Snow Flower

Snow Flower

โดย : คุณนายฮวง

Loading

นอกจาก นิยายออนไลน์ สนุกๆ แล้ว อ่านเอา ยังมีคอลัมน์ ‘(เรื่องเล่า) 6,200 วันในไต้หวัน’ โดย คุณนายฮวง สาวไทยสุดไฮเปอร์ที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ไทเปได้หลายปีดีดักกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับการใช้ชีวิตต่างแดนที่เต็มไปด้วยสีสันและมุมมองหลากหลาย เรื่องราวดีๆ ที่ อ่านเอา อยากให้คุณได้ อ่านออนไลน์

***********************************

– Snow Flower –

เคยเล่าให้ฟังนิดหน่อยว่า ด้านหลังบ้านของฉันเป็นภูเขา วิวสวย โล่ง เวลาไต้ฝุ่นเข้าก็จะอกสั่นระทึกขวัญกันพอสมควร เพราะมีหน้าต่างกระจกกว้างขวางไว้ชมวิว ตอนฤดูใบไม้ผลิปีแรกที่ฉันซื้อบ้านหลังนี้ มองออกไปจากหน้าต่างห้องนอนก็สงสัยว่า เอ๊ะ ทำไมภูเขาหลังบ้าน บางแห่งต้นไม้มีสีขาวๆ ด้วยน้า ก่อนหน้านี้ก็ยังเห็นเป็นสีเขียวปกติดีนี่นา จนกระทั่งเห็นจากข่าวทีวี ถึงได้รู้ว่าคือดอกไม้ชนิดหนึ่งชื่อว่า ‘油桐花 – โหยวถงฮวา’ แต่ฉันชอบเรียกสั้นๆ ว่าถงฮวา(คล่องปากกว่านิดนึง) ถามอากู๋แล้วได้ชื่อภาษาอังกฤษว่า Vernicia fordii ภาษาไทยเรียกว่า มะเยาเหลี่ยม ชื่อไทยนี่ฟังแล้วแปลกๆ เนอะ ไม่เคยได้ยินเลย แหม ก็หมวยเยาวราชน่ะ ไม่ค่อยรู้จักพืชพรรณไม้อะไรกะเค้าหรอกค่ะ แฮ่ะแฮ่ะ😅

โหยวถงฮวา ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของชาวจีนแคะ (Hakka) จะบานตอนปลายเดือนเมษายน-ต้นเดือนพฤษภาคมโดยประมาณ ต้นโหยวถงฮวานี้เป็นไม้ยืนต้นสูงอยู่บนภูเขา แล้วเวลามันร่วงกันลงมาจะดูเหมือนหิมะตก สวยมากค่ะ แล้วคงเพราะด้วยเหตุผลนี้มั้งคะ เพื่อนชาวไต้หวันคนหนึ่งของฉันถึงเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า snow flower ตอนปีแรกๆ ที่มาถึง เพื่อนก็แนะนำว่า ช่วงเวลาไหนมีอะไรน่าสนใจ เที่ยวชมอะไรได้บ้าง มีเอ่ยถึง snow flower อิฉันฟังแล้วก็งงๆ ดอกไรหว่า ชื่อแปลกดี แต่ก็ไม่เคยมีโอกาสได้ไปชมเพราะ หนึ่ง ชื่อมันไม่คุ้นหู สอง คือช่วงเวลาก่อนหน้านิดหน่อย เป็นช่วงชมซากุระที่ฉันโปรดปรานมากกว่า เลยทำให้ออกจะลืมๆ ไป จนย้ายมาอยู่บ้านนี้ล่ะค่ะ ถึงได้บรรจุโหยวถงฮวาเข้ามาอยู่ในลิสต์ดอกไม้โปรดของคุณนายฮวงอีกหนึ่งรายการ

