Call Me by Your Name
โดย : ภาสกร ศรีศุข
นอกจากนวนิยายออนไลน์สนุกๆ ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจากนักเขียนมากมายแล้ว อ่านเอายังมีเรื่องหนังมาเล่าให้อ่านในคอลัมน์ “อ่านเอาเล่าหนัง” โดย โอ่ง – ภาสกร ศรีศุข ผู้มีความสนใจในเรื่องภาพยนตร์และมีความรักในการอ่านการเขียน เขาจึงเขียนมาเล่าให้ชาวอ่านเอาได้อ่านออนไลน์
*************************
ผู้กำกับ : Luca Guadagnino
ผู้อำนวยการสร้าง : Peter Spears, Luca Guadagnino, Emilie Georges, Rodrigo Teixeira, Marco Morabito, James Ivory, Howard Rosenman
ผู้เขียนบท : James Ivory
อ้างอิงจากนวนิยายเรื่อง Call Me by Your Name โดย André Aciman
นักแสดง : Armie Hammer, Timothée Chalamet, Michael Stuhlbarg, Amira Casar, Esther Garrel, Victoire Du Bois
ผู้กำกับภาพ : สยมภู มุกดีพร้อม
ผู้ตัดต่อ : Walter Fasano
สำหรับ Call Me By Your Name นั้นเป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากนิยายโรแมนติกของ อังเดร เอซิแมน ที่พูดถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเอลิโอ เด็กหนุ่มวัย 17 เชื้อสายอเมริกันอิตาเลียน-ยิว กับโอลิเวอร์ นักศึกษาหนุ่มชาวอเมริกันวัย 24 ปี ขณะมาช่วยงานคุณพ่อของเอลิโอช่วงปิดภาคฤดูร้อนในช่วงยุค 80’s
สำหรับคนที่อ่านหนังสือมาก่อน… ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียอรรถรส เพราะหนังดัดแปลงหลายๆ อย่างที่ปรากฏในหนังสือไปพอสมควร เช่น โลเคชันตามที่บรรยายในหนังสือ รวมถึงการหายไปของตัวละครบางตัว แต่ก็ยังคงไว้ซึ่ง ‘ข้อความ’ ที่ว่า “ความสวยงามของความรัก และความสัมพันธ์ที่แม้จะเริ่มต้นด้วยตัณหา แต่ก็ไปจบลงที่มิตรภาพอันแสนบริสุทธิ์งดงาม”…
กัวดาญีโนถักทอองค์ประกอบต่างๆ ในหนังเข้าหากันได้อย่างงดงาม ไม่ว่าจะเป็นงานภาพของผู้กำกับภาพชาวไทย สยมภู มุกดีพร้อม ที่จับเอารายละเอียดต่างๆ (ตั้งแต่ทิวทิศน์ อุณหภูมิของแสงแดด แมลงวันที่ไต่ตอม ไปจนถึงเงาของคลื่นน้ำที่สะท้อนขึ้นมากระทบใบหน้า) เอาไว้ในภาพได้อย่างสวยสดเป็นธรรมชาติ เพลงประกอบที่ได้ ซุฟยาน สตีเฟนส์ มาเป็นผู้ประพันธ์และขับขานถึงความรักได้ชวนเคลิบเคลิ้ม ไปจนถึงเคมีที่เข้ากันได้ดีเยี่ยมระหว่างชาลาเมต์กับแฮมเมอร์ โดยเฉพาะการแสดงของชาลาเมต์ที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเสน่ห์เหลือล้นและยังเต็มไปด้วยความเปราะบาง ละเอียดอ่อน และซับซ้อนทางอารมณ์
หนังจึงไม่เพียงแสดงให้เห็นว่าตัวละครกำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์แห่งความรักใคร่ (โดยเฉพาะตัวเอลิโอที่กำลังอยู่ในวัยกลัดมัน) แต่ยังชโลมให้ทุกอณูของภาพและเสียงเปี่ยมล้นไปด้วยแรงปรารถนา ทำให้คนดูตกอยู่ในมนตร์สะกดได้ แม้หนังแทบจะไม่มีเหตุการณ์ที่เด่นชัดหรือพล็อตตามตำรับหนังแนว coming-of-age มากนักก็ตาม
