้รู้จักกับซัลวาดอร์ คือผ่านการบอกเล่าของเขาในเรื่องอาการเจ็บป่วยที่ก็พ่วงภาพกราฟิกและคำบรรยายที่ดูหลุดโลกมาอธิบายให้เราเข้าใจได้เร็วที่สุดว่าความเจ็บปวดหรือ Pain ตัวแรกในชื่อหนังคืออะไร

และอาการเจ็บปวดอันแรกพอไปเจอกับเฮโรอีน มันก็นำไปสู่นานาความเจ็บปวดในชีวิตที่ซัลวาดอร์ต้องเผชิญทั้งการกลับไปเผชิญหน้ากับพระเอกหนังที่ตัวเองเกลียดเข้าไส้ แต่ที่ตลกร้ายที่สุดคือตัวเองกลับไปทดลองเฮโรอีน ยาเสพติดที่เป็นต้นเหตุให้อัลแบร์โตกลายเป็นนักแสดงที่เขาชิงชังและหมางเมิน แถมอาการข้างเคียงของมันยังส่งผลให้ภาพอดีตในสมัยเด็กที่มีแต่ความแร้นแค้นกับแม่ผู้ทุ่มเททุกอย่างให้ชีวิตของเขาดีขึ้นกลับมาย้ำแผลเป็นในใจให้ยิ่งถ่างออกเข้าไปอีก ที่สำคัญมันทำให้ใครบางคนในอดีตกลับเข้ามาในชีวิตอีกด้วย

สำหรับส่วนที่เป็นอดีตในหนังก็ได้ เพเนโลปี ครูซ นักแสดงคู่บุญของผู้กำกับจาก Volver มารับบทแม่ที่ทำทุกทางเพื่อผลักดันเด็กน้อยอย่างซัลวาดอร์ให้มีชีวิตที่ดีกว่าการเป็นกรรมกร แต่ในความแร้นแค้น ซัลวาดอร์ก็ได้ค้นพบความงามในชีวิตทั้งการใช้ชีวิตในถ้ำและการได้สอนพิเศษคนงานก่อสร้างแลกกับการมาทำบ้านให้ฟรี ซึ่งเรื่องราวส่วนนี้อาจไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับเส้นเรื่องหลักมากนัก แต่เชื่อเถอะว่าการกำกับของอัลโมโดวาร์และงานภาพอันงดงามของหนังจะทำให้มันเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืม รวมถึงการแสดงอันดูใสซื่อน่าเอ็นดูของหนูน้อย อัสซิเออร์ ฟลอเรส ในบทซัลวาดอร์วัยเด็กที่ยากเหลือเกินที่จะไม่ให้ใครตกหลุมรัก แถมยังเดาได้ไม่ยากเลยว่าเจ้าผู้กำกับแอบใส่เรื่องราววัยเด็กของตัวเองลงไปในหนังอีกด้วย

และนอกจากส่วนที่เป็นอดีตอันงดงามแล้ว สิ่งที่จะละเลยไม่พูดถึงไม่ได้เลยคงหนีไม่พ้นการแสดงระดับได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ของ แอนโทนิโอ แบนเดอราส นักแสดงที่เคยมาร่วมงานกับผู้กำกับท่านนี้ในหนังทริลเลอร์อย่าง The Skin I Live In ที่มารับบทผู้กำกับรุ่นใหญ่ได้เหมือนถอดวิญญาณเล่น โดยเฉพาะความเจ็บปวดในแววตาคู่นั้นที่ส่งผ่านถึงคนดูได้ทุกซีน โดยเฉพาะฉากเผชิญหน้ากับคนรักเก่าที่ขอบอกว่าใครเพิ่งอกหักหรือมีอดีตรักที่ลืมไม่ลงคือตายคาจอแน่ๆ รวมถึงซีนที่เล่าเรื่องราวในช่วงชีวิตสุดท้ายระหว่างเขากับแม่ที่เจ็บปวดแต่อบอุ่นหัวใจอย่างประหลาดจนอดกลั้นน้ำตาไม่ไหวจริงๆ เอาเป็นว่าแม้ไม่มีรางวัลใหญ่การันตี แต่การแสดงของแบนเดอราสเรื่องนี้ก็น่าจดจำด้วยหลักฐานที่ปรากฏบนจอ

มองเผินๆ เหมือนหนังชีวิตเรื่องนี้จะไม่ได้มีฉากใหญ่โตหรือเรื่องราวที่ชวนตื่นตาตื่นใจ แต่หากใครอยากหาประสบการณ์แปลกใหม่ในการดูหนัง แนะนำให้ดู Pain and Glory ในโรงภาพยนตร์เป็นอย่างยิ่ง เพราะอย่างที่คอหนังของ เปโดร อัลโมโดวาร์ รู้กันดีว่าในความมืดของโรงหนังภาพชีวิตบนจอที่ผู้กำกับท่านนี้เล่าบวกกับงานเสียงอันประณีตคือที่เดียวที่เราจะซึมซับประสบการณ์ความงามของชีวิตในหนังของเขาได้ดีที่สุด

 

Don`t copy text!