ในเขตซี่จื่อที่ฉันอยู่ พอถึงเดือนพฤษภาคม บางปีมีจัดกิจกรรมชมดอกโหยวถงฮวา มีอยู่ปีหนึ่งตื่นมาเล่นเอางง ทำไมทะเลสาบหลังบ้านมีรถบัสใหญ่ๆ จอดกันเต็มเลย มารู้ทีหลังว่าวันนั้นทางเขตจัดมาชมดอกโหยวถงฮวาบนเขาหลังบ้านฉันนี่เอง ^^ ตอนที่เห็นจากหน้าต่างห้องนอนปีแรกนั้น ดูข่าวทีวีบอกว่าเป็นช่วงโหยวถงฮวาบานแล้ว แต่ฉันก็ยังจับแพะชนกะแกะไม่ได้อยู่ดี ไม่รู้หรอกว่าไอ้สีขาวๆ บนต้นไม้ของภูเขาหลังบ้านที่เห็นนั้นคือดอกไม้ จนกระทั่งลองตามป้ายบอกทางไปทะเลสาบอีกแห่งหนึ่ง ถึงได้ค้นพบความงามของธรรมชาติที่ทำเอาฉันปลื้มอกปลื้มใจ คิดว่าตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกซื้อบ้านอยู่บริเวณนี้ ขออธิบายนิดนึงค่ะ แถวบ้านฉันจะมีป้ายบอกทางไปทะเลสาบสองแห่งคือ จินหลงหู – 金龍湖 กับชุ่ยหู – 淬湖 (คำว่า ‘หู – 湖’ แปลว่าทะเลสาบ นี่คือยึดตามป้ายบอกทางนะ) จินหลงหูนั้นมองออกไปจากหน้าต่างบ้านฉันก็เห็นได้เลย ส่วนชุ่ยหูนั้นต้องขึ้นเขาไปอีกนิดนึง

กลับมาเล่าถึงเมื่อตอนที่ย้ายมาอยู่แถวนี้ (ประมาณสิบสามปีที่แล้ว) ตามประสาคุณนายฮวงช่างสำรวจ เห็นป้ายอะไรก็ลองตามป้ายไปเรื่อย ระหว่างทางที่จะไปชุ่ยหูนั้นเอง ถึงได้เห็นว่า สีขาวๆ ที่เห็นจากบ้านเรานั้นหนาก็คือดอกไม้นั่นเอง แต่ก็ยังเห็นหน้าตาไม่ชัดเจนเพราะอยู่บนต้นที่สูงมากๆ พอเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ตานี้ล่ะค่ะ คุณนางฮวงกรี๊ดกร๊าดน่าดู ทำไมเหรอคะ ถูกแจ๊กพอตค่ะ ได้เห็นด้วยตาตัวเองตอนที่โหยวถงฮวาร่วงลงมาจากต้น ตอนนั้นเป็นช่วงพีคสุดๆของฤดูโหยวถงฮวา กำลังบานสะพรั่งแล้วก็ร่วงหล่นจากต้นกันลงมาเป็นสาย เหมือนกับหิมะกำลังโปรยปรายลงมา นึกภาพนะคะ ถ้าเป็นคุณกำลังเดินอยู่ท่ามกลางโหยวถงฮวาโปรยปรายลงมากันแบบไม่ขาดสายเลย คุณจะกรี๊ดสลบไหมคะ 😊💖😍 น่าเสียดายค่ะ สมัยนั้นฉันยังใช้โทรศัพท์มือถือธรรมดาไม่มีกล้องอะไรทั้งสิ้น ไม่งั้นคงอัดวิดีโอเก็บไว้มาฝากกันดูได้ แล้วก็มีแค่ปีนั้นปีเดียวที่ฉันได้เห็น ‘Snow flower’ ของจริง หลังจากปีนั้น มีบางปีก็พยายามกะจังหวะขึ้นเขาไป หวังว่าจะได้เห็นอีก แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จค่ะ นี่ล่ะนะเขาถึงว่า คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต 😅

