Rosemary’s Baby

Rosemary’s Baby

โดย : ภาสกร ศรีศุข

Loading

นอกจากนวนิยายออนไลน์สนุกๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจากนักเขียนมากมายแล้ว อ่านเอายังมีเรื่องหนังมาเล่าให้อ่านในคอลัมน์  “อ่านเอาเล่าหนัง” โดย โอ่ง – ภาสกร ศรีศุข ผู้มีความสนใจในเรื่องภาพยนตร์และมีความรักในการอ่านการเขียน เขาจึงเขียนมาเล่าให้ชาวอ่านเอาได้อ่านออนไลน์

************************

Rosemary’s Baby

ผู้กำกับ :  Roman Polanski

ผู้อำนวยการสร้าง : William Castle

ผู้เขียนบท : Roman Polanski

อ้างอิงจากนวนิยายเรื่อง Rosemary’s Baby โดย Ira Levin

นักแสดง : Mia Farrow, John Cassavetes, Ruth Gordon, Sidney Blackmer, Maurice Evans, Ralph Bellamy

ดนตรีประกอบ : Krzysztof Komeda

ผู้กำกับภาพ : William A. Fraker

ผู้ตัดต่อ : Sam O’Steen, Bob Wyman

เนื้อคู่สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันอย่างโรสแมรี่และ กาย วู้ดเฮาส์ ที่ย้ายเข้ามาอยู่อาศัยในอพาร์ตเมนต์ The Bramford แม้พวกเขาจะได้รับรู้ข้อมูลว่าเจ้าของคนเก่าเสียชีวิต (แม้จะเป็นที่โรงพยาบาล) แต่ก็ด้วยพื้นที่ของห้องนั้นน่าอยู่มาก พวกเขาจึงตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ สองผัวเมียได้เพื่อนบ้านใหม่อย่างเร็วพลัน เขาและเธอได้รู้จักกับสามีภรรยาสูงอายุอย่างมินนี่และ โรมัน คาสเทเว็ต ที่ดูเหมือนจะสนิทสนมกับครอบครัวของพวกเขามากไปสักหน่อย

ไม่นานโรสแมรี่ก็ตั้งท้องสมใจ และก็เช่นเคย พวกคาสเทเว็ตก็วนเวียนมาดูแลเธออยู่เสมอ แถมยุ่มย่ามมากผิดปกติ ให้กินอะไรแปลกๆ หาหมอให้ และเธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลกำลังเกิดขึ้นกับเธอ โดยที่เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร…

ทุกสิ่งหลังจากเธอตั้งท้องก็เกิดเหตุการณ์แปลกๆ สาวที่สดใสฆ่าตัวตาย เพื่อนบ้านจอมสอดรู้ที่มากับพฤติกรรมแปลกๆ อย่างโรมันและ มินนี่ คาสเทเว็ต รับบทโดย Sidney Blackmer และ Ruth Gordon ที่สร้างบรรยากาศที่ไม่น่าไว้วางใจให้กับโรสแมรี่ จนกระทั่งการสืบสวนคลายปมด้วยตัวเธอเองนั้นได้พาไปพบกับลัทธิบูชาซาตาน ที่มีแผนให้กายสามีของเธอที่เธอก็มาทราบภายหลังว่าเป็นหนึ่งในสาวกต้องการวางแผนให้เธอตั้งท้องเพื่อคลอดซาตานออกมาจากโลกใบนี้ (เหมือนกับ The Omen) เป็นการเอาเรื่องความเชื่อของการตั้งท้องโดยสาวบริสุทธิ์อย่างพระคริสต์มาเปรียบเทียบให้เกิดความน่ากลัวทันทีตามความเชื่อของคนตะวันตกซึ่ง ในช่วงปี 60s นั้นภาพยนตร์แนวนี้เป็นความ ‘กล้า’ ที่จะหยิบยื่นเนื้อหาที่ส่อเสียดศีลธรรมออกมาฟาดหัวคนดู