ตลอดทั้งเรื่อง หนังค่อยๆ เผยให้เห็นชั่วขณะเล็กๆ น้อยๆ ของฤดูร้อนนั้น บทสนทนาบนโต๊ะอาหารมื้อแล้วมื้อเล่า การกระโจนลงน้ำเพื่อคลายร้อนในยามบ่าย การง่วนอยู่กับหนังสือและการถอดโน้ตดนตรีของเอลิโอ และประโยคบอกลา “ค่อยว่ากัน!” อันเป็นเอกลักษณ์ของโอลิเวอร์ก่อนที่เขาจะขี่จักรยานจากไป
หลายครั้งแต่ละฉากถูกตัดจบไปดื้อๆ โดยไม่บอกเหตุผลหรือจุดคลี่คลายของเหตุการณ์ แต่ด้วยการเผยให้เห็นฉากสั้นๆ หลายๆ ฉากที่ดูเหมือนไม่สลักสำคัญนี่เอง หนังได้แสดงให้เห็นตัวตนของคนทั้งสองและพัฒนาการความสัมพันธ์ของพวกเขาไปด้วยในตัว จากที่เริ่มรู้จัก สู่การหยั่งเชิงกันไปมา การโกรธเคืองกันด้วยความไม่เข้าใจ ไปถึงการเปิดเผยความรู้สึกทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งรักกันจนหมดหัวใจ
ดนตรี บทประพันธ์ งานศิลปะ และโบราณวัตถุที่รายล้อมกลายมาเป็นสื่อกลางที่พวกเขาใช้ในการเรียงร้อยเชื่อมโยงความรู้สึกถึงกัน ดังเช่นประโยค “พูดออกไปหรือตายซะดีกว่า” ในวรรณคดีโรแมนซ์ของฝรั่งเศส ไม่เพียงถูกใช้เพื่อยั่วล้อการเก็บงำความในใจ หากยังสะท้อนภาวะที่ต้องปกปิดเมื่อตกหลุมรักคนเพศเดียวกันด้วย
ขณะที่อนุสาวรีย์สงครามโลกครั้งที่ 1 กลายมาเป็นสถานที่สารภาพความรู้สึก ในฉากนั้น ทั้งสองเดินอ้อมอนุสาวรีย์ไปคนละฝั่ง เอลิโอเผยความในใจให้โอลิเวอร์ได้รับรู้จากฝั่งหนึ่งไปสู่อีกฝั่ง ก่อนจะเดินกลับมาบรรจบกันอีกครั้ง การสารภาพรักครั้งนี้จึงยั่วเย้าไปกับระยะห่างทางใจและสิ่งที่กีดขวางความรู้สึกของคนทั้งคู่ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่เพียงทำให้มันกลายเป็นฉากบอกรักที่น่าจดจำที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ แต่ยังเป็นตัวอย่างชั้นเยี่ยมที่แสดงให้เห็นว่าหนังเรื่องนี้จับวางความรู้สึกของคนให้สัมพันธ์กับโลกภายนอกได้อย่างชาญฉลาด สวยงาม และละเอียดลออเพียงไร
แต่ต่อให้ฤดูร้อนนั้นพิเศษแค่ไหน มันก็ต้องมาถึงจุดจบ และเพราะหนังได้เล่าเรื่องการจากลา Call Me by Your Name จึงไม่ได้เป็นหนังที่ดีแต่พร่ำเพ้อถึงความรัก หากเป็นหนังที่เข้าใจพลังของรักครั้งแรกและความร้าวรานของดวงใจที่แตกสลายลงเพราะมัน เพราะนั่นคือความรักที่เราทุ่มลงไปสุดตัวราวกับไม่มีอะไรจะเสีย ความรักที่ตัวตนของอีกฝ่ายได้เข้ามาผนวกเข้ากับตัวตนของเรา ทำให้เราต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล (ดังเห็นได้จากการที่เอลิโอกับโอลิเวอร์เรียกขานกันและกันด้วยชื่อของอีกฝ่าย)
