ซอกแซกแถวตั้นสุ่ย

ซอกแซกแถวตั้นสุ่ย

โดย : คุณนายฮวง

Loading

นอกจาก นิยายออนไลน์ สนุกๆ แล้ว อ่านเอา ยังมีคอลัมน์ ‘(เรื่องเล่า) 6,200 วันในไต้หวัน’ โดย คุณนายฮวง สาวไทยสุดไฮเปอร์ที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ไทเปได้หลายปีดีดักกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในต่างแดนที่เต็มไปด้วยสีสันและมุมมองหลากหลาย เรื่องราวดีๆ ที่ อ่านเอา อยากให้คุณได้ อ่านออนไลน์

***********************************

สนับสนุนอ่านเอาด้วยการสั่งซื้อหนังสือ “ในสวนอักษร” คลิกที่นี่

ฉันไม่น่าเอ่ยคำว่าเที่ยวทิพย์ในบทความสัปดาห์ที่แล้วเลย มาถึงวันนี้ (22 พฤษภาคม 2021) คนไต้หวันก็ต้องเที่ยวทิพย์กันแล้วค่ะ เพราะเกิดการระบาดขึ้นเมื่อประมาณสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมายอดผู้ติดเชื้อภายในประเทศพุ่งขึ้นมากถึงกว่า 1,500 คน คุณอาจจะคิดว่าจิ๊บจ๊อยมากถ้าเทียบกับเมืองไทย แต่อย่าลืมว่าไต้หวันเป็นเกาะที่มีประชากรหนาแน่นต่อตารางกิโลเมตรสูงที่สุด ความแออัดทำให้การติดเชื้อแพร่ได้อย่างรวดเร็วมาก ตอนนี้เกือบจะใกล้ล็อกดาวน์แล้วค่ะ ทุกอย่างปิดหมด ร้านอาหารให้สั่งกลับบ้านกินได้อย่างเดียว ห้างไทเป 101 ก็มีปิดไปสามวันได้มั้งคะ ออกนอกบ้านก็ต้องใส่แมสก์ ขับรถส่วนตัวถ้ามีคนอยู่ในรถสองคนขึ้นไปต้องใส่แมสก์กันด้วย ไม่งั้นเจอปรับสูงสุดถึง 15,000 หยวน ฉันเองก็อยู่แต่ในบ้านมาเก้าวันแล้วค่ะ ซื้อสุยเจี่ยว (เกี๊ยว) ตุนแช่แข็งไว้กิน ก็ของโปรดคุณชายน่ะนะ แล้วฮีบอกว่ามันมีครบทั้งแป้ง+หมู+ผัก สะดวกสุดแล้ว เอ้าๆ… ตามสบายจ้ะ เก็บตัวรอบนี้หน้าอิฉันคงกลายเป็นเกี๊ยวแหงๆ😅

ตอนแรกก็นึกว่า ถ้าจิตตกสุดๆจะชวนคุณชายขับรถเลียบชายฝั่งไปดูพระอาทิตย์ตกกันแถวตั้นสุ่ย – 淡水 – Tamsui ซะหน่อย เจอประกาศเรื่องใส่แมสก์ในรถเมื่อวานตอนเช้าก็เลย… เที่ยวทิพย์ไปละกันวุ้ย😓 เอ้า เร่เข้ามาค่ะ วันนี้เราไปเที่ยวทิพย์ที่ตั้นสุ่ยกันดีกว่านะ ฉันอยู่ไทเปสิบกว่าปี ไปตั้นสุ่ยนับครั้งไม่ถ้วน แต่ส่วนใหญ่ก็เดินอยู่ตรงแค่ ‘老街 – เหล่าเจีย’ หรือถนนคนเดินที่มีร้านขายของมากมาย จนกระทั่งเมื่อเดือนเมษายนปี 2015 ถึงได้ค้นพบว่าตั้นสุ่ยมีสถานที่น่าสนใจกว่าเหล่าเจียซะอีก ก็เพราะด้วยความอยากรู้ว่าถ้าเดินต่อไปจากเหล่าเจียจะมีอะไรน้อ ตามเคยค่ะ สงสัยใคร่รู้แล้วถ้าไม่ได้คำตอบเดี๋ยวนอนไม่หลับ😂 เราสองคนเลยค้นพบความน่าสนใจอีกรูปแบบหนึ่งของตั้นสุ่ย ต้องบอกว่าดีใจจริงๆ ที่ฉันมีนิสัยผจญภัยนิดๆ อยู่ในตัว เลยได้รู้จักที่ใหม่ๆ อยู่เรื่อย😉

