水燈節 – สุ่ยเติงเจี๋ย

水燈節 – สุ่ยเติงเจี๋ย

โดย : คุณนายฮวง

Loading

นอกจาก นิยายออนไลน์ สนุกๆ แล้ว อ่านเอา ยังมีคอลัมน์ ‘(เรื่องเล่า) 6,200 วันในไต้หวัน’ โดย คุณนายฮวง สาวไทยสุดไฮเปอร์ที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ไทเปได้หลายปีดีดักกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับการใช้ชีวิตต่างแดนที่เต็มไปด้วยสีสันและมุมมองหลากหลาย เรื่องราวดีๆ ที่ อ่านเอา อยากให้คุณได้ อ่านออนไลน์

***********************************

– 水燈節 – สุ่ยเติงเจี๋ย –

สนับสนุนอ่านเอาด้วยการสั่งซื้อหนังสือ “ในสวนอักษร” คลิกที่นี่

วันนี้ (22 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020) ไทเปอากาศดี ฝนไม่ตก แดดก็ออก ฉันเลยได้ฤกษ์ไปงานเทศกาลลอยกระทงที่เทศบาลนครไทเปจัดขึ้นที่ Chengmei Riverside Park (成美左岸河濱公園 – เฉิงเหม่ยจั่วอั้นเหอปิงกงหยวน) ตรงช่วงบริเวณ Rainbow Bridge (彩虹橋 – ไฉ่หงเฉียว) อันว่างานเทศกาลลอยกระทงที่ในภาษาจีนกลางเรียกว่า ‘水燈節 – สุ่ยเติงเจี๋ย’ นี้ จัดได้ว่าเป็นงานประจำปีที่ทางเทศบาลนครไทเปเป็นโต้โผจัดขึ้นเป็นปีที่สี่แล้ว

เอ ไม่แน่ใจว่าฉันเคยเล่าให้ฟังบ้างไหม มีชาวไต้หวันเป็นจำนวนไม่น้อยที่แต่งงานกับชาวต่างชาติ ซึ่งบรรดาคู่สมรสชาวต่างชาตินี้มีคำศัพท์เฉพาะเรียกว่า ‘新住民 – ซินจู้หมิน’ ถ้าแปลกันตรงตัวเป๊ะก็คือ ผู้อยู่อาศัยใหม่ ฉันเองก็จัดเป็นซินจู้หมินกะเค้าเหมือนกันนะ แต่อาจจะเก่า (หรือแก่😅) ไปหน่อยเพราะอยู่มานานพอสมควร ฮ่าๆ😄 โดยมากแล้วซินจู้หมินหลักๆ ก็มาจากประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แถวๆ บ้านเรานี่ล่ะ รองลงมาก็น่าจะเป็นชาวเกาหลีและญี่ปุ่น ชาวตะวันตกก็มีบ้างประปราย และเมื่อแต่งงาน มีลูก (ซึ่งเรียกกันว่า ‘新住民第二代 – ซินจู้หมินตี้เอ้อไต้’ = ผู้อยู่อาศัยใหม่รุ่นที่สอง) กันเป็นจำนวนเยอะพอสมควร ทางรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลกลางหรือเทศบาลนครทั้งหลาย จึงต้องให้ความสนใจกันหน่อย มีการบริหารจัดการต่างๆ เช่น บรรจุภาษาของประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นวิชาเลือกในโรงเรียนประถมของรัฐทั่วเกาะ มีการจัดตั้งสมาคมซินจู้หมิน หรือแม้กระทั่งจัดงานประเพณีของชาติซินจู้หมินต่างๆ เพื่อให้ความรู้แก่ลูกครึ่งเหล่านี้ และชาวไต้หวันที่สนใจในวัฒนธรรมของชาติอื่นๆ

เนื่องจากเทศกาลลอยกระทงเป็นวัฒนธรรมของชาติไทยเรา ที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ดังนั้น งานเทศกาลลอยกระทงวันนี้จึงมีประเทศไทยของเราเป็นนางเอก แต่จะจัดงานแล้วมีซุ้มของชาติเดียว มันก็ออกจะหงอยๆ ไปหน่อยนะ ว่าแล้วก็เชิญประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงของเรามาร่วมสนุกกันด้วยดีกว่า

ซุ้มคึกครื้นจากอินโดนีเซีย
ซุ้มเวียดนามก็คนเยอะ

วันนี้ฉันเลยได้เห็นชาวประชาเพื่อนบ้านทั้งหลาย ใส่ชุดประจำชาติเดินกันขวักไขว่พอสมควร มีทั้งชุดอ่าวหญ่าย (Ao dai) ของเวียดนาม ชุดเกบาย่า (Kebaya) ของอินโดนีเซีย ส่วนหนุ่มๆ ในซุ้มของฟิลิปปินส์ก็ใส่ชุดบาร็อง ตากาล็อก (Barong Tagalog) ที่ฉันดูแล้วออกแนวประยุกต์เล็กน้อย เพราะดูเหมือนจะไม่ได้ตัดด้วยผ้าใยสับปะรด ส่วนซุ้มไทยเราก็ไม่แพ้ชาติใดค่ะ จัดเต็มกันพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นของแจกในงานสำหรับคนที่แวะเยี่ยมเก็บแสตมป์ครบทุกซุ้ม หรือขนมไทยๆ ให้ลองชิมกัน

