Sonic the Hedgehog

นอกจากนวนิยายออนไลน์สนุกๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจากนักเขียนมากมายแล้ว อ่านเอายังมีเรื่องหนังมาเล่าให้อ่านในคอลัมน์  “อ่านเอาเล่าหนัง” โดย โอ่ง – ภาสกร ศรีศุข ผู้มีความสนใจในเรื่องภาพยนตร์และมีความรักในการอ่านการเขียน เขาจึงเขียนมาเล่าให้ชาวอ่านเอาได้อ่านออนไลน์

ผู้กำกับ : Jeff Fowler

ผู้อำนวยการสร้าง : Neal H. Moritz, Toby Ascher, Toru Nakahara, Takeshi Ito

ผู้เขียนบท : Pat Casey, Josh Miller

อ้างอิงจากวิดีโอเกมส์ Sonic the Hedgehog โดยบริษัทผลิตวิดีโอเกมส์ Sega

นักแสดง : James Marsden, Ben Schwartz, Tika Sumpter, Jim Carrey

ดนตรีประกอบ : Tom Holkenborg

ผู้กำกับภาพ : Stephen F. Windon

ผู้ตัดต่อ : Stacey Schroeder, Debra Neil-Fisher

Sonic คือสิ่งมีชีวิตคล้ายเม่นที่สามารถม้วนตัวเป็นลูกบอลและวิ่งเร็วด้วยพลังไฟฟ้าแรงสูงได้ ใช้ชีวิตอยู่ในโลกของตัวเองที่อยู่ในจักรวาลสักแห่ง แต่ทว่าเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เขาหลุดมาอยู่ที่โลกมนุษย์ที่เมืองกรีนฮิลล์ เมืองเล็กๆ ในรัฐมอนทาน่า แต่ถึงแบบนั้นโซนิกก็รู้สึกตื่นตากับโลกใบใหม่ที่ไม่เคยพบมาก่อนที่เต็มไปด้วยกิจกรรม เช่น เล่นตีปิงปองคนเดียว อ่านหนังสือ หรือเล่นคนเดียว

ทว่า เพราะการวิ่งด้วยความเร็วกว่าเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ จึงเผลอทำให้เกิด ‘การระเบิดของแม่เหล็กไฟฟ้า’ ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา ไฟฟ้าดับทั้งฝั่ง รัฐบาลสหรัฐอเมริกาตื่นตระหนกมากกับเหตุการณ์นี้ จึงให้นักวิทยาศาสตร์เข้ามาหาต้นตอของเรื่องโดยด็อกเตอร์โรบอทนิกส์รับหน้าที่ดังกล่าว จนกระทั่งเขารู้ว่า Sonic คือสิ่งมีชีวิตที่มีพลังไฟฟ้าแรงสูงพอที่จะครอบครองจักรวาล จึงออกตามล่าอย่างไม่ลดละ

Sonic หลบหนีจนได้มาพบกับ ทอม วาชอวสกี เจ้าหน้าที่ตำรวจเก่าของรัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้ถูกสั่งย้ายมาประจำการอยู่ในเมืองเล็กๆ นี้ โซนิกขอร้องให้ทอมช่วยเหลือเขา แม้ทอมจะไม่เห็นด้วย แต่เมื่อภัยอันตรายเกิดขึ้นตรงหน้า เขาคงไม่สามารถปล่อยให้เจ้าสิ่งมีชีวิตประหลาดนี้ถูกทำร้ายได้ อีกทั้งเขาเองก็พลอยตกกะไดพลอยโจนไปด้วย พวกเขาจึงกระโจนสู่การเดินทางที่แสนพิเศษมุ่งหน้าสู่แคลิฟอร์เนียโดยเชื่อว่าคือที่ที่ มีเบาะแสอยู่

มิตรภาพเริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างทอมกับ Sonic ระหว่างการเดินทาง พร้อมทั้งหลบหนีจากหุ่นยนต์สมุนที่ด็อกเตอร์ โรบอทนิกส์ส่งมาตามล่า แม้โซนิคจะชอบป่วนเขาก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนกัน

ทอมได้พบกับแมดดี้ ภรรยาผู้เป็นสัตวแพทย์ที่อาศัยอยู่ในเมือง แต่แล้วแผนการร้ายแรงของด็อกเตอร์โรบอทนิกส์ก็ได้เริ่มต้นทำลายล้างเมืองเพื่อเจ้า Sonic ตัวเดียว และแน่นอนคนที่ซวยคือประชาชนในเมืองซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย ซึ่ง Sonic ยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้

นอกจาก Sonic ต้องปกป้องมิตรต่างจักรวาลอย่างทอมกับแมดดี้แล้ว เขาต้องใช้ความสามารถที่มีออกตามหาแหวนทองคำที่หายสาปสูญ และหยุดยั้งแผนการชั่วร้ายที่จะครอบครองจักรวาลนี้ไว้ให้จงได้

ขึ้นชื่อว่า ‘หนังสร้างจากเกม’ ก็อาจทำเอาใครหลายคนรู้สึกสะท้านหน่อยๆ และถ้ายิ่งเป็นแฟนตัวยงนี่อาจจะรู้สึกเจ็บปวดหนักกว่าชาวบ้านเขา เพราะหนังสร้างจากเกมเก่าๆ บางเรื่องทำเอาแฟนๆ เจ็บมาไม่น้อย แต่สำหรับเรื่อง Sonic the Hedgehog ถือเป็นข้อยกเว้น เพราะผู้กำกับ Jeff Fowler สร้างสรรค์ออกมาได้ ดีเกินที่คาดหวังเอาไว้พอสมควร

ถึงแม้ว่า Sonic the Hedgehog จะมีการดำเนินเรื่องที่ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก แถมในช่วงแรกของหนังยังดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ เราก็ยังรู้สึกว่าดูได้แบบเพลินๆ ด้วยตัวละคร Sonic ที่น่ารัก แก่น กวน ซน มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ทำให้ช่วงแรกที่เดินเรื่องเฉื่อยๆ ดูมีสีสันมากขึ้น ซึ่งพอหลุดช่วงแรกที่ปูเรื่องราวของ Sonic ไป เราก็จะได้พบกับความป่วนที่หนักข้อของ Sonic ขึ้นไปอีกขั้น (จริงๆ ช่วงแรกก็ป่วนไม่น้อย)

CGI ของ Sonic the Hedgehog ทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว แต่สิ่งที่เหนือกว่า CGI คือ จิม แคร์รี ผู้รับบทเป็น Eggman ที่ในเรื่องมีบุคลิกบ้าๆ เพี้ยนๆ ตามแบบของเขาที่เราเคยเห็นในหนังตลก เรียกได้ว่าออกมาแต่ละฉากคือขโมยซีนไปเลย ส่วน James Marsden ก็จะแสดงได้ดีไม่แพ้กัน ถึงแม้จะมีบางโมเมนต์ที่เคมียังเข้ากับ Sonic ได้ไม่เต็ม 100% เท่าไหร่

ว่ากันโดยรวมแล้ว Sonic the Hedgehog ทำออกมาได้ดี ดูสนุก เฮฮา ที่สำคัญ Sonic น่ารักมากจริง! เด็กๆ สาวๆ ต้องหลงรัก แถมในตอน End Credit ผู้กำกับ Jeff Fowler ยังใส่ฉากประหลาดใจให้กับแฟนๆ ด้วย