Loki

Loki

โดย : ภาสกร ศรีศุข

Loading

นอกจากนวนิยายออนไลน์สนุกๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจากนักเขียนมากมายแล้ว อ่านเอายังมีเรื่องหนังมาเล่าให้อ่านในคอลัมน์  “อ่านเอาเล่าหนัง” โดย โอ่ง – ภาสกร ศรีศุข ผู้มีความสนใจในเรื่องภาพยนตร์และมีความรักในการอ่านการเขียน เขาจึงเขียนมาเล่าให้ชาวอ่านเอาได้อ่านออนไลน์

************************

อ้างอิงจาก Marvel

ผู้กำกับ : Kate Herron

นักแสดง : Tom Hiddleston, Gugu Mbatha-Raw, Wunmi Mosaku, Eugene Cordero, Tara Strong, Owen Wilson, Sophia Di Martino, Sasha Lane, Jack Veal, DeObia Oparei, Richard E. Grant, Jonathan Majors

ดนตรีประกอบ : Natalie Holt

 

โลกิ เทพแห่งการหลอกลวง ฝืนชะตาจากการต้องถูกคุมขังไปแอสการ์ดทำให้เส้นเวลาผิดเพี้ยน จนหน่วยงานผู้พิทักษ์เส้นเวลาต้องเข้ามาจับกุม โดยยื่นเงื่อนไขหากเขาช่วยกอบกู้เส้นเวลาที่ผิดเพี้ยนต่างๆ กลับมาปกติได้ จะได้รับการไว้ชีวิต โลกิต้องเอาตัวรอดจากชะตากรรมใหม่นี้ พร้อมไขปริศนาว่าผู้อยู่เบื้องหลังของทุกสิ่งอย่างนี้คือใครกันแน่

แม้ก่อนหน้านี้จะมี WandaVision และ The Falcon and the Winter Soldier ออกมาสร้างปรากฏการณ์ซีรีส์มาร์เวลในเฟส 4 ก่อนแล้ว แต่สำหรับ Loki ที่แม้มาทีหลังแต่ก็มีความพิเศษไม่แพ้กัน โดยเป็นซีรีส์จากมาร์เวลที่ชาวไทยได้รับชมแบบพร้อมทั่วโลกผ่านทาง Disney+ Hotstar เป็นเรื่องแรก และยังเป็นซีรีส์ที่วัดกันด้วยความรู้สึกส่วนตัวคือคุณภาพสูง สนุก น่าติดตาม และน่าจะส่งผลกับเฟส 4 ของจักรวาลมาร์เวลได้น่าสนใจที่สุดเรื่องหนึ่งด้วย

ซีรีส์ Loki มีความสำคัญไม่น้อยทีเดียว เพราะในเรื่องโลกิต้องเล่นเกี่ยวกับการแตกแขนงของมิติเวลาต่างๆ และการโยงว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังของการควบคุมเส้นเวลาก็น่าสนใจทีเดียวว่าจะโยงไปต่ออย่างไรในเรื่องอื่น ที่แน่ๆ อย่างน้อยก็ในซีรีส์ What If…? และหนังอย่าง Spider-Man: No Way Home กับ Doctor Strange in the Multiverse of Madness ที่ล้วนแต่เล่นเรื่องของมิติคู่ขนานทั้งสิ้น

ซีรีส์นี้จึงมีพื้นที่เปิดกว้างมากสำหรับการหยอดนู่นนี่ลงไปในจักรวาลมาร์เวลที่เรารู้จักว่ายังมีอีกสถานที่ที่เคลื่อนไหวคู่ขนานไปกับเรื่องราวปกติที่เราเคยดูมา ทั้งองค์กรผู้พิทักษ์เวลาที่มีกฎระเบียบข้อห้ามหลายอย่างที่น่าสนใจว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลัง การด้อยค่าเหล่าอัญมณีที่มีพลังมากที่สุดในจักรวาลมาร์เวลเหลือเป็นเพียงที่ทับกระดาษ การมีอยู่ของผู้คุมกาลเวลาที่กำหนดว่าตัวแปรอะไรอยู่ในเส้นเวลาศักดิ์สิทธิ์และอะไรที่ไม่ใช่

แม้จะดำเนินเรื่องเหมือนหนังแนวตำรวจที่ต้องร่วมมือกับตัวร้ายเพื่อจับวายร้ายที่ยิ่งใหญ่กว่า ทว่าแต่ละตอนที่ซีรีส์พาเราไปมันเต็มไปด้วยความน่าสนใจ ที่สำคัญมันทำให้เราประหลาดใจอยากดูอยากรู้ไปหมด ทั้งตัวละครใหม่ๆ การเปิดเผยหรือเฉลยความลับใหม่ๆ บทสนทนาที่ชวนคิดต่อ รวมถึงเส้นเวลาตัวแปรที่อยู่นอกเส้นทางหลักสัมพันธ์อย่างไรกับไทม์ไลน์ปกติแบบในหนังนิยายไซ-ไฟที่เล่นเรื่องเวลา

