糧食危機 – เหลียงสือเหวยจี

糧食危機 – เหลียงสือเหวยจี

โดย : คุณนายฮวง

Loading

นอกจาก นิยายออนไลน์ สนุกๆ แล้ว อ่านเอา ยังมีคอลัมน์ ‘(เรื่องเล่า) 6,200 วันในไต้หวัน’ โดย คุณนายฮวง สาวไทยสุดไฮเปอร์ที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ไทเปได้หลายปีดีดักกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในต่างแดนที่เต็มไปด้วยสีสันและมุมมองหลากหลาย เรื่องราวดีๆ ที่ อ่านเอา อยากให้คุณได้ อ่านออนไลน์

เวลาที่เพื่อนๆ ถามฉันว่า มาเที่ยวไต้หวันช่วงไหนดีที่สุด ฉันมักจะตอบว่า จะมาช่วงไหนก็มาเถอะ แค่อย่ามาช่วงหน้าร้อนของที่นี่ ซึ่งก็คือเดือนมิถุนายน-เดือนสิงหาคมก็พอ เพราะร้อนมากกกกกก ประมาณว่าทอดไข่บนหลังคารถที่จอดกลางแดดได้เลย (อันนี้ฉันไม่ได้เว่อร์นะ เคยมีนักข่าวทีวีรายงานข่าวเรื่องอากาศร้อนอยู่ปีนึง นางเอาไข่ไปตอกลงบนกระโปรงหน้าของรถเก๋งที่จอดอยู่กลางแดดให้ดูจริงๆ ค่ะ) แล้วก็ช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ไต้ฝุ่นเยอะด้วย จะเที่ยวไม่สนุกเอา แต่อย่างที่เราประสบพบเจอกันมา โดยเฉพาะในปีนี้ ที่ไทยก็ร้อนถึงขนาด Real feel แตะเกือบ 50 องศา (เห็นเพื่อนโพสต์ในเฟซบุ๊กน่ะ) ที่นี่ก็ไม่แพ้เมืองไทยเลย วันนี้ (6 พฤษภาคม 2023) Real feel อยู่ที่ 41 องศา นี่ขนาดเพิ่งต้นพฤษภาเองนะคะ 😓

ปัญหา Extreme Weather ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ มันหนักหนาสาหัสขึ้นเรื่อยๆ แถมก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย ที่ฉันกำลังเป็นห่วงมากๆ ก็คือเรื่อง 糧食危機 – เหลียงสือเหวยจี หรือ Food Crisis ค่ะ ภาษาไทยน่าจะแปลได้ว่าวิกฤตอาหารมั้ง ตั้งแต่ตอนกุมภาพันธ์ที่ฉันเพิ่งกลับมาจากไทย ก็เริ่มมีข่าวไข่ไก่แพง เห็นว่าก่อนหน้านี้มีไข้หวัดนกระบาด (ซึ่งฉันรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้มันมีบ่อยจัง สมัยฉันเด็กๆ ไม่เห็นมี Bird Flu, Swine Flu อะไรพวกนี้สักเท่าไร) ฟาร์มเลี้ยงไก่ก็ต้องฆ่าไก่ล้างบางกัน (สงสารไก่จริงๆ เวลาได้ยินข่าวแบบนี้😢) เลยทำให้ไข่ไก่ขาดตลาดไปด้วย ฉันไปจ่ายตลาดเห็นไข่กล่องนึงมีไข่สิบใบ (ใบก็ไม่ใหญ่ด้วยนะ) ราคา 168 หยวน โอย แทบจะเป็นลม ไม่กินไข่สักพักก็ได้วะ เพราะด้วยราคานี้ถึงซื้อไปกินก็คงฝืดคอน่าดู😅 รัฐบาลเกาะนี้จึงแก้ปัญหาด้วยการนำเข้าไข่ไก่ ฉันก็เลยได้กินไข่ไก่อิมพอร์ตจากออสเตรเลียบ้าง อีกอาทิตย์นึงเจอไข่ไก่จากเมืองไทย ก็เลยได้สนับสนุนบ้านเกิดเมืองนอนตัวเองไปโดยปริยาย ซึ่งสถานการณ์นี้ทางกระทรวงพาณิชย์ไต้หวันคาดการณ์ว่า คงต้องนำเข้าไข่ไก่ไปจนถึงปีหน้านู่นแน่ะ😱

