快炒 – ไคว่เฉ่า

快炒 – ไคว่เฉ่า

โดย : คุณนายฮวง

Loading

นอกจาก นิยายออนไลน์ สนุกๆ แล้ว อ่านเอา ยังมีคอลัมน์ ‘(เรื่องเล่า) 6,200 วันในไต้หวัน’ โดย คุณนายฮวง สาวไทยสุดไฮเปอร์ที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ไทเปได้หลายปีดีดักกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับการใช้ชีวิตต่างแดนที่เต็มไปด้วยสีสันและมุมมองหลากหลาย เรื่องราวดีๆ ที่ อ่านเอา อยากให้คุณได้ อ่านออนไลน์

***********************************

– 快炒 – ไคว่เฉ่า –

เมื่ออาทิตย์ก่อนขณะที่กำลังหารูปประกอบอยู่ ได้เห็นรูปที่แคปหน้าจอเอาไว้ตอนที่บทนำปรากฏโฉมครั้งแรกในเพจอ่านเอา เลยบอกคุณชายว่า “นี่ๆ ยูเชื่อมั้ย บทความของวีกต้นเดือนกรกฎาฯ จะเป็นเรื่องเล่าที่ 52 แล้วนะ” ฮียิ้มตาตี่ถามกลับว่า “จริงเหรอ อย่างนี้ต้องฉลองกันหน่อยสิ you’ve lasted this long😁” ยิ้มที่กำลังฉีกกว้างของอิฉันหุบทันควันเมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย ชิชะ หนอยแน่ะ ตกลงดีใจกะไอรึเปล่า ฮะ!😈 แต่อาตี๋มีหรือจะชนะคุณนายฮวงได้😉 อิฉันก็แก้เกมส์กลับโดยฉับพลันว่า “โอเค งั้นวันที่ 8 หาหมอเสร็จ เราฉลองควบเลยละกัน ไออยากกินติ่มซำที่ W Hotel ยูอย่าลืมโทรจองโต๊ะด้วยนะ” เสร็จอิฉัน ฮ่าๆๆๆ

หน้าร้านไคว่เฉ่า

แต่เป็นความบังเอิญเหมือนกันนะที่ฮีพูดว่าอย่างนี้ต้องฉลอง เพราะตอนที่คิดว่าจะเล่าเรื่องอะไรดีน้า บังเอิญไปเห็นเบียร์นำเข้าสารพัดยี่ห้อในซูเปอร์มาร์เกตหน้าคอนโดฯ (ที่ไต้หวัน หน้าร้อนจะนิยมดื่มเบียร์กัน ดังนั้น จะเห็นเบียร์นำเข้าหลากหลายจากสารพัดประเทศ วางขายกันอย่างโดดเด่นพอสมควรในซูเปอร์มาร์เกต แถมราคาไม่แพงด้วย เห็นหลานกับเพื่อนๆ ฉันว่างั้นนะ) เลยนึกถึงเมื่อสามสิบกว่าปีก่อนน่าจะได้มั้ง มีโฆษณาทีวีชิ้นหนึ่งในเมืองไทย ฉันจำไม่ได้แน่ว่าเป็นโฆษณาเบียร์หรือเหล้า แต่มีคำพูด “อย่างนี้ต้องฉลอง” เป็นคำโฆษณาฮิตติดหูติดปากวัยรุ่นอย่างฉันไปเลย แล้วสมัยนู้นตอนช่วงปลายปี ที่จอดรถของสยามเซ็นเตอร์ (ปัจจุบันคือตึกสยามดิสคัฟเวอรี) จะกลายร่างเป็น Kloster Beer Garden (เบียร์ที่มีสโลแกนเยี่ยมขนาดติดหูฉันจนมาถึงบัดนี้ว่า ‘คลอสเตอร์ ความสุขที่คุณดื่มได้’) ที่พบปะสังสรรค์ของหนุ่มสาวชาวกรุงเทพฯ ชั่วคราวในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน ยังจะพอมีอากาศเย็นๆ ให้ได้บรรยากาศฉลองคริสต์มาส+ปีใหม่อยู่บ้าง ก็เลยทำให้คุณนายฮวงปิ๊งขึ้นมาว่า เล่าเกี่ยวกับร้าน ‘快炒 – ไคว่เฉ่า’ หรือบางร้านก็ขึ้นป้ายว่า ‘熱炒 – เยร่อเฉ่า’ ดีกว่า แล้วร้านอาหารประเภทนี้ก็ยังจัดเป็นร้านโปรดของฉันอีกด้วย