แล้วก็แน่นอนค่ะ… แฟชั่นชุดไทยของเรา ที่ฉันชอบที่สุดคือเสื้อของน้องคนหนึ่งในซุ้มไทยเรา น้องเขาทำหน้าที่สอนทำพวงกุญแจกระทง DIY ให้คนที่มาชมงานอยู่น่ะค่ะ เห็นด้านหลังของเสื้อน้องที่ดูแล้วคล้ายเสื้อม่อฮ่อม มีเขียนคำว่า ‘ลูกหลานไทย’ ตัวเบ้อเริ่ม😍 แต่พอเดินอ้อมไปดูด้านหน้า ตัวกระดุมเป็นกระดุมขัดแบบสไตล์จีนค่ะ เก๋จริงๆ ช้อบชอบ อิฉันชักอยากได้มั่ง😜 คนเข้ามาทำกันเยอะมาก คิวยาวเหยียด น้องเขาวุ่นหัวหมุนทีเดียว ฉันเลยได้แต่แอบถ่ายรูปด้านหลังของเสื้อมา ไม่อยากรบกวนน้องเขา

ซุ้มไทย มีขนมให้ชิมฟรี

ซุ้มไทยจัดสอนพับผ้าขนหนู

นอกจากซุ้มโชว์อาหารการกินและสินค้างานหัตถกรรมเหล่านี้แล้ว ก็ยังมีการแสดงฟ้อนรำของแต่ละชาติบนเวที มีมุมเกมส์ต่างๆ ส่วนใหญ่ก็คือทดสอบความรู้เกี่ยวกับชาติต่างๆ แบบง่ายๆ เช่น จับคู่แลนด์มาร์กของประเทศทั้งหลาย หรือจับคู่อาหารจานเด็ด ฯลฯ แต่ที่ฉันดูแล้วสนุกสุดๆ ก็คือ สอนเตะตะกร้อ คนดูอาจจะคิดว่าไม่ยาก ฉันเคยลองเตะสมัยอยู่ปีหนึ่งที่ธรรมศาสตร์ จะเตะให้ไปในทิศทางที่ต้องการนี่ยากนะคะ😁

แต่ที่สะดุดตาฉันอย่างจังคือตรงบริเวณซุ้มของไทยเรา มีโต๊ะนึงแขวนป้ายไว้ว่า Thai Culture Association of Taipei อ่านป้ายครั้งแรกก็งงๆ ว่า นี่มันสมาคมอะไรหว่า ไม่เคยได้ยินเลยแฮะ แล้วเสื้อทีมก็น่ารักจัง เป็นเสื้อยืดสีขาวสกรีนน้องช้างหน้าตาน่าเอ็นดู ใช้งวงโบกธงไทยกับไต้หวัน แถมมีคำว่าไทยพร้อมหัวใจน้อยๆ อยู่เคียงข้างอีกตะหาก

เสื้อช้างน่ารักมากกกกก

คุณนายฮวงเลยสวมวิญญาณนักข่าวหัวเห็ด😆 ถามอาหมวยสองคนที่ยืนอยู่ด้านข้างว่าเป็นสมาคมอะไรกันเหรอจ๊ะ แล้วของบนโต๊ะนี่คืออะไร ให้เล่นเกมส์เหรอ หมวยทั้งสองคงจะงงเล็กๆ กะอิป้าเหมือนกัน ก็หน้าตาดูออกจะเป็นคนท้องถิ่น แล้วอ่านหนังสือไม่ออกรึยังไง เลยถามป้ากลับว่า ถามทำไม อิฉันเลยต้องแนะนำตัวว่า เป็นคอลัมนิสต์ของนิตยสารออนไลน์ที่เมืองไทยจ้ะ อยากได้ข้อมูลไปเขียนคอลัมน์น่ะ หมวยยื่นโทรศัพท์มือถือมาให้เลยค่ะบอกว่า เปิดให้ดูหน่อยนิตยสารอะไร เฮ้ย หมวยมีคีย์บอร์ดภาษาไทยในมือถือด้วยอะ หรือนางจะเป็นซินจู้หมินตี้เอ้อไต้ล่ะเนี่ย ฉันเลยถามเป็นภาษาไทยว่า เป็นคนไทยเหรอคะ นางตอบกลับเป็นภาษาไทยสำเนียงแปร่งๆ นิดๆ ว่า ไม่ใช่ ฉันเปิดเฟซบุ๊กเพจอ่านเอาให้นางดู เปิดหน้าคอลัมน์ของอิฉันในเว็บให้ดู ตานี้หมวยเลยหันไปสะกิดอาเจ็กที่ยืนอยู่ด้านหลังโต๊ะนั้นเรียกให้ออกมาบอกว่า มีนักข่าวจะมาสัมภาษณ์

