Better Days

Better Days

โดย : ภาสกร ศรีศุข

นอกจากนวนิยายออนไลน์สนุกๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจากนักเขียนมากมายแล้ว อ่านเอายังมีเรื่องหนังมาเล่าให้อ่านในคอลัมน์  “อ่านเอาเล่าหนัง” โดย โอ่ง – ภาสกร ศรีศุข ผู้มีความสนใจในเรื่องภาพยนตร์และมีความรักในการอ่านการเขียน เขาจึงเขียนมาเล่าให้ชาวอ่านเอาได้อ่านออนไลน์

************************

Better Days

ผู้กำกับ :  Derek Tsang

ผู้อำนวยการสร้าง : Xu Yuezhen

ผู้เขียนบท : Lam Wing Sum, Li Yuan, Xu Yimeng

อ้างอิงจากนวนิยายเรื่อง In His Youth, In Her Beauty โดย Jiu Yuexi

นักแสดง : Zhou Dongyu, Jackson Yee

ดนตรีประกอบ : Varqa Buehrer

ผู้กำกับภาพ : Yu Jing-Pin

ผู้ตัดต่อ : Zhang Yibo

เรื่องราวมันเกิดขึ้นรอบตัวเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งในโรงเรียนหนึ่งในประเทศจีน เธอมีชื่อว่าเฉินเหนียน หลังเพื่อนสนิทของเธอฆ่าตัวตาย เธอกลายเป็นเด็กสาวที่ต้องเผชิญกับการกลั่นแกล้งจากเหล่าเพื่อนตลอดเวลา แต่ในคืนหนึ่ง เฉินเหนียนกลับได้พบชายผู้กลายเป็นคนสำคัญในชีวิตของเธอ

ระหว่างทางกลับบ้าน เธอได้ช่วยชีวิตเสี่ยวเป่ย เด็กหนุ่มที่ถูกกลุ่มอันธพาลซ้อมปางตายไว้โดยบังเอิญ ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มต้นขึ้น หลายครั้งเข้าที่เขามาช่วยเหลือเธอไว้ แล้วเสี่ยวเป่ยก็กลายเป็นคนที่คอยคุ้มครองเธอตั้งแต่นั้นมา คำสัญญาที่เขาให้ไว้นั้นมันไม่มีข้อแม้ เขาจะปกป้องเธอไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม

หากจะย้อนกลับไปยังวัยรุ่น ภาพจำหนึ่งที่คนเราส่วนใหญ่นึกถึงก็คือมันเป็นห้วงเวลาที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและการก้าวข้ามผ่านหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต ในวันที่ทุกอย่างยังไม่ประสีประสา ในวันที่ดูเหมือนเรายังต้องพึ่งสัญชาตญาณมากกว่าประสบการณ์ เด็กหลายคนมองเห็นภาพตัวเองมีความสุข รอยยิ้มกับเพื่อน สนุกสนานไปวันๆ แต่อีกด้านหนึ่ง มันก็มีเด็กบางคนที่ต้องผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาด้วยความทุกข์ทรมาน ความเจ็บปวดและรอยแผลของการถูกทำร้ายอาจมีอิทธิพลต่อชีวิตของเด็กคนนั้นไปตลอดกาล เรากำลังพูดถึง Better Days หนังโรแมนติกดราม่าสัญชาติจีนที่จับประเด็นของความหยาบกร้านของชีวิตวัยรุ่นในสังคมแดนมังกรซึ่งเติบโตมาท่ามกลางการแข่งขันและความคาดหวังที่หนักหน่วง โดยเฉพาะหนุ่มสาวมัธยมปลายที่ต้องเตรียมตัวสอบ ‘เกาเข่า’ การสอบเอนทรานซ์ครั้งใหญ่ที่ไม่ต่างจากการเป็นบททดสอบเดิมพันชะตาชีวิตต่อจากนี้ แต่สำหรับเฉินเหนียน เธอต้องเผชิญกับโจทย์ข้อสอบอันหนักอึ้งกว่าเด็กทั่วไป เพราะเพื่อนสนิทหนึ่งเดียวของเธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย และเธอกลายเป็นเป้าการถูกกลั่นแกล้งจากเพื่อนร่วมชั้นทุกคน และสำหรับเฉินเหนียน โรงเรียนคือขุมนรกที่ไม่มีใครที่ไหนเอื้อมมือมาช่วยเหลือเธอได้