ร้านอาหารประเภท 快炒 นี้ ฉันคิดว่าน่าจะพอเทียบได้กับร้านอาหารตามสั่งของเมืองไทยมั้ง คำว่า 快炒 แปลตรงตัวเลยก็คือ ผัดเร็วๆ แต่จริงๆ แล้ว เมนูจะลานตามาก ไม่ใช่มีแค่ผัดๆ แบ่งเป็นอาหารประเภทผัด ทอด ย่าง ต้ม ฯลฯ หรือบางร้านก็มีซาชิมิขายด้วย และที่ขาดไม่ได้แน่ๆ เลยก็คือ ‘เบียร์’ นี่ล่ะค่ะ ร้านไคว่เฉ่าบางร้านมีสาวเชียร์เบียร์ด้วยนะ โดยมากเบียร์ที่ขายเป็นหลักในร้านคือเบียร์ของไต้หวัน (Taiwan Beer) ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า ร้านไคว่เฉ่าจัดเป็นร้านอาหารที่พบปะสังสรรค์ดื่มกินแบบบ้านๆ หน่อยของชาวไต้หวันก็น่าจะไม่ผิดนัก จำได้ว่าตอนเพื่อนมัธยมยกโขยงมาเที่ยวกันครั้งแรกสุด ฉันตื่นเต้นมาก โทร.ไปถามข้อมูลร้านอาหารจากเพื่อนไต้หวันที่สนิทและช่างกินเหมือนกัน เขาบอกว่า เพื่อนๆ จากเมืองไทยมาเที่ยวล่ะก็ ควรพาไปกิน 快炒 สักครั้ง ไม่งั้นมาไม่ถึงไต้หวัน เขาบอกว่า พอชาวออฟฟิศเลิกงานก็จะมาสังสรรค์กินข้าวดื่มเบียร์กันต่อ มันเป็นเหมือนวัฒนธรรมอย่างหนึ่งเชียวนะ แล้วก็ให้พิกัดร้าน ซึ่งไม่ไกลจากโรงแรมที่ฉันแนะนำให้เพื่อนๆ พัก (ตรงสถานีจงเซี่ยวตุนฮว้า)

เจอคำแนะนำถึงขนาดว่า เป็นเหมือนวัฒนธรรมอย่างหนึ่งแบบนี้ ก็ต้องจัดสิคะ แล้วก็แน่นอนว่าต้องสั่งจานโปรดของฉันในร้านไคว่เฉ่าให้เพื่อนๆ ได้ลองลิ้มชิมรสกัน จานแรกคือ ผัด ‘山蘇 – ซันซู’ ที่ฉันกินครั้งแรก (ตอนมาถึงใหม่ๆ) ก็ติดใจเลยค่ะ กรอบสดอร่อยมากๆ ส่วนใหญ่จะผัดกับปลาตัวเล็กๆ กับซอสเต้าซี่ แต่มีที่ฉันเคยกินที่ร้านอาหารแคะ (客家 – เค่อเจีย) เขาผัดกับปลาตัวเล็กและเมล็ด ‘破布子 – พั่วปู้จึ’ ดอง อร่อยไปอีกแบบ ฉันชอบพั่วปู้จึดองมากกว่าเต้าซี่นะ เปรี้ยวๆ อร่อยดี ซันซูจริงๆ แล้วคือพืชในตระกูลเฟิร์นค่ะ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Bird’s-nest Fern ส่วนพั่วปู้จึมีหลายชื่อค่ะ Glueberry, Indian Cherry ฯลฯ ถ้าอยากรู้มากกว่านี้ลองถามอากู๋ดูนะคะ ปรากฏว่าเพื่อนๆ ชอบมาก คุณหม่ามี้ของฉันก็เช่นกันค่ะ มาพักอยู่กับฉันที่นี่ทีไร เวลาพาออกไปกินข้างนอก ถ้าร้านนั้นมีซันซูล่ะก็ ต้องสั่งให้กินค่ะ จนลูกเขยงงว่าไม่เบื่อเหรอ ฉันก็บอกว่า เมืองไทยไม่มี ให้เขากินไปเถอะ ฉันก็ชอบ😋

จานโปรดอีกหนึ่งจานของคุณนายฮวงคือ ‘溪蝦 – ซีเซีย’ เป็นกุ้งตัวจิ๋วๆ ทอดพอกรอบๆ นิดนึงแล้วก็ผัดเร็วๆ กับต้นหอมและกระเทียมสับ ใส่พริกแดง เกลือ พริกไทยอีกนิด อื้ม! อร่อยสุดๆ เพื่อนๆ ชอบมากค่ะจานนี้ แถมตู้แช่เบียร์ตั้งอยู่ใกล้ๆ โต๊ะที่นั่งอีก แฮปปี้กันสุดๆ😊 มีเพื่อนคนหนึ่ง ก่อนจะมาถึงไทเป นางไม่สบายเป็นหวัดเพิ่งหาย เหลือแค่อาการไอนิดหน่อย ชิมซีเซียเข้าไป ติดใจกินไม่หยุด กินไปก็ไอโขลกๆ ไป ทุกคนบอกว่าอย่ากิน เดี๋ยวไอไม่หายนะ นางบอกว่า หายแล้วๆ ไอ้ที่ไออยู่เนี่ยเพราะขากุ้งมันตำคอ😆 กินซีเซียแกล้มเบียร์ แล้วหวัดนางก็หายไปจริงด้วย ฮิฮิ ต่อจากนั้นทั้งทริป พาเข้าร้านไหน เพื่อนๆ จะต้องถามหาผัดซันซูกับซีเซีย ฮ่าๆๆ