ปกติเวลาไปตั้นสุ่ยเรามักนั่งรถไฟฟ้าไป แล้วก็เริ่มต้นเดินกินขนมเรื่อยเปื่อยด้านที่ติดทะเลก่อน เดินไปจนสุดทาง ก็จะเดินกลับมาทางเหล่าเจียด้านใน ที่มีร้านรวงทั้งสองฟากถนนให้ช็อปและชิมกันอย่างเพลิดเพลิน แต่ครั้งนั้น (หมายถึงเมื่อปี 2015) ฉันเกิดอยากรู้ว่าถนนช่วงต่อจากตรงนั้นไปมีอะไรบ้างไหม เพราะดูแล้วมีตึกแถวเรียงรายอยู่ เพียงแต่ออกจะเงียบเหงาไม่คึกคักเท่าตรงเหล่าเจีย และหลังจากที่เราเดินชมร้านรวงริมทะเลเสร็จ เราจึงเดินต่อไป เดินตัดสนามเด็กเล่นมาตามทางเดินที่มีต้น Wisteia เลื้อยคลุมเป็นหลังคาให้ร่มเงา แถมตอนนั้นออกดอกสีม่วงสวยเชียว ถึงแม้จะยังไม่มาก แต่ก็พอเป็นอาหารตาให้เพลินใจได้

เดินมาจนสุดทางเดิน (ที่แสนสวยและร่มรื่นอีกตะหาก) ก็มาเจอ Tumsui Art gallery ขวางหน้าอยู่ เลยเดินเข้าไปสำรวจซะหน่อย วันที่ไปมีนิทรรศการภาพวาดที่เป็นวิวแถวตั้นสุ่ย ก็ไม่เลวหรอกค่ะ บางภาพดูแล้วก็รู้ว่าเป็นตรงไหน แต่มีอีกหลายๆ ภาพที่ไม่คุ้นตา ทำให้ฉุกใจคิดว่า เออหนอ มากี่เที่ยวไม่เคยไปเดินสำรวจตั้นสุ่ยจริงๆ จังๆ ซะที ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีสถานที่ทางประวัติศาสตร์อยู่บ้าง เอาละ! วันนี้คุณนายฮวงยอมไม่เห็นแก่กินสักวันน่ะ😁

ระหว่างทางไปยัง Little White House
ลานด้านหน้าของ Little White House

ตามแผนที่ที่ฉันหยิบมาจากในแกลเลอรี ดูแล้วคิดว่า ‘Little White House’ หรือชื่อทางการว่า ‘Tumsui Customs Officer’s Residence’ คงไม่น่าไกลมาก ก็เลยกางแผนที่เดินสุ่มๆ ไป ปรากฏว่าทางเดินขึ้นไปนี่ น่ารักดีค่ะ เดินผ่านบ้านคน มีต้นไม้ดอกไม้แถมวิวสวยๆ เดินแล้วรู้สึกดี๊ดี จนต้องฮัมเพลงของ ‘ป๋าเบิร์ด’ …สบ้าย สบาย😊 Little White House หรือในภาษาจีนคือ เสี่ยวไป๋กง – 小白宮 สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิงโน่นแน่ะ โดยเป็นที่พักของเจ้าหน้าที่ศุลกากร ที่ดูแลการเก็บภาษีจากเรือสินค้าต่างชาติที่เข้ามาค้าขายกับเมืองจีน เท่าที่ฉันเดินดูรอบๆ บ้าน ท่าทางเจ้าหน้าที่จะอยู่แบบสโลว์ไลฟ์ได้นะน่ะ เพราะจากตัวบ้านมองเห็นทะเลชัดแจ๋ว ประมาณว่า… ตื่นเช้ามามองออกไป ยังไม่มีเรือเข้าท่า นั่งกินข้าวเช้าไปแบบชิลๆ กินเสร็จเช็คดูอีกที อ้าว! ยังไม่มีเรือเข้ามาอีกเหรอ นั่งอ่านหนังสือพิมพ์จิบกาแฟไปพลางๆ พักสายตาด้วยการมองวิวทะเล เอ๊ะ! เห็นเรือสินค้าแล่นมาไกลๆ โอเค! ได้เวลาทำงานละ ไปแต่งตัวไปทำงานได้… อันนี้เป็นจินตนาการของฉันนะคะ ก็แหม! รอบบ้านออกจะวิวดี มองไปได้ถึงไหนต่อไหน ฮิฮิ