เหล่านี้คือสิ่งที่ Loki มอบให้ได้อย่างเข้มข้นมากๆ ถ้าวัดส่วนตัวแล้ว รู้สึกสนุกอยากดูตอนต่อๆ ไปเรื่อยไปทุกตอนไม่มีหยุดเลย เพราะบางตอนก็ใส่ความเป็นหนังภัยพิบัติถล่มโลก บางช่วงก็เป็นหนังแนวสายลับ ทั้งยังมีอารมณ์โรแมนติกคอเมดี และอารมณ์ต่างๆ ให้เสพแบบอิ่มๆ ในขณะที่ซีรีส์ 2 เรื่องก่อนหน้ายังไม่รู้สึกขนาดนี้ อาจเพราะว่าด้วยเรื่องหนึ่งใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบทดลองที่หลายอย่างเราไม่ได้สนใจ และสำหรับอีกเรื่องก็มีเรื่องราวการเมืองและอุดมการณ์นำหน้าความสนุกมากไปนิดหนึ่ง

แต่สำหรับ Loki มันสำเร็จตั้งแต่การใช้ตัวละครอย่างโลกิที่แสดงโดย ทอม ฮิดเดิลสตัน มาเป็นตัวนำ เพราะเขาคือตัวละครสีเทาเปี่ยมเสน่ห์ที่อยู่ที่ไหนในจักรวาลมาร์เวลก็เติมรสชาติทั้งเปรี้ยว หวาน ขม ได้หมด และแน่นอนผู้ชมรักตัวละครนี้ไม่แพ้เหล่าฮีโร่ตัวหลักเลย

แถมรอบนี้ยังมีแจมด้วยตัวละครเจ๋งๆ อย่างเจ้าหน้าที่โมเบียสที่แสดงโดยดาวตลกอย่าง โอเวน วิลสัน ซึ่งผู้เขียนรู้สึกแปลกตากับภาพลักษณ์ใหม่ของเขาพอๆ กับความซับซ้อนของตัวละครนี้ที่ไม่ดีและไม่ร้ายจนเกินไป ที่สำคัญชื่อที่หมายถึงวงเกลียวไร้จุดจบยังน่าสนใจด้วยว่าเขาเกี่ยวพันกับเบื้องหลังที่แท้จริงอย่างไร

ฝั่งสาวๆ ก็ยังต้องยกให้ โซเฟีย ดิมาร์ติโน ที่มารับบทซิลวี ตัวร้ายหลักในช่วงแรกของซีรีส์ได้แบบพราวเสน่ห์มากๆ และที่อยากให้จับตาอีกคนคือ Gugu Mbatha-Raw ผู้รับบทผู้พิพากษา ราวอนนา เรนสเลเยอร์ เพราะถ้าอิงตามหนังสือการ์ตูนเธอคือตัวเชื่อมไปยังวายร้ายคนสำคัญของเฟส 4 ที่ชื่อจะมาปรากฏตัวในหนัง Ant-Man and the Wasp: Quantumania มาก่อนแล้ว และจะมาปรากฏตัวเป็นที่เรียบร้อยในซีรีส์นี้ ก็คงต้องดูกันยาวๆ ว่างานนี้มาร์เวลจะนำเสนอตัวละครนี้ในหนังเรื่องอื่นๆ ที่จะออกมาก่อนอีกหรือไม่ เมื่อตัวละครนำเยี่ยม เรื่องราวเยี่ยม ซีรีส์นี้เลยประสบความสำเร็จได้แบบไม่ต้องสงสัยเลย

นอกจากนี้ใน Loki ยังอุดมด้วยอีสเตอร์เอ้กจำนวนมากมายที่ผู้ชมสายตาไวต่างๆ ต้องชอบมากๆ และแม้จะไม่ใช่สาวกตัวของมาร์เวลแต่อย่างไร เราก็จะยังได้ตื่นเต้นกับบรรดาตัวละครลับต่างๆ มากมายที่ใส่มาแน่ๆ (โลกิจระเข้ที่ไม่มีทางที่ใครดูแล้วจะไม่ว้าวแน่ๆ) และการใส่ฉาก (อย่างพีระมิดหรือตึกอเวนเจอร์ส) วัตถุอุปกรณ์ (อย่างธานอสเฮลิคอปเตอร์) มิดเครดิตซีนที่ไม่ค่อยเห็นในซีรีส์มาร์เวล แถมใส่มาแบบชวนขนลุกได้เลย

พวกนี้ล้วนต่อยอดจินตนาการ การคาดเดาของแฟนมาร์เวลต่อเรื่องราวในภายภาคหน้านอกเหนือจากซีรีส์นี้ไปได้ไกลและเมามันอย่างมาก และนี่คืออีกความสำเร็จที่ซีรีส์นี้ทำได้ คือชักชวนให้แฟนมาร์เวลมาร่วมคุย ร่วมถกเถียงกับทฤษฎีต่างๆ อย่างสนุกสนานมากเหมือนตอนที่หนัง Avengers: Infinity Wars เคยทำสำเร็จมาแล้ว และยังเป็นปัจจัยที่ต้องดูเก็บรายละเอียดกันเองแบบที่ไปดูคลิปสปอยล์สรุปอะไรแบบนั้นไม่ได้เลย

ถ้าถามส่วนตัวคือเป็นซีรีส์แรกของมาร์เวลใน Disney+ ที่รู้สึกองค์ประกอบมาพร้อมสมบูรณ์มาก เสียดายที่มีแค่ 6 ตอน น้อยไปหน่อย และก็ทิ้งจบซีซันไว้แบบบีบหัวใจผู้ชมเหลือเกิน เพราะไม่รู้ซีซันที่ 2 จะมาเมื่อไหร่ แต่ก็พลาดไม่ได้อย่างยิ่งเลย

Don`t copy text!