หมูเค็มย่าง

จริงๆ แล้วมีอีกหลายจานในร้านไคว่เฉ่าค่ะ ที่เป็นจานโปรดของฉันก็อย่างเช่น หอยตลับผัดใส่ใบโหระพา – 炒蛤蜊 (เฉ่าเก๋อลี่), หมูเค็มย่าง – 烤鹹豬肉 (เข่าเสียนจูโร่ว) ซึ่งเป็นอาหารของชาวจีนแคะที่ฉันว่าส่วนประกอบลงตัวดีค่ะ เป็นหมูติดมันรสชาติเค็มปะแล่มๆ จิ้มซอสกระเทียมสดในน้ำส้มสายชู แกล้มด้วยต้นกระเทียมสด อร่อยดี เวลาที่ไม่ได้ทำกับข้าวกินเอง ฉันก็มักจะไปกินที่ร้านไคว่เฉ่านี่ล่ะ สั่งอาหาร แป๊บเดียวก็ได้กินแล้ว เร็วดี แล้วที่ชอบที่สุดคือ ให้ตักข้าวเอง จะกินแค่ไหนก็ตักได้ตามใจชอบ ไม่ใช่แบบตามภัตตาคารที่จะต้องใช้สั่งเอา ซึ่งบางทีฉันแค่อยากได้ข้าวเติมอีกนิดเดียว แต่ถ้าสั่งมาอีกชามนึงมันก็เยอะไป กินไม่หมด เหลือทิ้งเปล่าๆ เพื่อนมัธยมคนหนึ่งมาเที่ยวไทเป นางก็เห็นด้วยกับฉันค่ะ บอกว่า ชอบร้านไคว่เฉ่า ชอบแนวคิดเรื่องให้ตักข้าวเอง อยากกินแค่ไหนก็ตักแค่นั้น ไม่เสียของดี นางชอบ อ้อ! ร้านไคว่เฉ่านี่ให้กินข้าวฟรีนะคะ แล้วราคาอาหารแต่ละจานก็ไม่ได้แพงเว่อร์อะไร ราคาตั้งแต่ร้อยหยวนนิดๆ ขึ้นไป จานขนาดประมาณ 2-3 คนกินกำลังดี

ร้านไคว่เฉ่าบางแห่งก็อาจมีตู้ใส่พวกอาหารทะเลสดตั้งอยู่ เรียกว่าสั่งอาหารทะเลสดๆ กินกันได้ด้วย แล้วก็มีเบียร์ราคาถูกเพื่อเรียกลูกค้าก็มี ฉันเคยเจออยู่แห่งนึงที่เกาสง เจอเบียร์ไต้หวันแค่ขวดละสิบหยวน นึกว่าแค่ติดป้ายหลอกให้ลูกค้าเข้าร้านรึเปล่า ตอนคิดเงิน เออแฮะ คิดแค่ขวดละสิบหยวนจริงด้วย แล้วมีบางร้านที่แบบว่า ถ้าลูกค้าเอาเหล้ามาดื่มเอง ดื่มไม่หมด รับฝากเหล้าก็มีด้วยนะ จะว่าไปก็คล้ายๆ ผับในกรุงเทพฯ สมัยที่ฉันเป็นวัยรุ่นน่ะ ร้านไคว่เฉ่าในตัวเมืองไทเปอาจจะหายากหน่อย แต่ถ้าออกมารอบนอกนี่ อย่างแถวบ้านฉัน มีหลายร้านให้เลือกตามสบายเลย ส่วนใหญ่ก็เปิดถึงดึกๆ อย่างว่าแหละค่ะ เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ดื่มกินนี่นะ คนก็มากินมาดื่ม คุยเมาท์กันยาวไป

คุณชายของอิฉันเนี่ยจัดได้ว่าเป็นอาจารย์ที่ลูกศิษย์นิยมชมชอบอยู่ บางทีพวกลูกศิษย์ที่จบไปทำงานแล้ว โทร.มานัดกินข้าวบ่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นตามภัตตาคารในเมือง แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง ลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งโทร.มานัด บอกว่าเพื่อนในกลุ่มที่ไปเรียนต่อที่อเมริกาปิดเทอมกลับมาเยี่ยมบ้าน แล้วจะได้ไปฝึกงานกับทางดิสนีย์ เลยจะนัดเลี้ยงฉลองกันหน่อย นัดรวมพลที่คอฟฟี่ช็อปกันก่อนเพราะบางคนเลิกงานช้า วันนั้นฮีกลับบ้านดึกมาก เล่าให้ฉันฟังว่า ไปกินกันที่ร้านไคว่เฉ่า เพราะคนที่กลับมาจากอเมริกาขอไปกิน โดยบอกว่า อยู่ที่โน่นคิดถึงที่สุดคืออาหารและเบียร์ไต้หวันในร้านไคว่เฉ่า ฉันฟังแล้วก็ขำๆ เออ มันก็คงเหมือนกับเวลาที่ฉันกลับเมืองไทย ขอฉลองด้วยส้มตำ+ซุบหน่อไม้ก่อนนะ แล้วอย่างอื่นค่อยว่ากัน😋😉

Don`t copy text!