สนับสนุนอ่านเอาด้วยการสั่งซื้อหนังสือ “ในสวนอักษร” คลิกที่นี่

Better Days สร้างมาจากนิยายจีนดัง In His Youth, In Her Beauty ของจิ่วเยวียซีที่มีเส้นเรื่องหลักอยู่ที่เรื่องราวการถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียน และความรักที่เข้ามาเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของคนหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ซึ่งคนดูจะสามารถสัมผัสได้เลยจากบรรยากาศในหนังเรื่องนี้ที่จับประเด็นหนักๆ มาบดขยี้แรงๆ ตั้งแต่เรื่องการกลั่นแกล้งในโรงเรียน การสอบแข่งขัน จนถึงแทงทะลุถึงหัวใจไปยังกระทรวงศึกษาธิการที่ล้วนแล้วแต่มีส่วนร่วมกันสร้าง ‘ปีศาจ’ ในตัวเด็กขึ้นมาในสังคมโดยที่ผู้ใหญ่เหล่านั้นไม่เคยตระหนัก เฉินเหนียนเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ หน้าตาใสซื่อ แต่เป็นเด็กหัวดีเรียนเก่ง ท่ามกลางความโหดร้ายของสังคมที่เธอต้องพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นการถูกแกล้งจากเพื่อน พ่อแม่แยกทาง แม่ต้องร่อนเร่ขายของผิดกฎหมายและหนีเจ้าหนี้จนไม่ค่อยได้กลับบ้าน ขณะที่ชีวิตของเฉินเหนียนดูจะเดินไปถึงจุดตกต่ำที่สุด เธอก็ได้พบกับเสี่ยวเป่ย เด็กหนุ่มแก๊งอันธพาลไร้อนาคตที่เข้ามาช่วยชีวิตเธอจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

หนังพาคนดูสำรวจตัวละครแบบพาชมเข้าไปได้ถึงแก่นของความเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่าของเฉินเหนียน แถมแทรกปัญหาชีวิตขมๆ เข้ามาอีกเป็นระยะ บวกกับความรู้สึกของโจวตงหยูที่อาจบอกได้ว่าเป็นหนึ่งในหนังที่เธอกลั่นอารมณ์ออกมาได้อย่างสุดยอดอย่างแท้จริง การพลิกมาเล่นบทเด็กสาววัย 17 ที่ต้องแบกปัญหาทุกอย่างไว้ เธอทำมันออกมาได้ไร้ที่ติมากๆ ระดับผลงานชิ้นโบว์แดง บอกได้เลยว่านี่เป็นตัวละครที่สร้างความสมจริงให้หนังเรื่องนี้ และยกระดับหนังไปอีกขั้นจริงๆ ซึ่งยิ่งดูเราจะยิ่งหดหู่ไปกับโชคชะตาอันรันทด แล้วตัวเลือกของเด็กที่ยังไม่ประสีประสาโลก มันยิ่งดูมืดแปดด้านไปหมด แต่ระหว่างที่หนังเดินไป การปรากฏตัวของเสี่ยวเป่ยสร้างมิติให้หนังฉีกไปยังจุดหักเหได้ลงตัวและโดยเฉพาะการมารับบทหนักๆ แบบนี้ครั้งแรกก็ต้องยอมรับว่าไอ้หนุ่มอี้หยางเชียนสี่เป็นเด็กมีของมากๆ เลย โดยเฉพาะสีหน้าแววตาที่มุ่งมั่น ฉากดราม่าแรงๆ สามารถเข้ากับโจวตงหยูได้เป็นอย่างดีเลย

Better Days เป็นหนึ่งในหนังที่ทำหน้าที่วิพากษ์ประเด็นหลักๆ สะท้อนสังคมจีนได้ดีมากๆ เรื่องหนึ่ง ผู้เขียนชอบบรรยากาศของความไม่โลกสวยในหนังเรื่องนี้ มีกลิ่นอายคล้ายแนวทางของหนังฮ่องกงในยุค 90s แม้ว่าจะมีบางช่วงที่ออกอาการเนือยไปบ้าง เหมือนยืดเรื่องไปบ้าง แต่พอเริ่มปรับตัวได้ หนังกลับยิ่งสะท้อนสภาวะจิตใจของตัวละครแต่ละฝ่ายให้เห็นด้านเทาๆ กันมากขึ้น จนรู้สึกตัวอีกที หนังก็พาเรามายังจุดที่เราไม่คิดว่าจะมาถึงได้ มีความกลับตาลปัตร พลิกผัน หักมุมเล็กๆ หลอกล่อมีชั้นเชิง คาดเดายากขึ้นเรื่อยๆ สร้างสถานการณ์และบรรยากาศที่ไม่น่าไว้ใจออกมาได้เป็นระยะ แต่มีสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นท่ามกลางความหม่นหมองของหนัง ก็คือเคมีของคู่พระนางกับความโรแมนติกแบบหวานขมที่ยิ้มทั้งน้ำตาให้กับชะตาชีวิต แต่ก็ดิ้นรนหาทางแก้ปัญหาหน้างานตามมีตามเกิดแบบเด็กวัยรุ่น

เนื้อหาของหนังชัดเจนและทรงพลัง โดยเฉพาะคำพูดของเฉินเหนียนที่บอกว่า “มีแต่คนบอกจะช่วยฉัน แล้วใครบ้างล่ะที่ช่วยฉันจริงๆ” ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความโดดเดี่ยวในการต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่หนักหนาสาหัสเกินวัยจะแบกรับไหว พร้อมจิกกัดคนที่เกี่ยวข้องแต่กลับมองปัญหานี้จิ๊บจ๊อยไม่เหมือนคำคุยโวสวยหรู แต่ขณะเดียวกันหนังก็เสนอแนวทางให้ทุกฝ่ายลุกขึ้นมาแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ในภาพรวมแล้วนี่อาจเป็นหนังที่สร้างแรงกดดันให้สังคมจีนได้มากที่สุดเรื่องหนึ่ง เป็นหนัง coming of age ที่ทรงพลัง

Don`t copy text!