The Philadelphia Story

The Philadelphia Story

โดย : ภาสกร ศรีศุข

Loading

นอกจากนวนิยายออนไลน์สนุกๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจากนักเขียนมากมายแล้ว อ่านเอายังมีเรื่องหนังมาเล่าให้อ่านในคอลัมน์  “อ่านเอาเล่าหนัง” โดย โอ่ง – ภาสกร ศรีศุข ผู้มีความสนใจในเรื่องภาพยนตร์และมีความรักในการอ่านการเขียน เขาจึงเขียนมาเล่าให้ชาวอ่านเอาได้อ่านออนไลน์

************************

ผู้กำกับ : George Cukor

ผู้อำนวยการสร้าง : Joseph L. Mankiewicz

ผู้เขียนบท : Donald Ogden Stewart

อ้างอิงจากละครเวทีเรื่อง The Philadelphia Story ปี 1939 โดย Philip Barry

นักแสดง : Cary Grant, Katharine Hepburn, James Stewart, Ruth Hussey

ดนตรีประกอบ : Franz Waxman

ผู้กำกับภาพ : Joseph Ruttenberg

ผู้ตัดต่อ : Frank Sullivan

Tracy Lord สาวสังคมชั้นสูงกำลังจะแต่งงานใหม่กับ George Kittredge แต่สามีเก่าตัวแสบที่ติดเหล้าของหล่อน C. K. Dexter Haven หวังจะมาแกล้งเธอเล่นในช่วงงานแต่ง โดยร่วมมือกับบรรณาธิการของหนังสือนิตยสาร Spy Magazine ซึ่งส่งคอลัมนิสต์ Mike Connor มาทำข่าวแบบใกล้ชิด ระหว่างช่วงจัดงาน Tracy สับสนว่าตัวเองรักใครกันแน่ในบรรดาหนุ่มสามคน อันนำไปสู่การค้นพบความต้องการของตัวเอง

จุดเด่นของเรื่องนี้พูดถึง Tracy สาวชั้นสูงที่ไม่ใส่ใจความรู้สึกคนรอบข้าง อยากทำอะไรก็ทำ แต่เธอกลับไม่รู้ใจตัวเองว่าเธอต้องการอะไร และเป็นเหตุผลหนึ่งของชีวิตคู่ของเธอกับ C. K. ล้มเหลว (จากฉากที่ทะเลาะกับพ่อ สามารถเล่านิสัยเธอได้ค่อนข้างแจ่มแจ้ง) จนมาถึงการแต่งงานใหม่ของเธอ มีคนในแวดวงสังคมให้ความสนใจกับงานนี้อย่างมาก เมื่อมีความกดดัน การเติบโต เธอเลยเรียนรู้ว่าเธอต้องการอะไรกันแน่ เธอสามารถตอบใจตัวเองได้ว่าผู้ชายสามคนที่ล้อมรอบเธอ ใครคือคนที่เธอรัก

ในมุมมองของฉันคือ ไม่ผ่าน ไม่จำเป็นต้องสนุกจนเลี่ยน แต่ดูจนจบฉันยังขมวดคิ้วอยู่เลย ความสัมพันธ์คู่ Tracy และ C. K. นี้ดูไม่พัฒนาเท่าไหร่เลย คนดูอย่างฉันมันไม่คล้อยตามหรือการกัดกันคือการแสดงความรักหนอ แถมสร้างอารมณ์ไปในส่วน Mike ซะส่วนใหญ่ และแทบไม่ได้แยแส C.K. เลย ฉันสัมผัสได้แต่ว่าพระเอกเป็นฝ่ายเดียวที่แสดงออกว่ายังรู้สึกรักนางเอกอยู่

สิ่งที่น่าดึงดูดคือบทที่ลงตัว สิ่งที่น่าดึงดูดคงเป็นเพราะดาราสามคน ซึ่งพวกเขาก็เล่นได้ดีจริงๆ รวมไปถึงดาราสมทบคนอื่นๆ เช่นกัน สองดารานำฝ่ายชาย ต่างคนต่างได้บทที่ลงตัว Grant ต้องเป็นมาดกวนโอ๊ย หล่อ เท่ ส่วน Stewart ออกแนวหนุ่มมุทะลุ แต่นุ่มลึก

ส่วนสาว Hepburn เจ้าของสี่รางวัลออสการ์ ‘นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม’ ซึ่งเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ และเรื่องนี้เธอก็ได้รางวัลเช่นกัน ฉันเพิ่งได้มีโอกาสดูผลงานเธอเรื่องนี้เป็นครั้งแรก การแสดงของเธอนั้นดีเยี่ยม เธอใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นการพูดตะกุกตะกักในเวลาที่กะทันหัน ไม่มั่นใจ ลังเล หรือกังวล ตามธรรมชาติของคนเราทั่วไปในเวลาแบบนั้นคงไม่มีใครพูดไหลลื่น เหมือนท่องบท และผู้กำกับเลือกเธอมาเล่นเป็นเพราะมันคล้ายชีวิตจริงของเธอ

ถึงจะเป็นหนังที่ไม่ถูกจริตฉันเท่าไหร่ เนื่องจากอาจจะเป็นหนังรอมคอมในสมัยเก่าซึ่งถูกตีค่านิยมต่างจากสมัยนี้ เพียงแต่ตอนนั้นคงเป็นแนวหนังที่ใหม่มาก อารมณ์ของตัวหนังพูดถึงแวดวงสังคมชั้นสูงและนิสัยขี้เหวี่ยงเอาแต่ใจของนางเอก การแสดงไหวพริบ คารมณ์คมคาย …จุดดึงดูดอีกอย่างคือ หนังขายฝันของผู้หญิง มีหรือคุณผู้หญิงจะไม่จินตนาการไปเองว่าตัวเองเป็นนางเอก ตัวหนังมันน่าดึงดูดตรงนี้แหละ อยู่ดีๆ ก็มีผู้ชายมาล้อมรอบถึงสามคน จะเลือกใครดีนะ แล้วคนดูจะเชียร์คนไหน ใครจะลงเอยกับนางเอก

Don`t copy text!