In and Out

In and Out

โดย : คุณนายฮวง

นอกจาก นิยายออนไลน์ สนุกๆ แล้ว อ่านเอา ยังมีคอลัมน์ ‘(เรื่องเล่า) 6,200 วันในไต้หวัน’ โดย คุณนายฮวง สาวไทยสุดไฮเปอร์ที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ไทเปได้หลายปีดีดักกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับการใช้ชีวิตต่างแดนที่เต็มไปด้วยสีสันและมุมมองหลากหลาย เรื่องราวดีๆ ที่ อ่านเอา อยากให้คุณได้ อ่านออนไลน์

***********************************

– In and Out –

สนับสนุนอ่านเอาด้วยการสั่งซื้อหนังสือ “ในสวนอักษร” คลิกที่นี่

วันนี้ 15 สิงหาคม 2020 เกาสงก็ได้นายกเทศมนตรีคนใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งซ่อม (補選 – ปู๋ส่วน) เรามาว่ากันถึงเหตุผลที่ว่าทำไมถึงต้องมีการเลือกตั้งซ่อมกันก่อนละกันนะ สาเหตุก็คือ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา นายกเทศมนตรีคนที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2018 นายหันกั๋วอวี๋ (韓國瑜) ได้ถูกประชาชนชาวเกาสงลงคะแนนโหวตถอดถอนให้ออกจากตำแหน่ง

ถ้ายังจำกันได้ ฉันเคยเล่าไว้ในบทระบอบการปกครองของไต้หวันว่า ประชาชนมีสิทธิ์โหวตถอดถอน ส.ส. หรือแม้แต่ประธานาธิบดีออกจากตำแหน่งได้ โดยต้องมีผู้ลงคะแนนให้ออกเป็นจำนวนกี่เปอร์เซ็นต์ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย และในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของไต้หวัน ยังไม่เคยประสบความสำเร็จในการโหวตถอดถอนให้ใครออกได้ แม้แต่เมื่อตอนกลางปี 2018 ที่ในเขตบ้านของฉันมีการจัดลงคะแนนโหวตให้ ส.ส. ประจำเขตออกจากตำแหน่ง ก็ยังไม่สำเร็จ นาย ส.ส.คนนั้นก็อยู่ในตำแหน่งต่อไปจนครบวาระ

นายเฉินฉีไม่

แต่แล้วนายหันกั๋วอวี๋แห่งพรรคกั๋วหมินตั่ง ก็เป็นคนแรกที่สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ของวงการเมืองไต้หวันจนได้ ทั้งๆ ที่เขาได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกเทศมนตรีเมืองเกาสง ด้วยคะแนนที่จัดว่าถล่มทลายพอสมควรคือ 892,545 คะแนน (53.87%) ทิ้งห่างคู่แข่งขันจากพรรคหมินจินตั่ง นายเฉินฉีไม่ (陳其邁) ที่ได้คะแนน 742,239 คะแนน (44.80%) แต่เมื่อเข้ารับตำแหน่งได้ไม่ทันไร ก็ขอลากิจไปลงเลือกตั้งประธานาธิบดีแข่งกับไช่อิงเหวินเมื่อต้นปีนี้ แล้วก็อย่างที่ทราบผลกันว่า ไช่อิงเหวินชกป้องกันตำแหน่งไว้ได้

ลองคิดดูนะคะ เป็นตรรกะง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย ก็ประชาชนเขาโหวตให้มาเป็นนายกเทศมนตรีเมื่อตอนปลายปี 2018 ซึ่งหลังจากรับตำแหน่งก็เดินสายไปประเทศโน้นประเทศนี้ แล้วต้นปี 2019 ก็ประกาศว่าจะลงสมัครเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดี คนเขาก็ต้องรู้สึกว่ายังไม่ได้ทำงาน สร้างผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อเมืองเกาสงเลย แล้วก็มาขอลากิจซะแล้ว มันก็น่าที่ชาวเกาสงเขาจะโมโหอยู่หรอก ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา นายกเทศมนตรีเกาสงเป็นคนของหมินจินตั่ง พูดได้ว่าเกาสงเป็นฐานที่มั่นของพรรคหมินจินตั่ง แต่เมื่อชาวเกาสงให้โอกาสหันกั๋วอวี๋ แล้วเขาไม่ทำตามที่หาเสียงไว้ มันก็ไม่แปลกที่มีการเคลื่อนไหวเพื่อให้มีการลงคะแนนโหวตให้ Out ไป

เบอร์ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม นายกเทศมนตรีเกาสง

ตอนที่เริ่มมีการรณรงค์โหวตออกจากตำแหน่งนี่ คุณชายพูดว่า มันไม่ง่ายหรอก ไม่เคยสำเร็จสักที แต่ฉันบอกคุณชายว่า ลูกบอลมันกลม ไม่มีอะไรแน่นอนหรอก แล้วมันก็ต้องมีครั้งแรกทุกเรื่องแหละ แหม ถ้าฉันซื้อหวยถูกเหมือนทำนายผลเลือกตั้งบ้างคงรวยไปแล้วนะนี่ 😆 ก็ไม่ว่าจะเป็น vote in or out เรื่องของนายหันกั๋วอวี๋นี่น่ะ คุณนายฮวงทายผลถูกหมดทั้งสองหนเลยค่ะ 😅😂😆