ในแง่ของการเสียดสีตามกลไกที่สะท้อนถึงสังคมตามสัญลักษณ์ของหนังแล้ว Roman Polanski ไม่ได้ต้องการสร้างแค่ภาพยนตร์สยองขวัญ ผีสาง เทวดา เทพนิยายมาหลอกคนดูอย่างเดียว เพราะ Rosemary’s Baby นั้นไม่มีภาพของความสยองหรือผีปีศาจออกมาหลอกหลอนตึงตังแต่อย่างใด แต่เรากลับขนลุกเมื่อได้พบกับกลุ่มคนแปลกๆ หรือสาวกของลัทธิปิศาจนี้ในพฤติกรรมแปลกๆ สายตาเย็นชาที่แสนขนลุก ซึ่งการแทรกแนวคิดของผู้กำกับมีปมคนนี้คือการไว้ใจคน จะเห็นว่าโรสแมรี่จะมีอาการเพี้ยนๆ ทางประสาท ต้องกินยาระงับ ปรึกษาแพทย์ พูดกับตัวเองคนเดียว

แต่ทุกตัวละครที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเธอทั้งหมดนั้นไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ้าน สามี เจ้าหน้าที่ตำรวจ หมอส่วนตัวที่รักษาประจำ ล้วนเป็นคนของลัทธิปีศาจเหล่านี้ทั้งนั้น เป็นการบอกเป็นนัยของผู้กำกับคนนี้ต่อสังคมที่เรากำลังอยู่ว่าภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เชื้อเชิญ และเป็นมิตร เราไม่รู้หรอกว่าคนเหล่านั้นเบื้องลึกนั้นเป็นยังไง แม้กระทั่งคนที่ใกล้ตัวเราที่สุดอย่างสามีหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ฉากจบของ Rosemary’s Baby นั้น ผู้กำกับ Roman Polanski พาเราเดินหน้าไปสู่จุดหักมุมที่เป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดที่ทำให้หนังเรื่องนี้ขึ้นหิ้งหนังสยองขวัญระดับตำนาน นั่นคือฉากที่โรสแมรี่ได้ทราบแล้วว่าลูกของเธอ (ที่เราจะไม่มีทางรู้ว่าหน้าตาเป็นยังไง) คือซาตานมาเกิด เธอหยิบมีดเล่มหนึ่งจะเข้าไปเพื่อฆ่าลูกตัวเองต่อหน้าสาวกที่ยืนดูเธอรอบๆ จังหวะที่เธอจะเงื้อมมีดเข้าใส่นั้น ทารกก็ร้องไห้ดังขึ้น เธอลังเลสักครู่แล้วก็ตัดสินใจไกวเปลให้ทารกหลับสบายต่อไปพร้อมร้องเพลงกล่อมให้ลูกฟังในฐานะของผู้เป็นแม่

โดยที่เรานั้นจะไม่รู้เลยว่าแท้จริงนั้นเธอจะยอมเข้าลัทธินี้ หรือไม่ก็จะอดทนยอมแพ้เพราะไม่สามารถทนต่อสิ่งที่ผิดศีลธรรม และอยู่กับคนกลุ่มนี้อย่างจำใจ หรือจะเลี้ยงดูทารกซาตานคนนี้ให้เป็นคนดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่คนดูอย่างเราต้องคิดกันเอาเอง

นับว่าเป็นฉากจบที่แสนหดหู่ที่สุดเท่าที่ได้ดู นอกเหนือจากเนื้อเรื่องสยองลึกลับแนว Gothic แล้ว เพลง Lullaby ที่ประกอบภาพยนตร์ Rosemary’s Baby ก็กลายเป็นซาวนด์แทร็กสุดหลอนที่สุดในโลกไปโดยปริยาย นับว่าเป็นหนังที่ต้องดูสักครั้งก่อนตายแล้วกัน อย่าคิดว่าหนังเก่าแล้วไม่น่าดูเลย นี่แหละผลงานสยองเยือกเย็นชั้นดีเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

Don`t copy text!