Call Me by Your Name จึงมอบโอกาสให้คนดูได้สบตากับใบหน้าของความรักอีกครั้ง กระตุ้นเตือนถึงฤดูรักครั้งแรกของพวกเราเองที่ถูกกลบฝังอยู่ในความทรงจำ แม้อาจต้องปวดหัวใจกันอีกหน (ไม่ต่างจากเพลงประกอบภาพยนตร์ในฉากจบ ซึ่งใคร่ครวญถึงความรักที่กลายไปเป็นเพียงภาพวิดีโอที่เล่นซ้ำอยู่ในความทรงจำ) คำพูดยืดยาวกินใจของพ่อเอลิโอในตอนท้ายเรื่องจึงเป็นเสมือนเสียงเพรียกเตือนสติในวันที่ใจแหลกราญ ย้ำให้จดจำความรักอย่างถ้วนทั่ว ทั้งช่วงเวลาอันหอมหวานและความเจ็บปวดที่มาพร้อมกับมัน เพราะการก้าวเดินต่อไปในชีวิตอย่างเร่งรีบเพื่อที่จะลืมเลือนนั้น มีแต่จะทำให้หัวใจด้านชา ราวกับว่าการลืมความเจ็บปวดที่มาจากรักคือการลืมไปด้วยว่าหัวใจของเรานั้น… รักเป็น
- READ Gangubai Kathiawadi
- READ In the Mood for Love
- READ Pain and Glory
- READ Singin’ in the Rain
- READ Sonic the Hedgehog
- READ The Invisible Man
- READ The Meg
- READ Unhinged
- READ Exit
- READ Encanto
- READ Sky of Love
- READ Still Human
- READ The Curse of the Weeping Woman
- READ The Nun
- READ Yesterday
- READ Rocketman
- READ Ocean’s 8
- READ Greenland
- READ Bird Box
- READ Hula Girls
- READ The Outpost
- READ It Happened One Night
- READ Joker
- READ Soylent Green
- READ My Fair Lady
- READ The Babadook
- READ The Bride Wore Black
- READ There will be Blood
- READ Waterloo Bridge
- READ The Arrival of a Train at La Ciotat
- READ The Philadelphia Story
- READ Brief Encounter
- READ Incident in a Ghostland
- READ Dolemite Is My Name
- READ I Kill Giants
- READ As Good as It Gets
- READ Belle de Jour
- READ Andrei Rublev
- READ Monster Hunter
- READ The Climb
- READ The Conjuring : The Devil Made Me Do It
- READ Cruella
- READ A Woman Under the Influence
- READ Ivan’s Childhood
- READ Loki
- READ Repulsion
- READ The Tenant
- READ Chinatown
- READ Promising Young Woman
- READ Rosemary’s Baby
- READ The Man Who Fell to Earth
- READ Tom and Jerry
- READ Walkabout
- READ Harold and Maude
- READ Comrades: Almost a Love Story
- READ The Killing of a Chinese Bookie
- READ Being There
- READ Burning
- READ Better Days
- READ The Poseidon Adventure
- READ Don’t Look Now
- READ The Manchurian Candidate
- READ Midnight Cowboy
- READ The Firm
- READ Ammonite
- READ Charlie Wilson’s War
- READ Soul
- READ Tootsie
- READ Close Encounters of the Third Kind
- READ Dog Day Afternoon
- READ Crazy Rich Asians
- READ 1917
- READ Closer
- READ The Shining (1980)
- READ We Are X
- READ Last Christmas
- READ Breakfast at Tiffany’s
- READ Call Me by Your Name
- READ The Impossible
- READ Gravity
- READ The Last Five Years
- READ The Eight Hundred
- READ A Beautiful Day in the Neighborhood