แล้วที่ฉันทายถูกซะยิ่งกว่าถูกอีกก็คือ ผลมติถอดถอนน่ะ สูงกว่าคะแนนเสียงที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาซะอีก นั่นคือ 939,090 คะแนน (97.4%) ขออธิบายตรงนี้นิดนึงนะคะ ตามกฎหมายการเลือกตั้งของไต้หวัน ถ้ามีผู้ลงคะแนนเสียงถอดถอนเกินกว่า 25% ของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนในเมืองเกาสง ซึ่งเท่ากับ 574,996 คะแนน ก็จะสามารถทำให้หันกั๋วอวี๋ออกจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีได้ทันที แต่นี่ผลออกมาถล่มทลายอย่างชนิด ประวัติศาสตร์คงต้องจารึกไว้กันเลย อ้อ แล้วก็ตามกฎหมายเลือกตั้ง เมื่อถูกโหวตให้ออกจากตำแหน่งแบบนี้แล้ว หันกั๋วอวี๋ถูกตัดสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งไปอีกสี่ปี

เฉินฉีไม่ไปใช้สิทธิ์ลงคะแนน

และตามกฎหมายหากวาระการดำรงตำแหน่งเหลือนานกว่า 2 ปี จะต้องจัดการเลือกตั้งซ่อมนายกเทศมนตรีคนใหม่ขึ้นภายในสามเดือน ดังนั้น วันนี้จึงเป็นวันที่ชาวเกาสงได้ออกเสียงลงคะแนนเลือกนายกเทศมนตรีคนใหม่เข้ามา ซึ่งครั้งนี้ชาวเกาสงแท้อย่างนายเฉินฉีไม่ ก็ชนะคู่แข่งอีกสองรายจากพรรคกั๋วหมินตั่งกับพรรคหมินจ้งตั่งไปแบบขาดลอยด้วยคะแนน 671,804 (70.03%) อันดับสองคือนางหลี่เหม่ยเจิน (李眉蓁) จากพรรคกั๋วหมินตั่ง ได้คะแนน 248,478 (25.9%) ท้ายสุดคือนายอู๋อี้เจิ้ง (吳益政) จากพรรคหมินจ้งตั่ง ได้คะแนน 38,960 (4.06%)

แต่ครั้งนี้ฉันรู้สึกว่า คนออกมาใช้สิทธิ์กันน้อยกว่าครั้งที่แล้วนะ อาจจะเป็นเพราะเบื่อนักการเมืองกันรึเปล่า เดาเอาค่ะ เพราะเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว นางหลี่เหม่ยเจินเป็นข่าวประจำวันอยู่พักใหญ่ เนื่องจากมีคนเปิดเผยว่าวิทยานิพนธ์ปริญญาโทที่นางส่งให้ทางมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองเกาสงนั้น เหมือนเป๊ะทุกบรรทัดกับวิทยานิพนธ์ของผู้อื่นที่เคยทำไว้ก่อนหน้านั้นหลายปี (คนละมหาวิทยาลัย) เป็นเรื่องสิคะ ฉันดูข่าวทีวีเห็นนางร้องไห้บอกว่านางขอยกเลิกสิทธิ์ในปริญญาโทใบนั้น ดีกรีปริญญาโทไม่มีความสำคัญเลยสักนิดสำหรับนาง นางขอเดินหน้ารณรงค์หาเสียงต่อไป แหม ได้ยินข่าวนี้แล้วก็เจ็บหัวจริงๆ ใช่จ้ะ ความสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่ปริญญา ประเด็นสำคัญคือ คุณลอกเขามา คุณหลอกลวงคณะกรรมการวิทยานิพนธ์ แล้วแบบนี้จะให้ประชาชนเขาเชื่อใจคุณได้อย่างไร แค่วิทยานิพนธ์ คุณก็ไม่ทำเองแล้วอะ แล้วคุณจะทำอะไรให้เมืองเกาสงได้เหรอ คือถ้าฉันเป็นชาวเกาสง ก็คงไม่ลงคะแนนให้นางแน่ๆ ล่ะค่ะ

บรรยากาศช่วงที่นับคะแนนอยู่

อย่างไรก็ตาม ฉันขอสารภาพว่า ฉันชอบระบบการเลือกตั้งของไต้หวันจริงๆ ค่ะ ถ้าเลือกเข้ามาแล้ว ไม่มีผลงาน ไม่ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองเลย ก็ยังสามารถลงคะแนนถอดถอนให้ออกจากตำแหน่งได้ มีทั้ง vote in และ vote out แบบนี้ ประชาชนจึงใช้สิทธิ์ใช้เสียง มีส่วนในการบริหารประเทศได้บ้าง ค่อยรู้สึกว่าอำนาจเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เอเมน😊

 

Don`t copy text!