Little White House

ออกจากเสี่ยวไป๋กงเราก็เดินเตร็จเตร่ต่อไป แต่ขี้เกียจกางแผนที่แล้วค่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นบ้านที่หมอแม็คเคย์เคยอยู่ – Reverend Mackay’s Residence  บ้านของครูใหญ่โรงเรียนสตรีตั้นสุ่ย – The House of Maidens บ้านพักของสาธุคุณ – The Residence of Reverends หรือแม้แต่ Oxford College ก็อยู่ติดๆกันละแวกนั้นหมด เดินชมทั้งด้านในด้านนอกของทุกตึก อ่านๆ ประวัติแต่ละที่จนสมองบวม😆 แต่ฉันชอบบริเวณภายในของมหาวิทยาลัยที่ตอนนี้ใช้ชื่อว่า Aletheia University มากๆ ค่ะ ถึงขนาดบอกคุณชายให้ช่วยเช็กว่ามีคณะอะไรที่ฉันพอจะเรียนได้บ้าง อยากอยู่แคมปัสแบบนี้จริง ร่มรื่น สงบ อากาศบริสุทธิ์ คุณชายเธอทะลุกลางป้องขึ้นมาว่า อือ! แล้วก็หนาวสุดๆ… แป่ว! โอ้ฮีช่างมีวิธีดับฝันอิฉันจริงจริ๊ง!! ฮ่าฮ่า แต่ก็ถูกของคุณชายเธอนะ เพราะละแวกไทเปนี่ เวลาวัดอุณหภูมิต่ำสุดตอนหน้าหนาว ส่วนใหญ่ตั้นสุ่ยจะครองแชมป์ตลอด

อนุสาวรีย์ของ Dr.Mackay
ประตูหลักของมหาวิทยาลัย
ภายในมหาวิทยาลัย

ปัจจุบันตัวตึกดั้งเดิมของ Oxford College ที่ทางมหาวิทยาลัย Aletheia University ได้จัดให้เป็นสถานที่แสดงเรื่องราวของ Rev. Dr. George Leslie Mackay ซึ่งน่าจะเรียกได้ว่า เป็นชาวต่างชาติที่มาอยู่ในไต้หวันและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักแก่ชาวไต้หวันมากที่สุด หมอแม็คเคย์เข้ามาประจำในไต้หวันในฐานะมิชชันนารี ที่ไม่เพียงแค่เผยแพร่ศาสนาคริสต์เท่านั้น หากแต่หมอแมคเคย์ได้ช่วยดูแลพัฒนาทั้งการศึกษาและสาธารณสุขแก่ชาวไต้หวันด้วย โดยหลังจากที่วิ่งเต้นติดต่อระดมทุนและความช่วยเหลือจากชาวต่างชาติในไต้หวัน จนสามารถก่อตั้งโรงพยาบาลแม็คเคย์ (Mackay Hospital) ได้สำเร็จในปี ค.ศ.1882 แล้วในปีเดียวกันนั้น ยังได้ก่อตั้ง Oxford College จากเงินทุนที่ไประดมมาจากบ้านเกิดในออกซฟอร์ดเคาน์ตี้ รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถาบันระดับอุดมศึกษาและโรงเรียนผู้หญิงแห่งแรกของไต้หวัน ดีออกปานนี้ ก็ต้องสร้างอนุสรณ์สถานให้หน่อย จริงไหมคะ

Tumsui church
Mackay hospital museum

หลังจากเดินชมมหาวิทยาลัยเสร็จ เราก็เดินตามป้ายกลับมาเหล่าเจีย แวะชมโบสถ์ตั้นสุ่ยและโรงพยาบาลแม็คเคย์ (ภาษาจีนเรียกว่า 馬偕醫院 – หม่าเจียอีเยวี่ยน) ที่ตอนนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ไปแล้ว จบการเดินสำรวจ ‘Unseen Tumsui’ ของคุณนายฮวง แต่จะกลับบ้านเลยก็ไม่ใช่คุณนายฮวงสิคะ😆 เจี๊ยะมื้อเย็นกันดีกว่าน้อ ฮิฮิ

ร้านเกี๊ยว
set menu
จากชั้นสองของร้านเกี๊ยว

ร้านประจำของฉันตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนน ตรงข้ามกับรูปปั้นของหมอแมคเคย์ค่ะ เป็นร้านเล็กๆ ต้องสั่งและจ่ายเงินกันที่ชั้นล่างก่อนเลย แล้วค่อยเดินขึ้นไปหาโต๊ะข้างบน ลองเกือบทุกอย่างในเมนูแล้ว อร่อยใช้ได้เลยค่ะ ขายเป็นชุดโดยมีเกี๊ยวเป็นตัวยืนโรง โอเค ท้องอิ่มละ จบจริงๆ ได้ล่ะนะ😜

 

Don`t copy text!