ไม่ใช่แค่วิกฤตไข่ไก่นะ สืบเนื่องจากเกาะนี้ไม่มีพายุไต้ฝุ่นเข้ามา 3-4 ปีได้แล้ว ตอนนี้ทางภาคกลางและภาคใต้กำลังเจอวิกฤตขาดน้ำประปา อย่างที่ฉันเคยเล่าไปในบทถามหาไต้ฝุ่นน่ะค่ะ ต้องมีมาตรการปิดเปิดน้ำเป็นเวลาในบางพื้นที่ คนที่อยู่ทางภาคเหนืออย่างฉัน อาจจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะปริมาณน้ำในเขื่อนยังพอมีอยู่ แต่ผลกระทบทางอ้อมสิ ที่ฉันคิดว่าก็หนักหนาเช่นกันนั่นคือ  糧食危機 – เหลียงสือเหวยจี นี่ล่ะค่ะ เดือนที่แล้วเห็นข่าวนึงแล้วก็ต้องถอนหายใจ เนื่องจากภัยแล้งที่ทางภาคกลางและภาคใต้เผชิญอยู่ ทำให้ภาคการเกษตรได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง (เพราะอุตสาหกรรมการผลิตชิปก็ต้องใช้น้ำมากเหมือนกัน แล้วดูเหมือนรัฐจะให้ความสำคัญกับภาคอุตสาหกรรมมากกว่า) ประมาณการณ์ตัวเลขค่าความเสียหายออกมาเป็นจำนวนเงินสามสี่ร้อยล้านหยวนได้แล้ว ฉันเห็นภาพข่าวไร่ชาทางหนันโถวที่ใบชากลายเป็นสีน้ำตาลไปทั้งต้น (เปลี่ยนสีโดยไม่ต้องเข้าเครื่องอบแห้งเลย😔) แล้วตกใจมาก นอกจากชาแล้ว วิกฤตที่จะต้องมีแน่ๆ อีกอย่างคือข้าวค่ะ ตามข่าวที่ฉันอ่านทางรัฐบาลก็ทำนายว่า ต้องเกิดข้าวไม่พอบริโภคภายในประเทศแน่ๆ ซึ่งรัฐบาลก็เตรียมการที่จะนำเข้าข้าวจากทางเมืองไทย แต่ทางไทยเราก็มีภัยแล้งในช่วงเมษาที่ผ่านมาเหมือนกัน ก็ไม่รู้ว่าจะมีมากพอส่งออกได้อย่างเคยไหม

เฮ้อ! ไหนจะสงครามทางยูเครน แล้วก็สงครามกลางเมืองในซูดานอีก ทั้งสองแห่งนี้ก็มีผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรลดลง อย่างยูเครนนี่คือแหล่งปลูกข้าวสาลีแหล่งใหญ่ของโลก จึงส่งผลกระทบมากพอควร นี่ตามที่ฉันดูข่าวของ CNN นะคะ ที่ไต้หวันนี่เห็นชัดๆ เลยก็พวกเบเกอรี่นี่ล่ะที่ราคาขึ้นกันน่าดู เพราะแป้งสาลีขึ้นราคา แล้วก็วัตถุดิบอื่นอีกเช่น ไข่ เนย ฯลฯ แล้วรัฐยังมีการปรับขึ้นราคาค่าไฟโดยเริ่มจากเดือนเมษายนเป็นต้นมา พวกข้าวกล่องนี่ก็ขึ้นราคาด้วยเหมือนกัน คุณชายเพิ่งบ่นให้ฟังว่าเจอข้าวกล่องหมูพะโล้กล่องละร้อยหยวน (จากที่เคยซื้อได้ในราคา 65-70 หยวน) แถมหมูก็ไม่ได้ชิ้นใหญ่โตมากมายอะไรอีกตะหาก อันนี้ก็เข้าใจได้เพราะไม่กี่เดือนที่แล้ว ฉันยังซื้อหมูสดน้ำหนัก 200 กรัมในราคา 85 หยวนอยู่เลย มาตอนนี้กลายเป็น 110 หยวนไปซะแล้ว😐 คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ก็ขึ้นมา 30 เปอร์เซ็นต์เชียวนะคะ!

ตามที่ฉันดูข่าวต่างประเทศ ปัญหา Extreme Weather ที่ก่อให้เกิดทั้งภัยแล้งและน้ำท่วมนี่มีแทบจะตลอดเวลา จะเกิดตรงมุมไหนของโลกเท่านั้นเอง ซึ่งไม่ว่าจะไม่มีน้ำหรือน้ำมากเกินไป มันก็ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรอย่างเต็มๆ น่ะ 糧食危機 – เหลียงสือเหวยจี มันเริ่มจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เราอาจจะไม่รู้สึกกันมากเพราะยังมีกินอยู่ แต่ถ้าดูข่าวมากอย่างฉัน (ซึ่งคิดว่าจะเลิกดูซะหน่อยล่ะ เพราะดูแล้วก็จิตตกลงเรื่อยๆ😅) ก็จะรู้ว่ามันมีปัญหาจริงๆ อย่างบริษัทยักษ์ใหญ่ของไต้หวันแห่งนึงก็กำลังค้นคว้าวิจัยเรื่องอาหารสังเคราะห์ (ฉันขอใช้คำนี้ละกันนะ ในเมื่อมันไม่ได้เกิดจากธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์) ฉันก็ได้แต่หวังว่าคงไม่ต้องถึงขั้นต้องบริโภคอาหารแบบแคปซูลอย่างที่เห็นในหนังไซ-ไฟนะ ไม่งั้น foodie อย่างอิฉันคงเฉาตายแน่ๆ😥

 

Don`t copy text!