ชมรมคนรักวัฒนธรรมไทย

ที่แท้อาเจ็กคือหัวหน้าชมรมคนรักวัฒนธรรมไทย (泰國文化體驗社 – ไท่กั๋วเหวินฮว้าถี่เอี้ยนหุ้ย จากชื่อภาษาจีน ขอแปลประมาณนี้ละกันนะคะ) อาเจ็กอธิบายให้ฉันฟังอย่างกระตือรือร้นว่า ชมรมนี้เป็นชมรมหนึ่งของวิทยาลัยชุมชนซงซัน (Songshan Community College) สมาชิกมีทุกช่วงอายุ ตั้งแต่วัยรุ่นน้อยๆ ไปจนวัยรุ่นใหญ่หน่อยเช่นอาเจ็กนี่ล่ะ แล้วก็จากหลายวิทยาลัยชุมชนด้วยกัน ไม่ใช่เฉพาะแค่จากเขตซงซันเท่านั้นนะ สมาชิกทั้งหมดคือชาวไต้หวันที่ชื่นชอบประเทศไทย ทางชมรมมีจัดคอร์สสอนภาษาและวัฒนธรรมไทย (โดยอาหมวยทั้งสองที่ฉันถามครั้งแรกนั่นก็คือ ครูสอนให้ชมรมนั่นล่ะ โห หมวยไต้หวันสอนภาษาไทย😮👍) ซึ่งไม่ใช่แค่สอนในชั้นเรียนแค่นั้นนะ มีพาไปศึกษานอกสถานที่ด้วย เช่น พาไปกินอาหารไทย พาไปชมที่ฝึกสอนมวยไทยแถวเมืองจงลี่ ใครสนใจอยากลองเรียนดูก็ได้ แถมปีที่แล้ว อาเจ็กนำทีมมาเที่ยวเมืองไทยกันแบบชิลๆ อีกตะหาก แล้วเสื้อทีมน้องช้างโบกธงคู่นี้ อาเจ็กก็บอกว่าสั่งทำจากเชียงใหม่ โอ้ แม่เจ้า เชื่อแล้วค่ะว่า ชมรมนี้รักเมืองไทยจริงๆ😉😊

นายกเทศมนตรีไทเปกำลังชิมลูกชุบที่ซุ้มไทย
นายกเทศมนตรีไทเปและรองผู้อำนวยการสำนักการค้าและเศรษฐกิจไทย
นายกเทศมนตรีและผู้แทนหน่วยงานประเทศอาเซียนต่างๆ จัดกระทงเตรียมพร้อมที่จะลอย

คุยๆ กันอยู่ นายกเทศมนตรีไทเปก็มาถึงเพื่อทำพิธีเปิดงาน คุณนายฮวงเลยต้องสวมวิญญาณนักข่าวจริงๆ ละ😆 วิ่งตามขบวนนักข่าวไต้หวัน พยายามชูมือถือสูงๆ เข้าไว้ ถ่ายรูปแชะๆๆๆ ไปเรื่อยไว้ก่อน ชัดไม่ชัดไม่สนอะ ฮ่าๆ หลังจากที่นายกเทศมนตรีกล่าวเปิดงานจบ ก็มาถึงคิวของฝ่ายไทยเรากล่าวตอบ ท่านรองผู้อำนวยการสำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย (ไทเป) ได้กล่าวขอบคุณทางเทศบาลนครไทเปที่จัดงานนี้ และได้เล่าถึงความเป็นมาของประเพณีลอยกระทงให้ฟังกันพอสังเขป จากนั้นก็เป็นรายการให้นายกเทศมนตรีได้ลอยกระทงที่ริมฝั่งแม่น้ำ แต่เพราะเขามีราวกั้นเป็นแนวที่ตรงท่านั้น เลยใช้กระจาดเล็กๆ ที่มีด้ามยาวมากมาช่วย โดยวางกระทงลงไปบนกระจาด แล้วค่อยหย่อนลงน้ำลอยออกไป

อ้ะๆ อย่าเพิ่งคิดว่าจะก่อให้เกิดขยะในแม่น้ำจีหลงนะคะ แหม เมืองไทเปซะอย่าง ฉันเห็นเรือแพยางสองลำลอยอยู่กลางแม่น้ำ ท่าทางเตรียมพร้อมที่จะเก็บกระทงที่คนมาร่วมงานวันนี้จะลอยกัน เก็บซะก่อนที่บรรดากระทงจะลอยตามแม่น้ำไปออกมหาสมุทรแปซิฟิก เคยบอกแล้วไงคะว่า ‘ไต้หวันรักษ์โลก’ 😊

 

Don`t copy text!