มาถึงปีนี้ ชุ่ยหูโดนบุกรุกไปจนเลยครึ่งซะแล้ว เหลือพื้นที่ประมาณแค่…ฉันว่าน่าจะเรียกแค่หนองน้ำก็คงได้…เห็นปลาว่ายกันอยู่แล้วก็สงสาร

จริงๆ แล้วถ้าถามฉัน ชุ่ยหูนั้นบ้านเราน่าจะเรียกบึงมากกว่าทะเลสาบ เพราะไม่ได้ใหญ่โตมากมายอะไร เดินขึ้นไปบนภูเขาสักพอเหนื่อยนิดๆ จะไปเจอช่วงที่ราบก่อนที่จะขึ้นต่อไปจนถึงยอดเขา ตรงที่ราบช่วงนี้มีชุ่ยหูอยู่ แล้วเมื่อสองวันก่อนนี้เอง นึกถึงชุ่ยหูขึ้นมาว่าจะยังอยู่ไหมนะ เพราะครั้งสุดท้ายที่ไป (น่าจะปี-สองปีได้เหมือนกัน) พื้นที่ของชุ่ยหูหดหายไปจากเมื่อสิบสามปีก่อนเกือบครึ่ง เนื่องจากถูกต้นหญ้าแล้วก็ต้นอะไรอีกก็ไม่รู้ 😅(โปรดอภัยให้หมวยเยาวราชหน่อยนะ) บุกรุกพื้นที่ลงไปในน้ำเรื่อยๆ แต่ทั้งๆ ที่เป็นวันทำงาน ฉันได้เจอคนร่วมทางเยอะอยู่ (หมายถึงถ้านับว่าเป็นวันทำงานน่ะ เพราะเสาร์-อาทิตย์คนมาไฮกิ้งกันเยอะอยู่แล้วในวันที่อากาศดีๆ) ออกจะแปลกใจนิดๆ แล้วระหว่างทางที่เดินขึ้นเขานั่นล่ะ ฉันก็ได้คำตอบว่าทำไมมีคนมากัน เขามาดูดอกโหยวถงฮวากันนั่นเอง ฉันเดินไปก็ต้องหลบๆ หน่อย (เดินคล้ายๆ ม้าย่อง😆) เพราะไม่อยากเหยียบลงบนดอกโหยวถงฮวาที่ร่วงลงมาเต็มพื้นเลย ของสวยของงามนี่นะ แล้วกลีบดอกก็ช่างบอบบางซะปานนั้น ใครจะเหยียบได้ลง ใช่ไหมคะ

ฉันชอบไทเปช่วงฤดูใบไม้ผลิที่สุด เพราะจะมีดอกไม้อยู่ทั่วไป และทางเทศบาลได้เลือกปลูกต้นไม้ตามถนนหลากหลายชนิด พรรณไม้ต่างๆ ทยอยกันออกดอกให้ชมไล่กันไปทีละเดือน ทำให้ฉันได้เพลินตายาวตลอดเกือบทั้งปี หมดจากโหยวถงฮวานี่แล้วฉันก็จะรอชมดอกตะแบกที่ตรงแถวบริเวณต้าหูพาร์ก มีต้นตะแบกเรียงกันอยู่สองฝั่งถนนยาวไปตลอดถนนทั้งสาย ฉันเลยเป็นคนชอบนั่งรถเมล์มากกว่านั่งรถไฟฟ้า เพราะนั่งชมดอกไม้ตามถนนไปมันเจริญตาเจริญใจกว่ากันแยะ

ล.ป. (ลืมไป😆): มีคนเก็บดอกโหยวถงฮวาที่ร่วงมากองบนโต๊ะหิน ฉันเลยถ่ายรูปมาฝากกันดู คุณผู้อ่านเห็นหน้าตาดอกไม้นี้แล้วก็ลองจินตนาการภาพเวลาที่ร่วงโปรยปรายลงมาเป็นสายแล้วกันนะคะ😘

Don`t copy text!